‘ข้าวตราฉัตร’ คว้า ‘อย.ควอลิตี้ อวอร์ด’ ต่อเนื่องสองปีซ้อน ชูข้าวปลอดภัย-ตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกขั้นตอน คู่สถานประกอบการดี จริยธรรมเด่น

โครงการส่งเสริมจริยธรรมสถานประกอบการผลิตผลิตภัณฑ์สุขภาพของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือรางวัล ‘อย.ควอลิตี้ อวอร์ด’ ที่จัดขึ้นเพื่อยกย่องเชิดชูและประกาศเกียรติคุณสถานประกอบการผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค ให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่สถานประกอบการรายอื่นๆ นั้น

ล่าสุดในปี 2563 มีโรงงานผลิตข้าวสารบรรจุถุงเพียงรายเดียวที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ได้แก่ ‘บริษัท ข้าว ซี.พี. จำกัด’ หรือที่รู้จักกันในนาม ‘ข้าวตราฉัตร’

‘สุเมธ เหล่าโมราพร’ ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ (รับผิดชอบธุรกิจข้าวและอาหาร) เครือเจริญโภคภัณฑ์ อธิบายถึงที่มาของการได้รับรางวัลดังกล่าวว่า เป็นผลมาจากจุดเด่นของ ‘ข้าวปลอดภัย-ตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกขั้นตอน’ สามารถสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคทั่วประเทศจนถึงทั่วโลก ควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคม มีการผลักดันศักยภาพของเกษตรกรไทยให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น

เมื่อผู้ผลิตมีแหล่งเพาะปลูกที่ดี เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดี ผู้บริโภคได้รับประทานข้าวคุณภาพดี ทั้งหมดจะผสานจนเกิดเป็นความยั่งยืนไปพร้อมๆ กัน

“รางวัล อย.ควอลิตี้ อวอร์ด ไม่ได้มอบให้เพียงผู้ผลิตอาหารปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงเรื่องของความยั่งยืนและการช่วยเหลือสังคม หากย้อนไปตั้งแต่ช่วงที่เกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 บริษัทมีการวางมาตรการป้องกันอย่างเข้มข้น ตั้งแต่รถทุกคันที่เข้ามาส่งวัตถุดิบหรือบรรทุกสินค้าออกไปจะต้องได้รับการพ่นสเปรย์น้ำยาฆ่าเชื้อซึ่งปกติใช้กับฟาร์มเลี้ยงสัตว์ของซีพีเอฟ เราก็นำมาประยุกต์ใช้ ชุดที่พนักงานสวมใส่ หน้ากากอนามัย ตำแหน่งนั่งทำงานให้มีระยะห่าง การเข้างานโดยแบ่งเป็นกะ ไม่ให้ทำงานพร้อมกัน มีมาตรการเรื่องสุขอนามัย การล้างมือ การทำความสะอาดราวจับหรือจุดสัมผัสต่างๆ ทั้งหมดนี้เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ปลอดภัยไร้การปนเปื้อนของเชื้อโควิด-19 ถือเป็นส่วนหนึ่งของการรับผิดชอบต่อสังคม นอกจากนี้ ก็ยังมีการช่วยเหลือลูกค้าซึ่งเป็นร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจนต้องปิดร้าน ผ่านแคมเปญ ‘Social DISH Tancing-ห่างกัน แต่ไม่ห่างความอร่อย’ ด้วยการสนับสนุนให้ร้านอาหารเหล่านี้เปิดให้บริการเดลิเวอรี่ โดยเรามีทีมงานที่รับผิดชอบแพลตฟอร์มออนไลน์ช่วยดูแลและส่งเสริมการขายผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ช่วยให้ลูกค้าของเราสามารถขยายช่องทางการจำหน่ายอาหารเพิ่มขึ้น และยังทำให้พวกเขาได้เรียนรู้กระบวนการขายข้าวอาหารพร้อมกิน (Ready to Eat) แบบออนไลน์ จนพัฒนาเป็นธุรกิจได้อีกรูปแบบ”

