เผยแพร่ |
---|
เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 นายนิวรณ์ แสงวิสุทธิ์ รองนายกเทศมนตรีนครตรัง นางลัดดาวัลย์ ช่วยชาติผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงาน และ ผู้แทนจากศาลเจ้าในจังหวัดตรัง ร่วมกันแถลงข่าวงานประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดตรัง ประจำปี 2567 ประเพณีถือศีลกินผักนับเป็นประเพณีเก่าแก่ ที่พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนในจังหวัดตรังปฏิบัติต่อเนื่องกันมานานกว่า 150 ปี จนกล่าวได้ว่า ประเพณีนี้เกิดขึ้นมาพร้อมกับการอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในเมืองตรังของชาวจีนที่นำเอาวัฒนธรรมประเพณี ลัทธิความเชื่อจากบ้านเกิดของตนเข้ามาด้วยโดยจัดขึ้นตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึงวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีนหรือราวเดือนกันยายนถึงตุลาคมของทุกปี
การจัดงานประเพณีถือศีลกินผักในปีนี้ตรงกับวันที่ 3 -11 ตุลาคม 2567 เทศบาลนครตรังกำหนดจัดงานในชื่อว่า “มหาทาน มหาบุญ มหากุศล กินผักนครตรัง” ระหว่างวันที่ 9-11 ตุลาคม 2567เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมในประเพณีบุญอันยิ่งใหญ่ ซึ่งการจัดงาน ณ มูลนิธิกุศลสถานตรัง เป็นปีแรกที่เทศบาลนครตรังได้ใช้สถานที่เพื่อการจัดงานเพื่ออยากให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และบริจาคโลงศพแก่ผู้ไร้ญาติ โดยอานิสงส์จากการบริจาคโลงศพช่วยให้แคล้วคลาดจากอันตราย ปลอดภัย ยิ่งให้ยิ่งได้
ซึ่งสอดคล้องกับประเพณีถือศีลกินผัก ซึ่งให้ถือศีลและงดเว้นการทานอาหารเนื้อสัตว์ รวมถึงการจัดกิจกรรมสวดมนต์เฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสปีมหามงคล 72 พรรษา การแสดงสิงโต มังกร การแสดงเอ็งกอ พะบู๊ จากจังหวัดนครสวรรค์ และการประกวดธิดาเจ้าแม่กวนอิมซึ่งตัดสินผู้ชนะเลิศ 2 คนสุดท้ายด้วยวิธีการเสี่ยงโปย การแสดงจากเยาวชนและชุมชน การออกร้านจำหน่ายอาหารเจ การรับองค์ศักดิ์สิทธิ์ออกโปรดสาธุชนในเขตเทศบาลนครตรัง รณรงค์ให้ประชาชนร่วมกันใส่ชุดขาว และมีผ้าพันขาซึ่งถือเป็นอัตลักษณ์ของตรัง เปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้เข้าร่วมด้วยช่วยกันในการต้อนรับนักท่องเที่ยวสายบุญ และอนุรักษ์สืบสานประเพณีอันดีงามของตรัง
ด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตรังตอกย้ำภาพลักษณ์จังหวัดตรังเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงอาหาร ตลอดจนนโยบายจังหวัดในการขับเคลื่อนจังหวัดตรังสู่การเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารเพื่อเข้าร่วมเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์องค์การยูเนสโก (UNESCO) และการขับเคลื่อน Gastronomy Tourism กินตามความเชื่อความศรัทธา ตามประเพณีถือศีลกินผัก จังหวัดตรัง และโภชนาการรูปโฉมใหม่ในการนำโปรตีนจากพืชเป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหาร โดยนำเสนอเมนูอาหารเจจังหวัดตรังแบบดั้งเดิม จำนวน 2 เมนู และเมนูอาหารเจที่มีการยกระดับอาหารเจในสไตล์ Fusion เพื่อสุขภาพ จำนวน 2 เมนู อาทิ“โกต้าว” อาหารจีนฮกเกี้ยนตรัง เป็นอาหารแห่งการสามัคคี กลมเกลียว ดั่งคนหลายที่หลายแบบมารวมกันทำกิจกรรมให้รักใคร่ เหนียวแน่น กลมเกลียว เหมือนถั่วลิสง เห็ดหอม เผือกอยู่รวมกัน เป็นเมนูเจ ถ้ากินคาว จะใส่หมูสับ กุ้งแห้ง ถั่วลิสง เผือก และต้นหอม เมืองตรังมีขนมชนิดนี้ใช้ในพิธีการเลี้ยงทหารเทพหรือโกกุ้น ซึ่งเป็นพิธีกรรมทางภาคใต้ มีรูปแบบในการจำลองการจัดค่ายทัพทหารรูปแบบของจริง โดยเอามาย่อ
ขนมเต่า
ส่วนในพิธีกรรมช่วงงานกินเจ การจัดค่ายห้าทิศ ธงห้าสีรักษาบริเวณพิธีโดยสังเกตได้จากเสื่อคล้าที่วางถ้วย เหล้า และอาหารบริเวณข้างๆ กระสอบข้าวสาร เกลือ อาวุธ ธงปักอยู่อีกมุม มีรูปเสืออีกมุม มีถาดใส่หญ้า ถั่วเขียว รวงข้าว ถังน้ำอีกมุม และจะวางกระดาษเงินทองทั้งห้าทิศ รวมถึงอาหารโกต้าวที่ขาดไม่ได้ ซึ่งแต่ละอย่างจะมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่แตกต่างกัน
เมนูสร้างสรรค์อาหารเจ โดยเชฟอุ้ม มีชื่อว่า “หมี่ทางใต้” แรงบันดาลใจมาจากหมี่น้ำหลอซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นสุดยอดอาหารถิ่นของจังหวัดตรังประจำปี 2567 ตามโครงการ 1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมและพัฒนายกระดับอาหารถิ่นสู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thailand Best Local Food) “รสชาติ…ที่หายไป The Lost Taste” ของ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม โดยใช้ หมี่เหลืองกรอบ เป็นเส้นหมี่ที่มีลักษณะเด่นเฉพาะแถบคาบสมุทรทางใต้ตอนล่างประกอบด้วยน้ำซุปที่เหนียวข้น ผสมผสานด้วยพืชผักและโปรตีนจากถั่วเหลืองปรุงรสด้วยเครื่องปรุงรสท้องถิ่นตรังเช่น ซีอิ๊วขาว เต้าเจี้ยว ซอสสีแดง(ค๊อมเจือง) ที่อยากให้ทุกท่านได้ลิ้มลอง และ “น้ำเต้าหู้ทรงเครื่อง” รสธรรมชาติทานคู่กับคุกกี้แผ่นบางกรอบ ที่รังสรรค์จากวัตถุดิบหลัก เต้าเจี้ยว กะปิเจ และแป้งข้าวเบายอดม่วง ปิดท้ายด้วย “ขนมเต่า” ที่ใช้สำหรับไหว้ขอพร ให้มีสุขภาพดี อายุยืนยาว คนจีนเชื่อว่า ขนมเต่า เป็นขนมมงคลใช้ในทุกงานพิธี นิยมใช้ไหว้ในวันเกิดพระ วันเกิดตัวเอง พิมพ์หลังเต่า มีอักษรจีน คำว่า สิ่ว แปลว่า อายุวัฒนะ
จังหวัดตรังทุกภาคส่วนพร้อมหลอมรวมศรัทธาความเชื่อความศรัทธา สืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นให้ยั่งยืน ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวสายบุญทั่วประเทศร่วมสัมผัสงานบุญที่ยิ่งใหญ่ ณ จังหวัดตรัง สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการแถลงข่าวท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายทั้งผู้แถลงข่าวและผู้เข้าร่วมงานต่างพร้อมใจกางร่มนั่งฟังการแถลงข่าวกันอย่างพร้อมเพียง กิจกรรมไฮไลท์ของงานคือการปรากฏตัวของท่านจอมยุทธท่านหนึ่งที่มาพร้อมกับมีดอีโต้พร้อมสับ คือนายชโยโดม พงษ์ปิ่น อายุ 61 ปี เป็นสมาชิกสภาเทศบาล ( สท.โดม ) เจ้าของร้านปาท่องโก๋อีโต้บิน ถนนเลียบทางรถไฟเขาแปะช้อย ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งได้ควงมีดอีโต้สับปาท่องโก๋ทอดให้กินร้อนๆ กว่าจะได้ปาท่องโก๋แต่ละตัวไม่ใช่ง่ายเพราะคุณพี่เล่นควงมีดอีโต้ให้ชมกันก่อน สท.โดมบอกว่า ควงอีโต้บินมานาน 40 ปีแล้ว ไม่พลาดโดนมีดบาดมือเลยสักครั้ง .