เผยแพร่ |
---|
ในยุคที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมกำลังเปลี่ยนแปลงทุกแง่มุมของชีวิต การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจอาหารให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน ภาคอุตสาหกรรมอาหารไม่เพียงแต่ต้องตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีความหลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่ยังต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการและปลอดภัยต่อสุขภาพด้วย
ด้วยเหตุนี้ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. ที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนางานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรและอาหาร เพื่อยกระดับมาตรฐานการเกษตรของประเทศและสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน จึงได้เปิดตัวเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ด้านอาหารให้แก่ผู้ประกอบการกลุ่มเป้าหมายที่สนใจเจรจาธุรกิจเพื่อรับถ่ายทอดเทคโนโลยีในงาน THAIFEX – Anuga Asia 2024 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 พ.ค. – 1 มิ.ย. 67 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้แนวคิด ‘Food Tech : เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก พลิกธุรกิจอาหารด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม’
สำหรับงาน THAIFEX – Anuga Asia 2024 ถือเป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่รวบรวมผู้ประกอบการมากกว่า 52 ประเทศ ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก อาทิ เอเชียตะวันออก อาเซียน สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง เป็นต้น ถือเป็นเวทีในการสร้างเครือข่าย เพื่อเจรจาการค้ากับผู้ผลิตและตัวแทนจำหน่ายในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ตลอดจนเป็นพื้นที่ในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการขยายตัวของอุตสาหกรรมอาหารของไทยได้เป็นอย่างดี
ขณะเดียวกัน ในปีนี้มีผู้ซื้อและผู้นำเข้าจากทั่วโลกให้ความสนใจเดินทางมาร่วมงานกว่า 138,000 ราย ซึ่งตลอดการจัดงานทั้ง 5 วัน สามารถสร้างมูลค่าการสั่งซื้อไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท โดยประเทศที่มีการสั่งซื้อมากที่สุด ได้แก่ ประเทศไทย สาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย เกาหลีใต้ และมาเลเซีย ตามลำดับ และสินค้าที่มีการซื้อขายมากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ อาหารสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม อาหารแช่แข็ง และอาหารทะเล
ทางด้าน สวก. ที่ได้สนับสนุนทุนวิจัยในแผนงานวิจัยความมั่นคงด้านอาหารและโภชนาการของประเทศไทย และ rains for thailand food valley ปัจจุบันมีโครงการวิจัยด้านอาหารที่มีศักยภาพในเชิงพาณิชย์ไม่น้อยกว่า 20 ผลิตภัณฑ์ ซึ่งได้เปิดตัวเทคโนโลยีเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ด้านผลิตภัณฑ์อาหารในงานดังกล่าว ถือเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการของไทยได้รับผลประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ที่ได้พัฒนาจากงานวิจัย ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพและการยอมรับจากผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ทั้งยังมีประโยชน์ต่อภาคการเกษตรที่จะแสดงให้เห็นถึงโอกาสในการต่อยอดผลผลิตที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนี้ การนำเสนอผลงานวิจัยของ สวก. ยังได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานเป็นอย่างมาก โดยทุกคนต่างให้การสนใจผลงานวิจัยเหล่านี้ เนื่องจากสามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาธุรกิจอาหารไทยได้จริง และมีคุณค่าทางโภชนาการ ปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยผลงานวิจัยที่ได้นำไปจัดแสดงในงาน THAIFEX – Anuga Asia 2024 แบ่งออกเป็นดังนี้
- ผลงานวิจัยที่มีผู้ประกอบการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี (ร่วมออกบูธกับ สวก.) จำนวน 8 ราย/ผลิตภัณฑ์ อาทิ ผลิตภัณฑ์ผักเคลผง จากบริษัท ฟาร์มสีสด จำกัด, ชารอยบอสไม่มีคาเฟอีน จากบริษัท อะฟีล อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด, กาแฟลดสารอะคริลาไมด์ จากบริษัท สยาม สมาร์ต อินโนเวชั่น จำกัด, ผลิตภัณฑ์สาหร่ายฟองเต้าหู้ทอดกรอบ จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตภัณฑ์ขนมแปรรูปบ้านโพธิ์งาม อ.เมือง จ.นครนายก เป็นต้น
- ผลงานวิจัยที่มีผู้ประกอบการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี จำนวน 20 ผลิตภัณฑ์ อาทิ ผลิตภัณฑ์ซุปไก่ผักรวม Malila, ผลิตภัณฑ์เส้นบุกคุมหิว, ผลิตภัณฑ์ซอสหมักเนื้อสมุนไพร, ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโปรตีนสกัดจากไข่น้ำ, เครื่องดื่มน้ำนมข้าวยาคูออร์แกนิค เป็นต้น
- ต้นแบบผลงานวิจัยพร้อมใช้ด้านอาหารและอาหารเสริมสุขภาพ จำนวน 35 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่
-
- โครงการ ‘การบริหารจัดการเพื่อพัฒนา RAINS for Thailand Food Valley : Chiang Rai Food Valley’ ประจำปี 2565-2566 จำนวน 10 ผลิตภัณฑ์ เช่น ไซรัปเยื่อหุ้มเมล็ดโกโก้ ข้าวอบกรอบญี่ปุ่นผสมแมคคาเดเมีย เป็นต้น
- โครงการ ‘การบริหารจัดการเพื่อพัฒนา RAINS for Thailand Food Valley ภาคกลาง’ ประจำปี 2565-2566 จำนวน 14 ผลิตภัณฑ์ เช่น เส้นผัดไทย เครื่องดื่ม MCT oil ไข่ต้มจากพืช เป็นต้น
- โครงการ ‘การบริหารจัดการเพื่อพัฒนา RAINS for Thailand Food Valley ภาคอีสานตอนล่าง’ ประจำปี 2564 และ ปี 2566 จำนวน 5 ผลิตภัณฑ์ เช่น แคบโคขุน ซุปหางวัวต้มยำ เป็นต้น
- โครงการ ‘การบริหารจัดการเพื่อพัฒนา RAINS for Semi-Industrial Food Valley (Functional food and Personalized food)’ ประจำปี 2566 จำนวน 1 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ขนมอาลัวสมุนไพร
- โครงการ ‘แผนงานวิจัย RAINs for Lower Central Provinces Food Valley’ ประจำปี 2565 จำนวน 3 ผลิตภัณฑ์ เช่น ข้าวเม่ามี่วีแกนบอล (ข้าวเม่าหมี่วีแกนบอล) คุกกี้ลำดวนผสมข้าวไรซ์เบอร์รี่
- โครงการ ‘การบริหารจัดการเพื่อพัฒนา RAINS for Thailand Food Valley ภาคกลาง : ศูนย์การพัฒนากระบวนการผลิตและสร้างมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์จากวัตถุดิบพื้นถิ่นสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร’ ประจำปี 2564 จำนวน 2 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กล้วยป๊อปจากแป้งกล้วยหอม ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพจากฟักข้าว
- ผู้ประกอบการที่รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีผลงานวิจัย สวก. และออกบูธในงาน จำนวน 13 ราย เช่น บริษัท ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหาร ซีพีเอฟ จำกัด, บริษัท ศูนย์วิทยาศาสตร์เบทาโกร จำกัด, บริษัท มิตรผลวิจัย พัฒนาอ้อยและน้ำตาล จำกัด, บริษัท บางกอกแร้นช์ จำกัด (มหาชน), บริษัท เบนดิโต้ แกลเลอรี่ จำกัด เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้ง 5 วันของการจัดงาน มีผู้เข้าชมงานให้ความสนใจเข้าเยี่ยมชมบูธของ สวก. ภายใต้แนวคิด ‘Food Tech : เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก พลิกธุรกิจอาหารด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม’ รวมกว่า 3,250 ราย และมีผู้ประกอบการให้ความสนใจเกี่ยวกับการพัฒนาข้อเสนอโครงการหรือร่วมสนับสนุนทุนวิจัย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์แปรรูปอาหารจากพืช (Plant Based) และผลิตภัณฑ์สุขภาพจากของเหลือทิ้งจากกระบวนการผลิต จำนวน 30 ราย เป็นต้น
ส่วนผลิตภัณฑ์อาหารที่ได้รับความสนใจในงาน 3 อันดับแรก ได้แก่ 1) ผลิตภัณฑ์เคลผง 2) ผลิตภัณฑ์สาหร่ายฟองเต้าหู้ทอดกรอบ และ 3) ชารอยบอสไม่มีคาเฟอีน ตามลำดับ ซึ่งจะมีรายได้ที่เกิดขึ้นในงานประมาณ 45 ล้านบาท จากคู่ค้าต่างประเทศ อาทิ เกาหลี ญี่ปุ่น เวียดนาม และสิงคโปร์
ด้วยความมุ่งมั่นในการวิจัยและนวัตกรรม สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. จึงพร้อมเป็นกำลังสำคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลงและเสริมศักยภาพให้กับธุรกิจอาหารไทย ให้สามารถรับมือกับความท้าทายในปัจจุบันและอนาคต เพื่อนำไปสู่การพัฒนาธุรกิจอาหารไทย และยกระดับสินค้าไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล