เผยแพร่ |
---|
รมช. มนัญญา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสหกรณ์นิคมชุมแสงจันทร์ จำกัด จังหวัดระยอง ติดตามงานนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และข้าราชการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่พบปะสมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรในจังหวัดระยอง ณ สหกรณ์นิคมชุมแสงจันทร์ อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง เพื่อติดตามความก้าวหน้าการ ดำเนินงานตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
จังหวัดระยองมีสหกรณ์ในภาคการเกษตร สหกรณ์นอกภาคการเกษตร และกลุ่มเกษตรกร ที่อยู่ในการดูแลของกรมส่งเสริมสหกรณ์ จำนวน 131 แห่ง มีสมาชิกรวม 83,764 ราย และมีสหกรณ์การเกษตรที่มีศักยภาพในการรวบรวมผลผลิตจากเกษตรกรในพื้นที่ 14 แห่ง โดยมีสินค้าการเกษตรหลัก ได้แก่ ยางพารา และผลไม้ ตามฤดูกาล เช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง โดยปริมาณธุรกิจสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่รวมทั้งสิ้น 13,001.52 ล้านบาท
ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังกล่าวมอบนโยบายแก่เจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเกษตรกรในพื้นที่อำเภอวังจันทร์ที่มาร่วมในการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้างการรับรู้ นโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า รัฐบาลมีนโยบายใช้การตลาดนำการผลิตและให้ความสำคัญในการใช้ กลไกสหกรณ์เข้ามาพัฒนาภาคการเกษตรของประเทศ เพื่อช่วยเหลือด้านการประกอบอาชีพและแก้ไขปัญหาเรื่องราคา ผลผลิตตกต่ำให้กับเกษตรกร โดยส่งเสริมให้สหกรณ์เป็นองค์กรหลักระดับอำเภอ ทำหน้าที่ในการบริหารจัดการผลผลิต การเกษตรในพื้นที่และสามารถดำเนินธุรกิจได้ครบวงจร ตั้งแต่การวางแผนการผลิตให้กับสมาชิก การรวบรวมผลผลิต การแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า การเชื่อมโยงเครือข่ายการตลาดกับภาคเอกชนและในเครือข่ายสหกรณ์ด้วยกัน เพื่อกระจายผลผลิตไปสู่ผู้บริโภค รวมถึงธุรกิจในด้านสินเชื่อและบริการต่างๆ แก่สมาชิกและคนในชุมชน ซึ่งเป็นการดำเนินกิจกรรม ที่ส่งผลให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง และสามารถแก้ไขปัญหาความยากจนให้กับประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างแท้จริง
“ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทำให้เห็นถึงบทบาทและความสำคัญของขบวนการสหกรณ์มากขึ้น เนื่องจากเกษตรกรหลายพื้นที่ต้องประสบปัญหา ไม่สามารถขายผลผลิตได้เหมือนช่วงเวลาปกติ จำเป็นต้องใช้เครือข่ายสหกรณ์บรรเทาความเดือดร้อนโดยช่วยกันระบายผลผลิต ทั้งผลไม้ พืชผัก สินค้าประมงทั้งสดและแปรรูป จากสหกรณ์ต้นทางไปสู่สหกรณ์ผู้บริโภคปลายทาง ทำให้การกระจายผลผลิตออกนอกพื้นที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่เกิดการกระจุกตัวหรือเกิดความเสียหายและช่วยให้เกษตรกรขายผลผลิตได้ในราคาที่เป็นธรรมด้วย ดังนั้น ทุกฝ่ายต้องร่วมกันพัฒนาระบบสหกรณ์ให้มีความเข้มแข็ง สหกรณ์จะได้มีพลัง ช่วยสร้างอำนาจต่อรองให้กับเกษตรกร จึงอยากขอความร่วมมือในการร่วมกันขับเคลื่อนระบบสหกรณ์ให้เป็นกลไกหลักของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระดับฐานรากของประเทศให้มีความมั่นคงต่อไป”
นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังได้มอบหนังสีอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่นิคมสหกรณ์ ทั้งหนังสือ กสน.3 และ กสน.5 ให้กับสมาชิกนิคมสหกรณ์ชะแวะ จำนวน 60 ราย และเยี่ยมชมนิทรรศการความก้าวหน้านโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ได้ดำเนินการในพื้นที่จังหวัดระยอง
สำหรับ สหกรณ์นิคมชุมแสงจันทร์ จำกัด นั้น จัดตั้งมาตั้งแต่ปี 2521 ปัจจุบัน มีสมาชิก 2,233 ราย ทุนดำเนินงานกว่า 221 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจทั้งการให้สินเชื่อ รับฝากเงิน รวบรวมผลผลิตและจัดหาสินค้ามาจำหน่ายเพื่อบริการสมาชิก ในปี 2563 สหกรณ์ดำเนินธุรกิจรวบรวมผลผลิตการเกษตร ได้แก่ ยางพารา 499.02 ตัน มูลค่า 20.154 ล้านบาท มังคุด 4.47 ตัน มูลค่า 480,000 บาท ทุเรียน โดยจำหน่ายผ่านออนไลน์ 6.66 ตัน มูลค่า 1.199 ล้านบาท ซึ่งสหกรณ์มีกำไรจากการดำเนินธุรกิจรวบรวมผลผลิตทุกชนิด รวมประมาณ 4.51 ล้านบาท โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้อุดหนุนเงิน สร้างโกดังรวบรวมยางพาราให้กับสหกรณ์ จำนวน 4.62 ล้านบาท และสนับสนุนเงินกู้จากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ อัตราดอกเบี้ย ร้อยละ 1 ให้สหกรณ์นำไปรวบรวมผลไม้จากสมาชิกในฤดูกาลปีนี้ จำนวน 2 ล้านบาท
ทั้งนี้ สหกรณ์ยังมีโครงการส่งเสริมอาชีพ โดยสนับสนุนให้สมาชิกเลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง บริเวณอ่างเก็บน้ำประแสร์ เพื่อนำมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภค เน้นตลาดในพื้นที่ชุมชน โดยสหกรณ์ส่งเสริมพันธุ์ปลาให้กับสมาชิก จำนวน 1,500 ตัว ต่อบ่อ และจัดหาอาหารปลามาจำหน่ายให้สมาชิก ซึ่งมูลค่าพันธุ์ปลารวม 4.04 ล้านบาท และมูลค่าการจำหน่ายอาหารปลา 21.18 ล้านบาท ในอนาคตสหกรณ์มีแผนจะสร้างอาคารตลาดสินค้าเกษตรกรเพื่อให้สมาชิกนำสินค้ามาจำหน่าย และมีแผนพัฒนาแปลงทุเรียนของสหกรณ์ พื้นที่ 45 ไร่ ให้เป็นศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกทุเรียนที่ได้มาตรฐาน เปิดให้เกษตรกรและสมาชิกสหกรณ์ได้มาศึกษาดูงานเพื่อนำไปพัฒนาการผลิตทุเรียนของตนเองได้
ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังได้พบปะกับคณะกรรมการสหกรณ์ สมาชิกสหกรณ์ และเกษตรกรที่มารอต้อนรับ พร้อมกล่าวชื่นชมบทบาทของสหกรณ์ที่มีส่วนในการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของอำเภอวังจันทร์ให้เข้มแข็ง สร้างการมีส่วนร่วมและความสามัคคีให้กับชาวบ้านในพื้นที่ และได้ให้กำลังใจเกษตรกรในการร่วมกันพัฒนาอาชีพ และร่วมมือกันทำงานในรูปแบบสหกรณ์ เป็นสิ่งที่ดี ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์พร้อมจะให้การสนับสนุนและพัฒนาสหกรณ์ในทุกๆ ด้าน เพื่อให้สหกรณ์ทำหน้าที่ในการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น