วช. ลงนามร่วมกับ สวก. และ สวรส. บูรณาการข้อมูลการวิจัยและนวัตกรรม

สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) (สวก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.)กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันบูรณาการข้อมูลการวิจัยและนวัตกรรม เพื่อให้การบูรณาการบริหารจัดการ และวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลการวิจัยและนวัตกรรมในภาพรวมของประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. เป็นหน่วยงานหลักในการให้ทุนวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ โดย สวก. เป็นหน่วยงานให้ทุนวิจัยด้านเกษตร และ สวรส. เป็นหน่วยงานให้ทุนวิจัยด้านสาธารณสุข ดังนั้น เพื่อให้การบูรณาการบริหารจัดการ และวิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลการวิจัยและนวัตกรรมในภาพรวมของประเทศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงเห็นควรเชื่อมโยงข้อมูลการวิจัยและนวัตกรรมที่อยู่ในความรับผิดชอบกับระบบข้อมูลสารสนเทศกลางที่ วช. รับผิดชอบอยู่ ดังนั้น

ทั้ง 3 หน่วยงาน จึงได้ร่วมลงนามความร่วมมือใน “บันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบูรณาการระบบบริหารจัดการงานวิจัยแห่งชาติ (NRMS)และการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลการวิจัยและนวัตกรรมกับหน่วยงานให้ทุน (Funding Agency)” ระหว่าง วช. สวก. และ สวรส. โดยมี ศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ดร.สุวิทย์ ชัยเกียรติยศ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร และ ทันตแพทย์จเร วิชาไทย ผู้จัดการงานวิจัย รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขร่วมลงนามความร่วมมือดังกล่าว ภายในงานวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ครบรอบ 60 ปี วันที่ 25 ตุลาคม 2562เวลา 08.45  น. ณ ห้องประชุมจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ชั้น 2 อาคาร วช 1 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)

การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ คาดว่าจะทำให้เกิดการขับเคลื่อนการพัฒนาการใช้ระบบบริหารจัดการงานวิจัยแห่งชาติ เกิดการบูรณาการเชื่องโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลการวิจัยและนวัตกรรมกับหน่วยงานให้ทุนการพัฒนาการใช้ฐานข้อมูลการวิจัยและนวัตกรรม การอ้างอิงฐานข้อมูลบุคลากรวิจัยและนวัตกรรมเดียวกัน

การผลักดันการใช้บัญชีบุคลากรวิจัยและนวัตกรรมเดียวกันในการเข้าถึงข้อมูลการวิจัยและนวัตกรรม การเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลองค์ความรู้จากการวิจัยและนวัตกรรม รวมถึงการกำหนดรายละเอียดเฉพาะเรื่องภายใต้ขอบเขตแห่งข้อตกลงนี้ การลงนามความร่วมมือด้านการวิจัยจากหน่วยงานภายใต้ 3 กระทรวงในครั้งนี้ นับว่าเป็นการดำเนินงานที่สอดรับกับการปฏิรูประบบวิจัยของประเทศอย่างแท้จริง