ที่มา | เทคโนโลยีการเกษตร |
---|---|
ผู้เขียน | สาวบางแค 22 |
เผยแพร่ |
อาจารย์ประทีป กุณาศล นักวิชาการพืชสวนอิสระ อดีตข้าราชการกรมวิชาการเกษตร และเป็นที่ปรึกษาด้านวิชาการพืชสวน ของ “นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน” ได้แนะนำให้ผู้เขียนไปเยี่ยมชม “สวนคุณปาน รีสอร์ทเขาใหญ่” ที่โดดเด่นในเรื่องเทคนิคการผลิตองุ่นแบบประณีต เพื่อเพิ่มปริมาณและคุณภาพของผลผลิตองุ่น ตามคำแนะนำของ ดร. ชินพันธ์ ธนารุจ สาขาไม้ผล คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จนประสบความสำเร็จด้านการผลิตและการตลาด ทำให้สวนแห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเรียนรู้เรื่องการจัดการสวนองุ่นอย่างมืออาชีพ
จากเส้นทางถนนธนะรัชต์ ขับผ่านแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง “ปาลิโอ เขาใหญ่” ก่อนถึงด่านเก็บเงินขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยมาประมาณ 7 กิโลเมตร ขับตรงไปเรื่อยๆ ผ่านคีรีมายากอล์ฟรีสอร์ทแอนด์สปาเขาใหญ่ และครัวกำปั่น ประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงสถานที่ตั้งของสวนองุ่นแห่งนี้ สังเกตด้านขวามือ มีบ้านทรงไทยหลังใหญ่ ด้านหน้ามีป้ายขนาดใหญ่ ติดชื่อ “สวนคุณปาน รีสอร์ทเขาใหญ่” สวนแห่งนี้อยู่ก่อนทางเข้าหมู่บ้านคลองเดื่อ
ปัจจุบัน “สวนคุณปาน รีสอร์ทเขาใหญ่” ตั้งอยู่เลขที่ 8/3 หมู่ที่ 6 บ้านคลองเดื่อ ถนนทางหลวงชนบท นม. 3052 ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 30130 โทร. (089) 801-4679 และ (092) 569-8638 เจ้าของสวนแห่งนี้ ชื่อ “คุณปานนภา ปาซ่อนกลิ่น” วัย 47 ปี ต้อนรับพวกเราด้วย “น้ำองุ่นสดแช่เย็น” รสหวาน ดื่มแล้วชื่นใจและดีต่อสุขภาพ
คุณปาน เล่าเส้นทางชีวิตของเธอให้ฟังว่า เธอเกิดในครอบครัวเกษตรกร ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต่อมาคุณพ่อได้ย้ายครอบครัวมาตั้งรกรากที่อำเภอปากช่อง เธอเรียนรู้อาชีพการทำสวนทำไร่จากคุณพ่อ เมื่อเติบโตคุณพ่อก็แบ่งที่ดินให้ทำกิน เธอปลูกพืชเศรษฐกิจมาแล้วหลายชนิด ทั้งปลูกฝ้าย ปลูกน้อยหน่า แตงกวา มะเขือเทศ มะขามหวาน มะม่วง ลำไย ข้าวโพด มันสำปะหลัง ฯลฯ
จนกระทั่ง ปี 2552 คุณปาน ได้หันมาทดลองปลูกองุ่นพันธุ์แบล็คโอปอล บนเนื้อที่ 1 ไร่ ปรากฏว่า มีดแรก สวนองุ่นทำเงินไม่ได้ เพราะเธอขาดความรู้และประสบการณ์เรื่องการปลูกดูแลองุ่น เธอไม่ท้อ อาศัยเรียนรู้เรื่องการทำองุ่นแบบครูพักลักจำ จากการเยี่ยมชมสวนองุ่นในพื้นที่อำเภอปากช่อง และนำมาประยุกต์ใช้ในสวนองุ่นของตัวเอง จนพัฒนาฝีมือดีขึ้น
เมื่อมั่นใจว่า อาชีพการปลูกองุ่น สร้างเงิน สร้างงาน ที่มั่นคงเพียงพอสำหรับเลี้ยงดูครอบครัวได้ เธอจึงลงทุนทำสวนองุ่นอย่างเต็มตัว โดยลงทุนสร้างโรงเรือนพลาสติกสำหรับปลูกองุ่น เพื่อรักษาคุณภาพผลผลิต ทำให้องุ่นรุ่นต่อมามีคุณภาพดีขึ้น ทำให้มีกลุ่มลูกค้าขาประจำแวะเวียนเข้ามาซื้อสินค้าถึงสวนอย่างไม่ขาดสาย ขายดีจนสินค้าไม่ทันกับความต้องการของตลาด
ต่อมา คุณปาน จึงตัดสินใจยื่นขอกู้เงินกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาปากช่อง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการขยายโรงเรือนพลาสติกสำหรับปลูกองุ่น และก่อสร้างบ้านพักสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักผ่อนในอำเภอปากช่อง
คุณปาน บอกว่า ในระยะแรกเธอบริหารจัดการสวนองุ่นแบบเก่า แบบเดียวกับที่ใช้ในสวนองุ่นของอำเภอบ้านแพ้ว ทำให้มีต้นทุนค่าใช้จ่ายสูง มีทั้งค่าปุ๋ย ค่ายา ใช้แรงงานจำนวนมาก ช่วงนั้นเธอยังตัดองุ่นไม่เป็น ต้องเสียค่าจ้างคนงานจำนวนมาก ไม่ต่ำกว่า 4,000-5,000 บาท
