กรมพินิจฯ ผนึกเอไอเอส เปิดโครงการญาติเยี่ยมทางไกลออนไลน์ผ่าน AIS Fibre ให้ผู้ปกครองมอบความอบอุ่นจากทุกที่ทั่วโลก สนับสนุนคนดีกลับคืนสู่สังคมด้วยรักและผูกพันจากครอบครัว

นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน และนางอมรรัตน์ ชาญปรีชญา หัวหน้าส่วนงานประชาสัมพันธ์ เอไอเอส พร้อมด้วยนายศรัณย์ ผโลประการ หัวหน้าฝ่ายงานบริหารธุรกิจฟิกซ์ บรอดแบนด์ เอไอเอส ร่วมเปิด “โครงการญาติเยี่ยมทางไกลผ่านระบบออนไลน์” เพื่ออำนวยความสะดวกให้ครอบครัวได้เยี่ยมเยียน ส่งกำลังใจถึงเยาวชนในสถานพินิจฯ ผ่านระบบออนไลน์ด้วยมือถือ
โดยไม่ต้องเดินทางมาเยี่ยมถึงศูนย์ฯ ด้วยเทคโนโลยีเอไอเอส ไฟเบอร์ เครือข่ายไฟเบอร์แท้ 100%
ที่จะทำให้สัญญาณภาพในระหว่างการโทรเยี่ยมเป็นไป อย่างคมชัด เสถียร ไม่กระตุก, ระบบ Smart Messaging เชื่อมต่อกับ Solutions Skype for Business ที่จะส่งแจ้งเตือนไปยังญาติๆ ให้สามารถกด Link จาก SMS ที่ได้รับแล้วโทรเข้ามาเยี่ยมบุตรหลานผ่านทางมือถือในลักษณะ VDO Call ได้ทันที อีกทั้ง สามารถรองรับการโทรเยี่ยมได้สูงสุดถึงครั้งละ 5 สาย พร้อมๆ กัน จากหลากหลายสถานที่

ช่วยให้ผู้ปกครองที่ไปทำงานต่างจังหวัดหรือแม้แต่ต่างประเทศสามารถใช้บริการได้อย่างสะดวก และลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ปัจจุบัน เปิดใช้งานใน 2 แห่งแรกที่ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน
จังหวัดเชียงใหม่ และราชบุรี

 

สำหรับผู้ปกครองที่สนใจใช้บริการ “โครงการญาติเยี่ยมทางไกลผ่านระบบออนไลน์” มีขั้นตอนการเยี่ยมเยาวชนได้ง่ายๆ ดังนี้

– ก่อนจะใช้งานได้ ผู้ปกครองจะต้องลงทะเบียนรับการตรวจสอบ
เพื่อยืนยันการเป็นผู้ปกครองโดยกรมพินิจฯ
และดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Skype for Business ผ่าน Apple
iTunes หรือ PLAY STORE

– ทุกครั้งที่ต้องการเยี่ยมญาติ ผู้ปกครองจะต้องทำการนัดหมาย
กำหนดวัน-เวลา ในการเยี่ยมเยาวชนกับ กรมพินิจฯ
– รอรับ LINK จาก SMS จากนั้นกดโทรผ่าน LINK ก็จะเข้าสู่ระบบ
“ญาติเยี่ยมทางไกลออนไลน์” ในลักษณะ VDO Call ได้ทันที

นับเป็นอีกหนึ่งโครงการสนับสนุนดีๆ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองและเยาวชนที่อยู่ภายใต้การดูแลของสถานพินิจ สามารถติดต่อสื่อสารถึงกันได้อย่างสะดวกและง่ายยิ่งขึ้น ช่วยให้ผู้ปกครองประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และสำคัญที่สุดคือการแสดงให้เห็นถึงคุณค่าของเด็กและเยาวชน ที่แม้จะเคยพลาดพลั้งทำผิด แต่ความรัก ความห่วงใย จะเสมือนภูมิคุ้มกันให้เด็กๆ ได้เติบโตอย่างมีคุณภาพ เพราะนอกจากจะได้เรียนรู้ทักษะวิชาชีพและวิชาการภายในศูนย์ฝึกฯ แล้วกำลังใจจากคนที่รัก ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญต่อการสร้างอนาคตที่สดใสเมื่อพวกเขาได้กลับคืนสู่สังคมอีกครั้ง ในอนาคต ติดตามรายละเอียดโครงการฯ เพิ่มเติมได้ทาง เว็บไซต์ www.djop.go.th หรือโทร. 0-2141-6470