อว. จับมือ 3 หน่วยงาน ขับเคลื่อนการพัฒนาด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และ ศิลปกรรมศาสตร์ของประเทศ ถ่ายทอดองค์ความรู้มรดกทางวัฒนธรรมแก่คนรุ่นใหม่

อว. จับมือ 3 หน่วยงาน ขับเคลื่อนการพัฒนาด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และ ศิลปกรรมศาสตร์ของประเทศ ถ่ายทอดองค์ความรู้มรดกทางวัฒนธรรมแก่คนรุ่นใหม่เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2565 สํานักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับ สํานักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรมสํานักงานการวิจัยแห่งชาติ และ กรมศิลปากร ลงนามความร่วมมือขับเคลื่อนการพัฒนาด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และ ศิลปกรรมศาสตร์ของประเทศโดยมีศาสตราจารย์ นายแพทย์ ดร. สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการ อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พร้อมด้วย นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ดร. วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อํานวยการ สํานักงานการวิจัยแห่งชาติ และนายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมศิลปากร ร่วมลงนาม เพื่อร่วมมือกันดําเนินการทางวิชาการและการส่งเสริม ขับเคลื่อนโครงการกิจกรรมต่าง ๆ ภายใต้กรอบ “โครงการขับเคลื่อนการพัฒนาด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ของประเทศ” ของทั้ง 4 หน่วยงาน

ในการนำองค์ความรู้ ข้อมูลทางวิชาการ พื้นที่วิจัย เทคโนโลยี และขับเคลื่อนการวิจัยสาขา มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ วัฒนธรรมและศิลปกรรมศาสตร์ รวมถึงการส่งเสริมและสนับสนุนงานวิจัยและวิชาการ พัฒนาและต่อยอด องค์ความรู้ให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายอย่างเป็นรูปธรรม และทําให้เกิดงานวิจัยที่มีผลสัมฤทธิ์ใน วงกว้าง นําไปสู่การถ่ายทอดองค์ความรู้และภูมิปัญญา การสร้างความภาคภูมิใจในรากเหง้าของคนในท้องถิ่น

ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ดร. สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวง อว. กล่าวว่า การบูรณาการความร่วมมือของกระทรวง อว. และกระทรวงวัฒนธรรมนี้เป็นส่วนสําคัญของประเทศที่จะเป็นการขับเคลื่อนกลไกที่สําคัญ ของประเทศในด้านศาสตร์และศิลป์ ซึ่งเป็นจุดแข็งของประเทศไทย ที่จะนําไปสู่การพัฒนาของประเทศอย่างมั่นคง และยั่งยืน โดยกระทรวง อว. มีบทบาทและภารกิจใน 3 ด้าน คือ ด้านการสร้างคน และการพัฒนากําลังคนและ บุคลากรในภาคอุดมศึกษา โดยความร่วมมือจากสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศเป็นหน่วยงานหลัก ด้านการวิจัย ในการศึกษาและ ค้นคว้าองค์ความรู้ และพัฒนานวัตกรรมใหม่ ด้านการพัฒนาโดยมีเป้าหมายในการขับเคลื่อนประเทศไทย ไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว

ซึ่งหัวใจหลักในการขับเคลื่อนนี้ คือการที่ประเทศไทยมีโครงสร้างและกําลังคนที่ดี และ มีพื้นฐานความรู้ต่อประวัติศาสตร์ มีความภาคภูมิใจและเข้าใจรากเหง้าของความเป็นไทย รวมถึงเข้าใจทิศทางของ ประเทศต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ การขับเคลื่อนทั้งศาสตร์และศิลป์ในด้านวัฒนธรรมของไทยอยู่ในลําดับต้น ๆ ใน เวทีระดับโลก ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งของประเทศไทยในด้านการพัฒนาและการนําไปใช้ประโยชน์และการขับเคลื่อนกลไก

