อว. ดันเศรษฐกิจฐานรากภาคเหนือตอนบน หวังเพิ่มมูลค่าหัตถกรรมชุมชน ในยุค New Normal

สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) สนับสนุนการอบรมโครงการการพัฒนายกระดับผลิตภัณฑ์หัตถกรรมชุมชนในภาคเหนือตอนบนด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ และทุนทางวัฒนธรรมและทรัพยากรท้องถิ่นสู่การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและการเพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่มูลค่าของผลิตภัณฑ์ มุ่งพัฒนาทักษะองค์ความรู้ ศักยภาพบุคลากรและผู้ประกอบการหัตถกรรมพื้นเมืองที่มีความแตกต่างและโดดเด่นตามความต้องการของตลาด ในยุค New Normal

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2564 ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้เกียรติเป็นประธานเปิดการอบรมเพื่อเพิ่มสมรรถนะด้านการออกแบบสร้างสรรค์ของผู้ประกอบการหัตถกรรมพื้นเมือง สำหรับตลาดในยุค New Normal Creative Design Competency Enhancement of Local Craft Entrepreneurs for New Normal Market Workshop” หรือ Koyori Project 2021 พร้อมเยี่ยมชมผลงานวิจัยเด่น ด้านศิลปะและวัฒนธรรม ณ ห้องประชุมโพธิพุทธ ชั้น 4 อาคารเรียนรวมและศูนย์พัฒนาเทคโนโลยี เพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาล้านนา คณะศิลปกรรมและสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา (เจ็ดยอด) ตำบลช้างเผือก จังหวัดเชียงใหม่

โดย วช. ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จัดการอบรม มีผู้ร่วมโครงการอบรมในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา แพร่ และจังหวัดน่าน เพื่อพัฒนาทักษะ องค์ความรู้ และเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากรและผู้ประกอบการหัตถกรรมพื้นเมืองในเขตภาคเหนือตอนบน ให้มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถพัฒนาสินค้าหรือผลิตภัณฑ์หัตถกรรมพื้นเมืองให้มีความโดดเด่นตรงตามความต้องการของตลาด ในยุค New Normal โดยเน้นใช้นวัตกรรมและวัฒนธรรมสร้างสรรค์ และศึกษาความต้องการทางการตลาดของสินค้าหัตถกรรมพื้นเมือง และช่องทางการตลาดที่เหมาะสม ให้ผู้ประกอบการหัตถกรรมในเขตภาคเหนือเพื่อสร้างรายได้และพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างยั่งยืน

ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า วช. มุ่งเน้นการดำเนินงานเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็ง พร้อมขับเคลื่อนนโยบายในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎร
กลุ่มวิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการชุมชนทั่วไป ให้สามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชน สนับสนุนผลิตภัณฑ์ชุมชนโดยการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้มีมูลค่าเพิ่ม สร้างการเรียนรู้ ฝึกอาชีพ การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะสมมาประยุกต์

โดย วช. ได้จัดสรรงบประมาณในการดำเนินกิจกรรมโครงการ เรื่อง “การยกระดับผลิตภัณฑ์หัตถกรรมชุมชนในภาคเหนือตอนบนด้วยนวัตกรรมสร้างสรรค์ และทุนทางวัฒนธรรมและทรัพยากรท้องถิ่นสู่การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและการเพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่มูลค่าของผลิตภัณฑ์” แก่ ดร. สุรพล ใจวงศ์ษา แห่ง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จังหวัดเชียงใหม่

ด้าน ดร. สุรพล ใจวงศ์ษา เปิดเผยว่า คณะนักวิจัย ได้ร่วมกับสมาคมวัฒนหัตถศิลป์ล้านนา, สำนักงานพาณิชย์จังหวัดลำปาง ลำพูน พะเยา น่าน แพร่ เชียงราย และ แม่ฮ่องสอน ลงพื้นที่การอบรมเพิ่มทักษะการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ภายใต้โครงการ Koyori โดยดึงเอาจุดเด่นของวัฒนธรรมในแต่ละผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ผสมผสานกับแนวคิด การออกแบบแฟชั่นดีไซน์จากผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบจากไทยและต่างชาติ พัฒนาเอกลักษณ์และการเสริมคุณค่าหัตถกรรมพื้นบ้านในเขตภาคเหนือตอนบน โดยมุ่งเน้นในการพัฒนา 4 ด้าน

ได้แก่ 1) ด้านผลิตภัณฑ์และผู้ประกอบการ เน้นการพัฒนาทักษะ องค์ความรู้ และเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากรและผู้ประกอบการ ให้มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถพัฒนาสินค้าหรือผลิตภัณฑ์หัตถกรรมที่มีความแตกต่างและโดดเด่นที่ตรงกับความต้องการของตลาด โดยใช้นวัตกรรมและวัฒนธรรมสร้างสรรค์ตลอดห่วงโซ่

2) ด้านการตลาด เน้นการพัฒนาตลาดอนาคตสำหรับสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ หัตถกรรมในเขตภาคเหนือตอนบนที่เหมาะสมและเพิ่มมูลค่า ด้วยการใช้ digital marketing platform และการเชื่อมโยงกับการตลาดยุคใหม่ยุค new normal

3) ด้านการสร้างแบรนด์ เน้นการเสริมสร้างเอกลักษณ์และเพิ่มคุณค่าของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์หัตถกรรมด้วยทุนทางวัฒนธรรม การออกแบบสร้างสรรค์ และภูมิปัญญาท้องถิ่น และการประชาสัมพันธ์สู่ภายนอก

4) ด้านการสร้างเครือข่าย เน้นในการเชื่อมโยงระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในห่วงโซ่การผลิต ผลิตภัณฑ์หัตถกรรมเพื่อการพัฒนาและเพิ่มคุณค่าของสินค้าโดยเฉพาะการทำงานร่วมกันระหว่างนักออกแบบรุ่นใหม่และผู้ประกอบการ และการศึกษาและประเมินถึงผลกระทบจากโครงการ

โดยโครงการคำนึงถึงมิติการพัฒนา 4 ด้าน คือด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล เพื่อการยกระดับผลิตภัณฑ์หัตถกรรมจากรากฐานทางวัฒนธรรมท้องถิ่น ในเขตภาคเหนือตอนบนมุ่งเน้นที่จังหวัดรอง ได้แก่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน พะเยา แพร่ น่าน เชียงราย เชียงใหม่ – ให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์หัตถกรรมท้องถิ่น ที่สามารถถ่ายทอดอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมได้อย่างร่วมสมัย และเกิดพลังขับเคลื่อนการพัฒนาท้องถิ่นในภูมิภาคต่อไป

ทั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมโครงการ จำนวน 88 คน ที่ประกอบด้วยอาจารย์ผู้บรรยายและที่ปรึกษาจากต่างประเทศ นักออกแบบรุ่นใหม่ ครูช่างผู้ประกอบการหัตถกรรม OTOP และกลุ่มหัตถกรรมในพื้นที่มูลนิธิโครงการหลวง