เผยแพร่ |
---|
พม. เดินหน้าขยายสาขา “สถานธนานุเคราะห์” ล่าสุดเปิดสาขาที่ 46 ลาดกระบัง เขตประชากรหนาแน่น มีความต้องการที่จะเข้าถึงแหล่งเงินทุนของภาครัฐเป็นจำนวนมาก และเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพเป็นแหล่งธุรกิจสำคัญ ยึดนโยบายรับจำนำในอัตราดอกเบี้ยต่ำที่เริ่มต้นเพียงร้อยละ 0.25 ต่อเดือน เล็งเดือนพฤศจิกายนเปิดสาขา 47 เขตบางขุนเทียน
นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวในการเป็นประธานพิธีเปิดสถานธนานุเคราะห์ สาขาที่ 46 ที่ ณ สถานธนานุเคราะห์ สาขาที่ 46 ณ แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ว่าวันนี้ได้เปิดสถานธนานุเคราะห์ สาขาที่ 46 ลาดกระบัง อย่างเป็นทางการ
นายอนุกูล กล่าวต่อว่า สธค. มีการดำเนินงานภายใต้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ โดยในปี 2568 จะก้าวเข้าสู่ปีที่ 70 ภายใต้วิสัยทัศน์ที่ว่า “เป็นโรงรับจำนำเพื่อสังคม บริการด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยยึดหลักธรรมาภิบาล” มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ประสบความเดือดร้อนและขาดแคลนเงินที่จะนำไปใช้ในการดำรงชีพหรือนำไปลงทุนประกอบอาชีพ โดยนำทรัพย์สินมาจำนำที่ดอกเบี้ยในอัตราต่ำ และเพื่อเป็นการตรึงระดับอัตราดอกเบี้ยรับจำนำมิให้สูงเกินไป
ทั้งนี้ ได้เล็งเห็นว่าพื้นที่เขตลาดกระบัง มีประชากรหนาแน่น มีความต้องการที่จะเข้าถึงแหล่งเงินทุนของภาครัฐเป็นจำนวนมาก และเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพเป็นแหล่งธุรกิจสำคัญ ดังนั้น จึงได้คัดเลือกพื้นที่เขตลาดกระบัง จัดตั้งสถานธนานุเคราะห์สาขาที่ 46 เพื่อรองรับความต้องการและเพื่อช่วยเหลือประชาชน ผู้มีรายได้น้อยในท้องถิ่นอย่างทั่วถึง
ปัจจุบันมีสถาน ธนานุเคราะห์ทั้งหมด 46 แห่ง ตั้งอยู่ในเขตต่างๆ ของกรุงเทพมหานคร จำนวน 30 แห่ง ปริมณฑล จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี 2 แห่ง จังหวัดปทุมธานี 2 แห่ง และจังหวัดสมุทรปราการ 1 แห่ง และส่วนภูมิภาคจำนวน 11 แห่ง ได้แก่ จังหวัดระยอง 2 แห่ง จังหวัดลำพูน 1 แห่ง จังหวัดสุราษฎร์ธานี 1 แห่ง จังหวัดอุดรธานี 1 แห่ง จังหวัดพิษณุโลก 1 แห่ง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 1 แห่ง จังหวัดชลบุรี 1 แห่ง จังหวัดสุพรรณบุรี 1 แห่ง จังหวัดราชบุรี 1 แห่ง จังหวัดลพบุรี 1 แห่ง และวันนี้เป็นสาขาที่ 46 ที่ลาดกระบัง
สธค. มีความมุ่งมั่นเพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้เป็นโรงรับจำนำเพื่อสังคม เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยระดับฐานรากและผู้ที่ประสบปัญหาเฉพาะหน้าทางการเงิน และมุ่งยกระดับให้ลูกค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของ สธค. มีอาชีพ มีรายได้ มีความมั่นคง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ส่งเสริมบทบาทของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยเป็นโรงรับจำนำเพื่อสังคม ให้บริการรับจำนำด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยยึดหลักธรรมาภิบาล สธค. เราพร้อมดูแลประชาชน ด้วยการรับจำนำในอัตราดอกเบี้ยต่ำที่เริ่มต้นเพียงร้อยละ 0.25 ต่อเดือนเท่านั้น และ สธค. ยังได้จัดทำแผนขยายสาขาการให้บริการในพื้นที่ส่วนภูมิภาคให้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ และได้จัดทำแผนเปิดสาขาที่ 47 (บางขุนเทียน) โดยจะเปิดทำการวันแรกในวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน สธค. ดอกเบี้ยถูก บริการดี วางใจได้