ซีอีโอข้าวตราฉัตรบอกอีกว่า โควิด-19 ยังทำให้เกิดการปรับตัวไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ เป็นต้นว่า การปรับรูปแบบการทำงานเป็น Work from Home การจัดพื้นที่ให้เป็น Co-Working Space ไม่ต้องมีโต๊ะทำงานประจำ มีการทำงานแบบออนไลน์ ไม่ต้องฝ่าการจราจาที่ติดขัดช่วง Rush Hour มีเวลาส่งลูกไปโรงเรียน ช่วยให้พนักงานมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

“หนึ่งในค่านิยมของเครือซีพีโดย คุณธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส ได้วางไว้ 6 ข้อ ก็คือ เรื่องของการปรับตัวเพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งต่อไปบริษัทจะนำแนวคิดเรื่องของการขับเคลื่อนดิจิทัลทรานส์ฟอร์มประเทศไทยซึ่งเป็นกลยุทธ์ของ คุณศุภชัย เจียรวนนท์ มาเป็นเครื่องมือและแนวทาง เช่น การคาดการณ์เกี่ยวกับการเพาะปลูกเนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทยมีปัญหาเรื่องฝนแล้งทำให้ปลูกข้าวนาปรังไม่ได้ หรือการนำเครื่องจักรกลที่มีระบบ จีพีเอส รถเตรียมดิน รถเก็บเกี่ยวที่ทำงานได้อัตโนมัติโดยไร้คนขับ ต้องทำให้เกษตรกรเข้าใจและสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลง เพราะจะส่งผลให้การเพาะปลูกข้าวจากต้นน้ำมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

“ที่ผ่านมา บริษัทมีโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวให้ได้มาตรฐานการผลิตข้าว GAP ของกรมการข้าว ร่วมกับสถาบันวิจัยต่างๆ พัฒนาพันธุ์ข้าวใหม่ๆ ส่งเสริมและสนับสนุนเกษตรกรสมาชิกเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเพาะปลูกข้าวอยู่แล้ว ทำให้ได้ทั้งปริมาณควบคู่ไปกับคุณภาพ พร้อมกับนำข้าวทุกเมล็ดเข้าสู่ระบบปรับปรุงคุณภาพข้าวที่โรงงานข้าวนครหลวงก่อนถึงมือผู้บริโภค ทำให้มั่นใจได้ว่าข้าวที่รับประทานนั้น สะอาดปลอดภัย ได้มาตรฐานแน่นอน”

สุเมธย้ำถึงความสำคัญของรางวัล อย.ควอลิตี้ อวอร์ด ว่า ได้ประโยชน์ในหลายมิติ เช่น สร้างความภูมิใจในกลุ่มพนักงาน เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้เห็นว่าเป็นผลมาจากการทำงานอย่างตั้งใจ ทำให้เกิดเป็นความสามัคคีทั้งพนักงานที่ทำงานในสำนักงาน โรงงาน หรือพนักงานที่ทำงานร่วมกับเกษตรกร โดยทีมงานข้าวตราฉัตรมีความมุ่งมั่นตั้งใจว่าจะคว้ารางวัลเกียรติยศให้ได้อีกครั้งในปีหน้าเพราะจะทำให้ได้รับรางวัลเกียรติยศ ‘อย.ติดดาว’

“ในแง่ของผู้บริโภคก็ยิ่งมั่นใจว่า ข้าวตราฉัตรฝีมือไม่ตก ยังคงรักษามาตรฐานไว้ได้ เพราะหัวใจสำคัญในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนก็คือ ต้องรักษาระดับความดีไว้ได้อย่างต่อเนื่อง ยิ่งโดยเฉพาะลูกค้าต่างประเทศที่ให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพเป็นอันดับหนึ่ง ทุกวันนี้มีข้าวที่ปนเปื้อนสารเคมีจากการใช้ยาฆ่าแมลงและอื่นๆ จนทำให้รากดูดซึมเข้าไปอยู่ในตัวต้นข้าว บางประเทศตรวจสอบแล้วพบว่ามีสารเคมีตกค้างเกินมาตรฐาน ดังนั้น การที่ข้าวตราฉัตรส่งออกไปยัง 100 ประเทศทั่วโลก จึงนับเป็นตัวแทนของข้าวไทยคุณภาพที่ได้มาตรฐานระดับสากล’