พม.เปิดโรงรับจำนำของรัฐ สาขาที่ 42 แห่งใหม่ที่สุพรรณบุรี บรรเทาความเดือดร้อนทางด้านการเงินประชาชน

พม.เปิดโรงรับจำนำของรัฐ สาขาที่ 42 แห่งใหม่ที่สุพรรณบุรีบรรเทาความเดือดร้อนทางด้านการเงินประชาชน สาขาใหม่ ตั้งอยู่ถนนเณรแก้ว ใกล้ธนาคารกรุงไทย เพียงนำทรัพย์สินที่มีค่ามาจำนำให้ราคาสูง ดอกเบี้ยต่ำ คิดดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียงร้อยละ25สตางค์ต่อเดือน

เมื่อวันที่ สิงหาคม2565 นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีเปิดดำเนินกิจการสถานธนานุเคราะห์ที่ 42 ตั้งที่ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี (โรงรับจำนำของรัฐ)  โดยมีนายประสงค์ พันธ์ลิมา ผู้อำนวยการสำนักงานธนานุเคราะห์ ในนามผู้ดำเนินการจัดตั้ง กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ “การจัดตั้งสถานธนานุเคราะห์ตำบลท่าพี่เลี้ยงโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีนโยบายช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย  ที่สามารถแก้ไขปัญหาทางการเงินในระยะสั้นโดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราที่สูงเพื่อให้ประชาชนมีเงินทุนหมุนเวียนนำไปลงทุนประกอบอาชีพ รวมทั้งใช้จ่ายทางการศึกษาของบุตร  หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในชีวิตประจำวันนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์   กล่าวว่า สถานธนานุเคราะห์ (สธค.) หรือโรงรับจำนำของรัฐ เป็นรัฐวิสาหกิจสังกัด กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ทำหน้าที่เป็นกลไกในการจัดสวัสดิการสังคม เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนทางการเงิน โดยมีวัตถุประสงค์ที่สำคัญเพื่อรับจำนำในอัตราดอกเบี้ยต่ำ และตรึงระดับอัตราดอกเบี้ยไม่ให้โรงรับจำนำเอกชนเรียกค่าบริการสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยการให้บริการของ สธค. ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการของภาครัฐตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งขจัดความเดือนร้อนในด้านการเงินของประชาชนผู้มีรายได้น้อย และผู้ที่ประสบปัญหาทางการเงินเฉพาะหน้า

ปัจจุบัน สธค.ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานเข้าสู่ปีที่ 67เปิดสถานธนานุเคราะห์ 42 แห่ง  แบ่งเป็นสาขาในกรุงเทพมหานคร 29 แห่ง และปริมณฑลจำนวน 4 แห่ง ได้แก่จังหวัด นนทบุรี, ปทุมธานี , สมุทรปราการ  ส่วนภูมิภาค 9 แห่งได้แก่ จังหวัดระยอง 2 แห่ง ลำพูน 1 แห่ง สุราษฏร์ธานี 1 แห่ง จังหวัดอุดรธานี 1 แห่ง จังหวัดพิษณุโลก 1 แห่ง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 1 แห่ง จังหวัดชลบุรี 1 แห่ง และสุพรรณบุรี 1แห่ง ภายใต้วิสัยทัศน์ “เป็นองค์กรชั้นนำ ด้านการบริการรับจำนำ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย และ ยึดหลักธรรมาภิบาล” โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 42 สาขาทั่วประเทศ รวมสาขาจังหวัดสุพรรณบุรี ที่กำหนดจัดพิธีเปิดอย่างทางการในวันนี้ เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชน ผู้มีรายได้น้อยและผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าทางการเงิน อีกทั้งการแก้ไขความยากจนของประชาชน โดยสามารถนำสิ่งของมาจำนำ และเสียดอกเบี้ยในอัตราต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ได้รับ การบริการทางสังคมที่จำเป็นแก่การดำรงชีพ ทั้งนี้ สธค. ได้จัดทำแผนขยายสาขาการให้บริการในพื้นที่ส่วนภูมิภาคอย่างครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ โดยเห็นถึงความสำคัญและศักยภาพของจังหวัดสุพรรณบุรีว่า มีประชากรหนาแน่นมีความต้องการในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของภาครัฐเป็นจำนวนมาก และเป็นแหล่งธุรกิจสำคัญนั้นจึงได้พิจารณาคัดเลือกพื้นที่นี้ เพื่อจัดตั้งสถานธนานุเคราะห์ สาขาที่42 เพื่อรองรับความต้องการประชาชน  

ด้านนายประสงค์ พันธ์ลิมา ผู้อำนวยการสำนักงานธนานุเคราะห์ กล่าวว่า สธค.มีการคิดอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ ดังนี้ 1) เงินต้นไม่เกิน 5,000 บาทคิดดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 บาท ต่อเดือน 2) เงินต้น 5,001 – 10,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 บาท ต่อเดือน 3) เงินต้น 10,001 – 20,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1.00 บาทต่อเดือน และ 4) เงินต้น 20,001 – 100,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1.25 บาทต่อเดือน

ซึ่ง สธค. ได้คิดอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำสุดในธุรกิจโรงรับจำนำเพียงร้อยละ 25 สตางค์ต่อเดือน (วงเงินไม่เกิน 5,000 บาท) ยังมีนโยบายอัตราการรับจำนำทรัพย์ประเภททอง นาก เงิน และรูปพรรณ  โดยรับจำนำไม่เกินร้อยละ 87.5 ของราคาทองรูปพรรณในท้องตลาด ซึ่งให้ราคารับจำนำที่สูงขึ้นกว่าเดิม

“การคิดอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำของ สธค. นับว่าเป็นการช่วยเหลืออย่างแท้จริง สำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยและผู้ที่ประสบปัญหาทางการเงินเฉพาะหน้า โดยปรับภาพลักษณ์เปลี่ยนโฉมการบริการใหม่ ตั้งแต่ภาพลักษณ์ภายนอกด้านอาคารสถานที่ที่มีความสะดวกสบายมากขึ้น คล้ายคลึงสถาบันการเงินต่างๆ และการนำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ด้วยการให้บริการที่สะดวก รวดเร็ว และมีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชน”

ติดตามข่าวสาร สธค. ได้ที่ www.pawn.co.th / LINE : @ppo.pawn

Advertisement