เผยแพร่ |
---|
ติดปีกเกษตรกรไทย ด้วยเครือข่ายและองค์ความรู้ Smart Farmer
ผ่านโครงการ Agri BIZ Idol Development Project
ยกระดับเกษตรกรให้เป็นผู้ประกอบการเกษตรชั้นนำ
กรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกาศความสำเร็จ “โครงการพัฒนา Smart Farmer ผู้ประกอบการต้นแบบ เพื่อยกระดับเกษตรกรเป็นผู้ประกอบการเกษตรชั้นนำ (Agri BIZ The Idol Development Project)” ซึ่งเป็นครั้งแรกที่กรมส่งเสริมการเกษตรจัดการอบรมในลักษณะนี้ พร้อมมอบใบประกาศนียบัตรและโล่ประกาศเกียรติคุณแก่ผู้ที่ผ่านการอบรม จำนวน 78 คน
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ข้อมูลว่า “สำหรับโครงการพัฒนา Smart Farmer ผู้ประกอบการต้นแบบเพื่อยกระดับเกษตรกรเป็นผู้ประกอบการเกษตรชั้นนำ หรือ Agri BIZ Idol Development Project รับสมัครจากเกษตรกรรุ่นใหม่ เกษตรกรต้นแบบ วิสาหกิจชุมชน ผู้จัดการแปลงใหญ่ ผู้ประกอบการเกษตรที่มีศักยภาพ ที่มีความต้องการจะพัฒนาสินค้าเกษตรของตนเองและของกลุ่มจากทั่วประเทศ โดยคัดเลือกจากผู้สมัครจำนวนทั้งสิ้น 137 คน เหลือจำนวน 80 คน และผ่านการอบรม 78 คน แบ่งออกเป็น 5 กลุ่มผู้ประกอบการเกษตร ได้แก่ กลุ่มเกษตรแปรรูป เพิ่มมูลค่า, เกษตรท่องเที่ยว, วิสาหกิจชุมชน และบริการการเกษตร, เกษตรวิถีอินทรีย์ และกลุ่มเกษตรไฮเทคและอุตสาหกรรม
โดยมีทีมวิทยากรชั้นนำ Coach Agri – biz เช่น คุณกุลพล คุปรัตน์, ดร.ก่อศักดิ์ โตวรรธกวณิชย์ เป็นต้น และมีเมนเทอร์พี่เลี้ยงมากประสบการณ์แต่ละด้านธุรกิจเกษตรกร ที่ประสบความสำเร็จในการเป็นผู้ประกอบการเกษตร คอยให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกษตรกรได้พัฒนาตนเองได้อย่างเต็มศักยภาพ เน้นการจัดทำแผนธุรกิจเกษตรที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม สามารถสร้างมูลค่าสินค้าเกษตรของตัวเองที่มีอยู่ หรือเพิ่มศักยภาพการบริหารจัดการกิจการ และการตลาดสินค้าเกษตรได้อย่างเหมาะสม
นายเข้มแข็ง ระบุว่า “การขับเคลื่อนความสำเร็จของโครงการนี้มองว่าต้องการพัฒนากลุ่มต้นแบบ และนักพัฒนา เพื่อต่อยอดเกษตรกรไทยให้ก้าวทันยุคสมัย มีการต่อยอดขององค์ความรู้จากวิถีเดิม ทั้งนี้ได้จับมือร่วมกับทุกภาคส่วน และนักวิชาการหลายๆ องค์กร ร่วมผลักดันให้เกษตรกรไทยมีชีวิตที่ดีขึ้น และก้าวทันวิถีเกษตรยุคใหม่ สำหรับตัวคนต้นแบบทั้ง 78 ท่านนี้ อยากจะเห็นผลิตภัณฑ์ของเขาก้าวไปสู่ระดับโลก ไม่เฉพาะเพียงแค่ในประเทศเท่านั้น โดยจะส่งเสริมผลิตภัณฑ์และการตลาด อยากให้ผลิตภัณฑ์ของประเทศไทย โดยกลุ่มคนที่ผ่านการอบรม และผ่านการขับเคี่ยวจาก Agri – Biz The Idol 2020 อยากเห็นความสำเร็จของคนกลุ่มนี้ที่จะเป็นต้นแบบเกษตรชั้นนำรุ่นใหม่ต่อไปในอนาคต
นายพสิษฐ์ สุขสวัสดิ์ ประธาน Agri-BIZ The Idol 2020 และประธานกลุ่ม G2 เกษตร
แปรรูป เพิ่มมูลค่า 2 รวมทั้งเป็นประธานแปลงใหญ่จังหวัดลำพูน คณะกรรมการแปลงใหญ่ระดับประเทศ ประธานอาสาสมัครเกษตรจังหวัดลำพูน ซึ่งเป็นเกษตรกรสวนลำไย สวนมะม่วง สวนมะยงชิด จากจังหวัดลำพูน เล่าถึงที่มาของธุรกิจให้ฟังว่า “การเชื่อมโยงเครือข่ายและนำสิ่งที่มีอยู่แล้วมาสร้างมูลค่าเพิ่ม ปกติขายลำไยอยู่ที่กิโลละสิบกว่าบาท มาสร้างมูลค่าเพิ่มโดยการขายออนไลน์ ใช้คำว่า “เกษตรปลอดภัย” ขึ้นมา สามารถปรับราคาขึ้นจากเดิมได้ และการแปรรูปจากสิ่งที่มีอยู่ เราเปลี่ยนคำว่า “ลำไย” ที่คนส่วนมากบอกว่าทานแล้วไม่ดีต่อสุขภาพเพราะเจ็บคอ เปลี่ยนเป็น “ลำไยอบแห้งทั้งเปลือก” โดยตอนนี้ประเทศจีน เป็นประเทศที่นำเข้าลำไยอบแห้งจากประเทศไทยจำนวนมากที่สุด กว่า 90%