โดย วิทยสถานสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย หรือมีชื่อเรียกว่า ธัชชา ภายใต้การดําเนินงานของธัชชา ประกอบไปด้วย 5 องค์ประกอบ ดังนี้ ประวัติศาสตร์ไทย 1. สุวรรณภูมิศึกษา โดยหัวใจหลักคือเพื่อให้เข้าใจประวัติศาสตร์ไทย ย้อนหลังก่อน 2. โลกคดีศึกษา เพื่อทําความเข้าใจบริบทของไทยในโลก  3.ช่างศิลป์ท้องถิ่น เรามีศิลปกรรมท้องถิ่นมากมาย แต่ละท้องถิ่นจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงการสืบสาน รักษาไว้ ให้อยู่คู่กับประเทศไทย 4. พิพิธภัณฑ์ศิลปกรรมแห่งชาติ ในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับงานศิลปะ อารยะ สุนทรียะ และ 5. เศรษฐกิจพอเพียง ขับเคลื่อนเพื่อที่จะนําหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของรัชกาลที่ 9 ให้เป็นที่ประจักษ์ในวงวิชาการโลก และนําไปปรับใช้ในการใช้ชีวิตประจําวันเพื่อให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน

สําหรับการดําเนินงานด้านสังคมศาสตร์และศิลปกรรมศาสตร์ ได้รับการสนับสนุนจาก สํานักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)ในการขับเคลื่อนกลไก รวมทั้งกระทรวงวัฒนธรรม ถือเป็นหน่วยหลักและมีความสําคัญ ในการพัฒนาและขับเคลื่อนเพื่อนําไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาคุณค่าทางสังคมศาสตร์ในประเทศ ต่อไป

ด้าน นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวง วธ. กล่าวว่า การบูรณาการความร่วมมือ ของกระทรวง อว. มีความสอดคล้องและทิศทางเดียวกันกับกระทรวงวัฒนธรรมในการขับเคลื่อนกลไกการพัฒนา และต่อยอด ในเรื่องมรดกทางวัฒนธรรม ซึ่งการถ่ายทอด การพัฒนาในประเด็นทางวัฒนธรรมจําเป็นต้องใช้ เทคโนโลยี และการวิจัยมาช่วยหนุนเสริม และขับเคลื่อน ซึ่งภายใต้กระทรวง วธ. ยังมีหลายหน่วยงานที่สามารถ เป็นกําลังสําคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนการดําเนินงานได้ เช่น กรมส่งเสริมวัฒนธรรม สํานักงานศิลปะร่วมสมัย สถาบัน บัณฑิตพัฒนศิลป์ และหอภาพยนตร์ ที่พร้อมจะเป็นส่วนผลักดันในการขับเคลื่อนร่วมกับกระทรวง อว.

Advertisement

ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมเล็งเห็นการพัฒนารากฐานของประเทศเป็นสิ่งสําคัญ รวมไปถึงการพัฒนาฐานข้อมูล งานวิจัย การเพิ่มมูลค่า การนําเทคโนโลยีไปใช้ประโยชน์ในการสืบสาน รักษา และต่อยอดทางศิลปวัฒนธรรม นําไปสู่การเป็นประเทศที่มั่นคง มั่นคงและยั่งยืน ทั้งนี้ การบูรณาการร่วมกันมือระหว่างกระทวง อว. และกระทรวง วัฒนธรรมจะเป็นการขับเคลื่อนด้านศิลปกรรมให้เกิดประโยชน์สูงสุดของประเทศต่อไป

ส่วน รองศาสตราจารย์พาสิทธิ์ หล่อธีรพงศ์ รองปลัดกระทรวง อว. กล่าวว่า บันทึกข้อตกลง ความร่วมมือการขับเคลื่อนการพัฒนาด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ ของทั้ง 4 ฝ่าย เป็นการบูรณาความร่วมมือในด้านการแลกเปลี่ยนบุคลากรด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ ของประเทศ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความร่วมมือการวิจัยในแต่ละสาขาของหน่วยงานภายในประเทศและหน่วยงาน ต่างประเทศ เป็นการเชื่อมโยงองค์ความรู้และต่อยอด รวมทั้งการอนุรักษ์ความเป็นท้องถิ่น การฟื้นฟูชุมชนเพื่อ นําไปสู่การถ่ายทอดองค์ความรู้ต่อไป

Advertisement

โดยบันทึกข้อตกลงได้ทําขึ้นมีระยะเวลา 5 ปี โดยจะมีการทบทวนและ ขยายความร่วมมือในทุกภาคส่วน ซึ่งจะก่อให้เกิดการบูรณาการระหว่างกระทรวง อว. และกระทรวงวัฒนธรรมใน การขับเคลื่อนการพัฒนาด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์อย่างเป็นรูปธรรม และเกิด ประโยชน์กับประเทศชาติต่อไป