เผยแพร่ |
---|
นับเป็นก้าวสำคัญของภาคการเกษตรไทย เมื่อ การยางแห่งประเทศไทย หรือ กยท. องค์กรชั้นนำระดับโลกในการบริหารจัดการยางพาราทั้งระบบ ได้ผสานความร่วมมือกับ บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THAITEX หนึ่งในผู้ผลิตและส่งออกน้ำยางข้นธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ยางรายสำคัญของไทย ลงนาม MOU ความร่วมมือทางด้านธุรกิจ เกี่ยวกับซื้อ-ขายน้ำยางพาราสด EUDR ผ่านตลาดกลางฯ กยท. เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยมี นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รองผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ รักษาการแทนผู้ว่าการ กยท. และ นายภัทรพล วงศาสุทธิกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ THAITEX เป็นผู้ลงนามบันทึกความเข้าใจครั้งนี้
นายสุขทัศน์ เผยถึงความสำคัญและบทบาทของ กยท. ในการร่วมมือทางด้านธุรกิจในครั้งนี้ว่า ถือเป็นการเดินหน้าขับเคลื่อนการซื้อ-ขายน้ำยางสด EUDR อย่างเป็นรูปธรรม หลังจาก กยท. เริ่ม Kick Off เปิดตลาดซื้อ-ขายน้ำยางสด EUDR ผ่านระบบ Thai Rubber Trade (TRT) ของ กยท. ตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา โดยครั้งนี้ ได้ผสานความร่วมมือกับ THAITEX หนึ่งในผู้ผลิตและผู้ส่งออกน้ำยางข้นธรรมชาติและผลิตภัณฑ์ยางรายสำคัญของไทย ในการซื้อ-ขายน้ำยางสด EUDR
ซึ่ง กยท. จะรวบรวมน้ำยางสด EUDR จำนวน 5,000 ตันต่อเดือน จากจุดรวบรวมน้ำยางและกลุ่มสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. ที่ขายผ่านระบบ TRT ส่งมอบให้กับบริษัท โดย กยท. จะตรวจสอบข้อมูลแหล่งผลิตยาง และประเมินความเสี่ยงตามกฎระเบียบ EUDR ก่อนออกเอกสารข้อมูลการซื้อ-ขายยางให้แก่ผู้ซื้อได้อย่างถูกต้องครบถ้วน
นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล
ขณะเดียวกัน การทำบันทึกความเข้าใจเพื่อความร่วมมือทางด้านธุรกิจในครั้งนี้ ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่เป็นจุดเริ่มต้นในการซื้อ-ขายน้ำยางสด EUDR อย่างเป็นรูปธรรม แสดงให้เห็นว่าน้ำยางสด EUDR เป็นที่ต้องการของผู้ประกอบการและเป็นสินค้าที่มีตลาดรองรับ ทั้งยังช่วยสนับสนุนให้การบริหารจัดการผลผลิตยางกับความต้องการของผู้ใช้ยาง EUDR มีความสมดุล ทำให้ราคายางมีเสถียรภาพในระยะยาว
“การร่วมมือกันในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อเกษตรกรชาวสวนยาง สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง และผู้มีส่วนได้เสียด้านยางพารา สามารถมั่นใจได้ว่าผู้ซื้อและผู้ขายจะได้รับราคาที่เป็นธรรมอย่างแน่นอน ซึ่ง กยท. เตรียมขยายความร่วมมือการซื้อ-ขายยาง EUDR ให้ครอบคลุมทุกประเภทกับบริษัทเอกชนอื่นต่อไปในอนาคต
นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่บริษัทผู้ส่งออกยาง ทั้งในด้านปริมาณผลผลิต ที่สอดคล้องและเพียงพอกับความต้องการเพื่อแปรรูปในอุตสาหกรรมยาง และด้านความพร้อมในการบริหารจัดการข้อมูลยางของไทย ที่ยืนยันได้ว่าเป็นไปตามกฎระเบียบ EUDR สามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ยางไปยังประเทศในสหภาพยุโรป ตลอดจนประเทศอื่นๆ ได้ทั่วโลก” นายสุขทัศน์ เน้นย้ำ
นายภัทรพล วงศาสุทธิกุล (ขวา)
ด้านนายภัทรพล บอกถึงบทบาทของ THAITEX ต่อความร่วมมือในครั้งนี้ว่า สืบเนื่องจากกฎหมายข้อบังคับการนำเข้าผลิตภัณฑ์ยางเข้าไปในประเทศในแถบโซนยุโรป ซึ่งกฎหมายดังกล่าวนั้น ได้สร้างปัญหาให้ผู้ประกอบการยางพาราในประเทศเป็นอย่างมาก จึงถือเป็นโอกาสดีที่ THAITEX ได้รับการสนับสนุนในการจัดหาวัตถุดิบจากทาง กยท.
อีกทั้งปัจจุบันทาง THAITEX มีออร์เดอร์ผลิตภัณฑ์เข้ามาเป็นจำนวนมาก ซึ่งในอนาคตมีแนวโน้มว่าจะมีปริมาณในการสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น บริษัทเราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า กยท. จะสามารถจัดหาวัตถุดิบให้เพียงพอ และสอดคล้องกับปริมาณคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นในอนาคตต่อไป
“THAITEX และ กยท. มีเจตนาร่วมกันในการพัฒนาตลาดกลางน้ำยางสด EUDR โดยจะส่งเสริมให้มีการซื้อ-ขายผ่านระบบ TRT ของ กยท. ด้วยวิธีตกลงราคา โดยใช้ราคาปิดตลาดน้ำยางสดของ กยท. บวกด้วยอัตราค่าพรีเมียมตามระยะทางและตามปริมาณ หรือตามที่ตกลงกันหากมีการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ยางพารา โดย THAITEX จะเป็นผู้ตรวจสอบสมบัติยางตามเกณฑ์มาตรฐานของบริษัท เพื่อให้เกษตรกรชาวสวนยางและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางได้รับราคาน้ำยางสด EUDR ที่เป็นธรรม” กรรมการผู้จัดการใหญ่ THAITEX กล่าว
อาจกล่าวได้ว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว ไม่เพียงแต่จะช่วยยกระดับรายได้ หรือสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับเกษตรกรยางพาราของไทย แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการส่งเสริมการผลิตที่มีคุณภาพและมีมาตรฐานระดับสากล ทำให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างเข้มแข็ง