สำหรับลำไยอบแห้งนั้นมีสรรพคุณทางยาเยอะมาก โดยมีการวิจัยว่าเมล็ดด้านในของลำไยมีสรรพคุณทางยาคือ แก้ปวด แก้เมื่อย การทานลำไยอบแห้ง 3-4 เม็ด ก่อนนอน ตามด้วยการดื่มน้ำอุ่น ทำให้สุขภาพดี ซึ่งสามารถนำมาทำเป็นชาสำหรับดื่มได้ด้วย เราเพิ่มมูลค่าลำไยจากการทำลำไยอบแห้งขายเองได้ ตอบโจทย์ในช่วงที่มีผลผลิตล้นตลาด ซึ่งการทำลำไยอบแห้งนั้นมีขั้นตอนที่ทำได้ง่าย ชาวบ้านสามารถทำเองได้ จึงอยากผลักดันผลิตภัณฑ์ลำไยอบแห้งทั้งเปลือกนี้ให้คนไทยรู้จักและบริโภคมากขึ้น ผ่านแนวคิดเปลี่ยนจากผลไม้ให้เป็นยา
ด้านมุมมองการต่อยอดธุรกิจ นายพสิษฐ์ กล่าวว่า การต่อยอดในธุรกิจลำไยทำได้ไม่ยาก แต่เราจะนำมาทำต่อโดยให้ถึงมือผู้บริโภคได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งในช่วงที่เกิดวิกฤติการแพร่ระบาดของ Covid-19 ที่ผ่านมา นับว่าธุรกิจของตนไม่ได้รับผลกระทบเลย เนื่องจากเน้นการขายออนไลน์ 100% และยังเป็นผู้นำในการขายออนไลน์ของเกษตรกรชาวสวนลำไย ซึ่งโครงการนี้ทำให้เรามีความรู้และเพิ่มพูนศักยภาพ รวมทั้งได้เครือข่ายการตลาดอีกด้วย
นายสิทธิศักดิ์ อัครไพศาล ประธานกลุ่ม G8 เกษตรไฮเทคและอุตสาหกรรม
กล่าวว่า การทำเกษตรผสมผสาน หลักๆ คือ แบ่งพื้นที่ สามารถสร้างรายได้เข้ามาหลายทางจาก
ผักสลัด มัลเบอร์รี่ มะนาว และมีร้านอาหาร แบ่งโซนพื้นที่ตาม “หลักเศรษฐกิจพอเพียง” ในส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งคือจะต้องมีรายได้เข้าร้านเพื่อปรับใช้ให้อยู่ได้ในยุคปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่อยู่ในไร่ที่ผลิตเอง นำไปแปรรูปและนำมาขายที่ร้าน หน้าร้านชื่อว่า อัจฉราคาเฟ่ และไร่อัจฉรา Smart Farm จังหวัดลพบุรี
“โดยส่วนตัวรู้สึกภูมิใจมากที่ได้เป็น 1 ใน 80 คน ที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมอบรม และเป็น 1 ใน 78 คน ที่ผ่านการอบรมครั้งนี้ ซึ่งรู้สึกว่ายากตั้งแต่กรอกใบสมัคร งานนี้ใช้เวลาในการกรอกใบสมัครนานที่สุด นอกจากกรอกใบสมัครแล้วยังต้องคิดและวิเคราะห์อะไรหลายๆ อย่าง พอเข้ามาเจอเพื่อนๆ ก็รู้สึกภูมิใจที่เป็นหนึ่งในกลุ่มของคนเหล่านี้ เพราะคนเหล่านี้คือผู้นำของชุมชนในแต่ละชุมชน ที่มีความคิดและแนวคิด ในสิ่งที่บางครั้งเรามองไม่ทันเขา พอได้มาพบกับอาจารย์รู้สึกประทับใจในอาจารย์ทุกท่าน อาจารย์ที่มาสอนคือให้แนวทางในสิ่งที่มาจากประสบการณ์ของตัวอาจารย์เอง รู้สึกว่านี้เป็นโครงการที่ดีมากๆ รู้สึกภูมิใจที่ได้เข้ามาอยู่ในโครงการนี้ และโครงการนี้ได้ให้มุมมองที่เรามองข้ามไป รับรู้มุมมองที่หลากหลายมากขึ้น อีกทั้งยังให้แนวทางในการบริหารธุรกิจ แนวทางในการนำไปต่อยอดเพื่อขยายธุรกิจของเราได้ รวมถึงให้เครือข่าย ให้ Connection ในอนาคต สามารถดึงกลุ่มคนเหล่านี้มาทำโปรเจ็กร่วมกันได้ ต่อยอดเป็นธุรกิจที่มีกำลังมากขึ้นอีกด้วย” นายสิทธิศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติม