เผยแพร่ |
---|
เฝ้าระวังสวนองุ่นในช่วงที่มีความชื้นต่ำ กลางวันร้อน และกลางคืนอากาศเย็น กรมวิชาการเกษตร เตือนเกษตรกรผู้ปลูกองุ่นให้สังเกตการระบาดของโรคราแป้ง มักพบอาการของโรคได้ในระยะที่องุ่นพัฒนาผล ซึ่งจะพบอาการของโรคได้กับทุกส่วนของพืช โดยจะพบเชื้อราลักษณะคล้ายผงแป้งสีขาวเกิดกระจายเป็นหย่อมๆ ต่อมาผงสีขาวจะเปลี่ยนเป็นสีเทา
อาการที่กิ่งอ่อนและยอด จะพบผงสีขาวของเชื้อราตามกิ่งอ่อนและยอด โดยในระยะแรกบริเวณที่ถูกเชื้อราเข้าทำลายจะมีสีเทาและจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล หากโรคระบาดรุนแรง จะพบผงสีขาวของเชื้อราขึ้นคลุมเต็ม ทำให้แคระแกร็นและแห้งตาย อาการที่ช่อดอก จะพบผงสีขาวของเชื้อราตามช่อดอก ทำให้ดอกเหี่ยวแห้งและดอกร่วงไม่ติดผล
อาการที่ผล จะพบผงสีขาวของเชื้อราบนผลองุ่น ทำให้ผิวของผลเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ผลองุ่นบิดเบี้ยว บางครั้งทำให้ผลแตก อาการที่ใบ จะพบผงสีขาวของเชื้อราทั้งด้านบนใบและใต้ใบ โดยในระยะแรกบริเวณใบที่ถูกเชื้อราเข้าทำลายจะมีสีเหลืองอ่อนและจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล หากอาการรุนแรง จะทำให้ใบม้วนงอ เสียรูป ใบจะเหี่ยวและแห้งตายในที่สุด
เกษตรกรควรหมั่นตรวจแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ ตัดแต่งกิ่งองุ่นให้โปร่ง มีอากาศถ่ายเทสะดวก อย่าให้มีใบแน่นทึบจนเกินไป เพื่อลดความชื้นในแปลงปลูก และไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อสาเหตุโรค ถ้าพบโรคเริ่มระบาด ให้เกษตรกรตัดและเก็บส่วนที่เป็นโรคนำออกจากแปลงไปเผาทำลายนอกแปลงปลูก เพื่อลดปริมาณการสะสมของเชื้อสาเหตุโรค
หากพบว่ายังมีการระบาดของโรค ให้เกษตรกรพ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืชเบโนมิล 50% ดับเบิ้ลยูพี อัตรา 6-10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารคาร์เบนดาซิม 50% เอสซี อัตรา 10 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร โดยพ่นทุก 7 วัน