กรมส่งเสริมการเกษตร ร่วมงานแถลงข่าว การจัดงานการประชุมวิชาการและนิทรรศการ ประจำปี 2565(NECTEC-ACE 2022)

กรมส่งเสริมการเกษตร เข้าร่วมงานแถลงข่าวการจัดงานการประชุมวิชาการและนทรรศการ ประจำปี 2565 หรือ NECTEC-ACE 2022 ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รมพัฒนาที่ดิน สถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร สวทช. บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)ซึ่งมีกำหนดจัดงานการประชุมิชาการและนิทรรศการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาตประจำปี 2565 (NECTEC Annual Conference &  Exhibitions 2022 : NECTEC ACE 2022) ในวันที่ 8 9 กันยายน 2565 ณ อาคารศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลอหลวง จังหวัดปทุมธานี ภายใต้แนวคิด ฐานรากเทคโนโลยีก้าวไกล พัฒนาไทยก้าวหน้า : DigitalTechnology for Sustainable Agriculture

ดร.สุรางค์ศรี วาเพชร ผู้อำนวยการกลุ่มภูมิปัญญาท้องถิ่นและนวัตกรรมด้านการเกษตร กองวิจัยและพัฒนางานส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า งาน NECTEC-ACE 2022 จัดขึ้นเพื่อการพัฒนาทางด้านอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ในสาขาการเกษตรการส่งเสริมและผลักดันการนำผลงานวิจัยไปสู่การใช้งานได้จริงสำหรับภาครัฐภาคการเกษตรภาคอุตสาหกรรม ภาคการศึกษานำไปสู่การสร้างผลกระทบเชิงเศรษกิจในระดับประเทศได้อย่างยั่งยืน และเพื่อสร้างเวทีสำหรับการนำเสนอ การอภิปราย และแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ระหว่างภาครัฐ ภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรมภาคการศึกษา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

โดยกรมส่งเสริมการเกษตรและ NECTEC ได้มีความร่วมมือกันในการผลักดันการใช้เทคโนโลยีสมาร์ทฟาร์มและยกระดับการพัฒนาด้านการเกษตรด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลมาโดยตลอด มส่งเสริมการเกษตรในฐานะที่มีบทบาทเป็นทั้ง Solutionprovider หรือหน่วยงานแก้ไขปัญหา และ Serviceprovider หรือหน่วยงานให้บริการและช่วยเหลือเกษตรกร ดังวิสัยทัศน์องค์กรที่ว่าเกษตรกรมีความเข้มแข็ง มีคุณภาพชีวิตที่ดี ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม และมีรายได้ที่มั่นค

ดังนั้น จึงให้ความสำคัญกับการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ จากหน่วยงานวิจัยเพื่อส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน เพิ่มปริมาณผลผลิต และคุณภาพสินค้าเกษตร เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรและยกระดับภาคการเกษตรด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่

นอกจากนี้ยังพิจารณาถึงปัจจัยสิ่งแวดล้อมที่เป็นปัจจัยการผลิตในการผลิตสินค้าเกษตรที่มีความสำคัญและมีความเสี่ยงต่อการขาดแคลน คือ น้ำตลอดจนกระแสการเปลี่ยนแปลงการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีหรือเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก(Technology disruption) จึงได้มุ่งค้นหาเทคโนโลยีดิจิทัลที่เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้ดีเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันและได้เลือกนำมาส่งเสริม คือระบบบริหารจัดการแปลงเกษตรด้วยระบบเกษตรอัจฉริยะ HandySense เป็นผลงานวิจัยของเนคเทคที่สามารถแก้ปัญหาเรื่องน้ำ แรงงาน เวลา และการบริหารจัดการการผลิตและการตลาด ทำให้ลดต้นทุนเพิ่มปริมาณ เพิ่มคุณภาพสินค้าเกษตร และบริหารจัดการผลิตและการตลาดได้

สำหรับโครงการความร่วมมือส่งเสริมนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ และแนวคิด HandySense Open Innovation เป็นความร่วมมือกันเพื่อการช่วยเหลือสนับสนุนทั้งงานวิชาการ (Technical Assistant) แหล่งทุน (Financial Assistant) และการบริหารโครงการร่วมกันของกรมส่งเสริมการเกษตร เนคเทค และ... โดยกระบวนงานการส่งเสริมการเกษตรที่ได้เริ่มดำเนินการมีทั้งการพัฒนาความรู้และทักษะบุคลากรด้านการเกษตรทั้งเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรและเกษตรกรมากกว่า 3,000 คน เพื่อสร้างการรับรู้ ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ HandySense ที่สำคัญได้สร้างแปลงเรียนรู้ต้นแบบระบบบริหารจัดการแปลงเกษตรด้วยระบบเกษตรอัจฉริยะ HandySense พร้อมกับวิทยากรประจำแปลงเรียนรู้ รวมจำนวน 16 จุดประกอบด้วยแปลงเรียนรู้ของศูนย์เรียนรู้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) และศูนย์ปฏิบัติการในสังกัดกรมส่งเสริมการเกษตร จำนวน 6 และ 10 จุด ตามลำดับ จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาพบว่าเกษตรกรตื่นตัวและสนใจการใช้ประโยชน์ของ HandySense ตลอดจนมีประชาชน ข้าราชการและหน่วยงานต่าง ให้ความสนใจและเข้ามาศึกษาดูงานจำนวนมาก ซึ่งในปี 2566 กรมส่งเสริมการเกษตรจะสร้างแปลงเรียนรู้ต้นแบบเพิ่มเติมอีก 29 จุด รวมเป็น 45 จุด ทั่วประเท

ดร.สุรางค์ศรี กล่าวต่อว่า การจัดงาน NECTECACE 2022 นี้ กรมส่งเสริมการเกษตรก็ได้มีส่วนร่วมในฐานะที่เป็นหนึ่งในหน่วยงานพันธมิตรที่นำผลงานวิจัยของเนคเทคมาขยายผลสู่การประยุกต์ใช้ของเกษตรกร คือ HandySense และร่วมกันพัฒนาระบบการขึ้นทะเบียนเกษตรกรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย ตลอดจนร่วมจัดนิทรรศการนำเสนอผลงานของกรมส่งเสริมการเกษตรทั้งการประยุกต์ใช้HandySense และผลงานส่งเสริมการเกษตรที่มุ่งสู่การเป็น Digital DOAE