กรมส่งเสริมการเกษตร สืบสาน “โครงการตามพระราชดำริ” เกษตรเพื่ออาหารกลางวัน

กรมส่งเสริมการเกษตร ร่วมสนองพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สืบสานโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน มุ่งแก้ปัญหาการขาดแคลนอาหารกลางวันของเด็กและเยาวชนในโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล เพื่อให้เด็กนักเรียนได้รับประทานอาหารที่ปลอดภัยและถูกหลักโภชนาการ และยังสามารถถ่ายทอดความรู้การทำการเกษตรสู่นักเรียนและชุมชน

นางดาเรศร์ กิตติโยภาส รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า เมื่อวาระครบรอบ 50 ปี กรมส่งเสริมการเกษตร ในปี พ.ศ. 2561 กรมส่งเสริมการเกษตร ได้สร้างอาคาร “เกษตรสิริสุข” ภายในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน จำนวน 5 แห่ง เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวาย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อใช้ในการจัดการผลผลิตทางการเกษตรและการแปรรูปถนอมอาหาร โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานชื่ออาคารโรงเรียนแต่ละแห่งว่า “เกษตรสิริสุข” หมายถึง สถานที่แห่งความสุขและความเป็นมงคลด้านการเกษตร โดยประกอบไปด้วย 1.โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบำรุงที่ 112 อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย 2.โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านทุ่งสบายใจ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา 3.โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนการบินไทย อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว 4.โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านหนองดู่ อำเภอโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม และ 5.โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านย่านซื่อ อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน เป็นโครงการหนึ่งที่พระองค์ทรงใช้แก้ปัญหาทางด้านโภชนาการของเด็กและเยาวชนที่อยู่พื้นที่ห่างไกล เริ่มดำเนินการในโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนและขยายผลสู่โรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย โรงเรียนสอนศาสนาอิสลาม และโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ปัจจุบัน ได้ดำเนินโครงการในโรงเรียนรวม 747 โรงเรียน ในพื้นที่ 50 จังหวัด ส่งผลให้เด็กนักเรียนในโรงเรียนมีอาหารที่ปลอดภัยถูกหลักโภชนาการบริโภคอย่างพอเพียง และโรงเรียนสามารถขยายผลความรู้ด้านการเกษตรสู่ชุมชน

กรมส่งเสริมการเกษตร ได้ดำเนินการส่งเสริมให้มีการผลิตพืชผักปลอดภัยได้มาตรฐานการผลิตสินค้าที่ดีในระดับ GMP ให้แก่เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตร แม่บ้านเกษตรกร และเด็กนักเรียนในโรงเรียน เพื่อให้ผู้ที่รับประทานพืชผักจากโครงการได้รับประทานอาหารที่ปรุงจากพืชผักที่ปลอดภัยและมีประโยชน์ รวมถึงนำผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรบางส่วนแปรรูปเป็นสินค้าของชุมชนที่มีคุณภาพและปลอดภัยต่อผู้บริโภค ผ่านการวางแผนการผลิตพืช ซึ่งเจ้าหน้าที่ ครู ผู้ปกครอง และเด็กนักเรียน ได้รวมกันจัดทำเพื่อวางแผนปลูกพืชให้มีความเหมาะสมต่อฤดูกาลและสามารถทำเป็นมื้ออาหารกลางวันที่มีความหลากหลายและมีคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสมต่อเด็กนักเรียนในโรงเรียน

นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการเกษตร ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของพืชท้องถิ่นที่แตกต่างกัน สมควรที่จะอนุรักษ์ไว้ในแต่ละพื้นที่ โดยส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้เทคนิคการปลูกผัก ผลไม้ โดยใช้พันธุ์พื้นบ้าน เรียนรู้การเก็บเกี่ยว การแปรรูป และการถนอมอาหารในพื้นที่ของโครงการเพื่อใช้รับประทานและผลิตเมล็ดพันธุ์สำหรับต่อยอดคุณประโยชน์สู่ชุมชนต่อไปในอนาคต กลายเป็นอัตลักษณ์เฉพาะถิ่นที่สร้างความโดดเด่นให้กับสินค้าและผลิตภัณฑ์ของชุมชนต่อไป

อาคารเกษตรสิริสุขนี้ นอกจากใช้เพื่อดำเนินโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันแล้ว ยังกลายเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่แม่บ้านเกษตรกรและคนในชุมชนได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันเพื่อเรียนรู้วิธีการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่อย่างมีคุณภาพและได้มาตรฐาน GMP การใช้งานอาคารเกษตรสิริสุขจึงจำเป็นปราศจากสารเคมี โดยมีเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรเป็นผู้ให้คำปรึกษาและถ่ายทอดความรู้สู่ชุมชนให้มีความเข้าใจ จนสามารถลงมือปฏิบัติได้จริงในชีวิตประจำวันและต่อยอดสู่ชุมชนต่อไปในอนาคต