นับเป็นความโชคดีของเธอ ที่มีโอกาสรู้จัก “ดร. ชินพันธ์ ธนารุจ” นักวิชาการสาขาไม้ผล คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โทร. (089) 264-2853 อีเมล [email protected] ดร. ชินพันธ์ ได้แนะนำให้เธอได้เรียนรู้เทคนิคการบริหารจัดการสวนองุ่นรูปแบบใหม่ ที่เรียกว่า การจัดการองุ่นแบบประณีต เพื่อเพิ่มปริมาณและคุณภาพผลผลิต ที่ ดร. ชินพันธ์ ได้เรียนรู้จากการศึกษาดูงานด้านการผลิตไม้ผลชนิดต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น ไต้หวัน และนิวซีแลนด์
ทั้งนี้ หลักการทำการเกษตรอย่างประณีต (Intensive) นั้น ดร. ชินพันธ์ ส่งเสริมให้เกษตรกรดูแลเอาใจใส่การผลิตทุกขั้นตอน เพื่อเพิ่มปริมาณและเพิ่มคุณภาพสินค้าให้ดีขึ้นในพื้นที่จำกัดแล้ว วิธีนี้ยังช่วยให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนและปัจจัยการผลิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแรงงานและสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชที่เป็นอันตรายต่อเกษตรกรเองและผู้บริโภค การบริหารจัดการลักษณะนี้ จะทำให้ทิศทางการผลิตเป็นแบบชีวภาพ (Bio control) แบบผสมผสาน (Integrated Pest Management : IPM) และพัฒนาไปถึงระบบเกษตรอินทรีย์ได้ในอนาคต
ดร. ชินพันธ์ ได้แนะนำให้เกษตรกรเจ้าของสวนองุ่นหลายแห่ง ใช้เทคนิคการจัดกิ่งองุ่น แบบ “กิ่งก้างปลา” โดยเลี้ยงกิ่งให้มีขนาดและความยาวที่สม่ำเสมอ เป็นการจัดกิ่งคล้ายกับก้างปลา ซึ่งเป็นการจัดการกิ่งอย่างประณีต เพื่อช่วยเพิ่มปริมาณผลผลิตให้เพิ่มมากขึ้นและผลผลิตมีคุณภาพดีขึ้น ปรับระยะปลูกให้ห่างขึ้น เพื่อความเหมาะสมต่อการปลูก “องุ่น” ซึ่งเป็นผลไม้เมืองหนาวที่ปลูกเขตร้อนอย่างประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เทคนิคการจัดกิ่งองุ่น แบบ “กิ่งก้างปลา” ช่วยให้ต้นองุ่นสามารถเจริญเติบโตได้เร็วขึ้น โดยทั่วไปต้นองุ่นส่วนใหญ่เป็นการเจริญเติบโตทางกิ่งใบแต่จะให้ผลผลิตน้อยโดยเฉพาะพันธุ์ที่มีความแข็งแรงมากๆ เช่น พันธุ์เฟลมซีดเลสส์ (Flame Seedless) ซึ่งเป็นพันธุ์ที่มีกลิ่นและรสชาติหวาน กรอบ และถูกปากคนไทยมากพันธุ์หนึ่ง ปัจจุบันสามารถผลิตได้ในพื้นราบเขตเชียงใหม่ ลำพูน นครราชสีมา และอีกหลายจังหวัด ที่ผ่านมามีสวนองุ่นหลายแห่งที่นำหลักการของ ดร. ชินพันธ์ ไปใช้จนประสบความสำเร็จอย่างน่าสนใจ ยกตัวอย่าง เช่น สวนสุชาดา ในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว โครงการหลวง จังหวัดเชียงใหม่ ฯลฯ
เนื่องจาก คุณปาน มีพื้นฐานความรู้ด้านการเกษตรอยู่ก่อน เมื่อได้รับคำแนะนำด้านวิชาการจาก ดร. ชินพันธ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านไม้ผล ทำให้เธอสามารถนำองค์ความรู้นั้นมาประยุกต์ใช้ในการผลิตสินค้า จนกิจการสวนองุ่นเติบโตก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ มีฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ปัจจุบัน สวนองุ่นแห่งนี้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องการบริหารจัดการสวนองุ่นแบบมืออาชีพ ที่ผู้สนใจแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมกิจการและแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องการบริหารจัดการสวนองุ่นกับคุณปานอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี หากใครสนใจต้นองุ่นและวิธีปลูกดูแล ติดต่อดูงานแลกเปลี่ยนความรู้ ได้ที่ สวนแห่งนี้ คุณปานยินดีแนะนำการปลูกให้ฟรีๆ
คุณปาน บอกว่า เกษตรกรและผู้สนใจมักแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมชมกิจการและซักถามเรื่องเทคนิคการตัดแต่งกิ่ง การโน้มกิ่ง ฯลฯ เทคนิคการจัดกิ่งองุ่น แบบ “กิ่งก้างปลา” ช่วยให้การบริหารจัดการสวนองุ่นได้ง่ายขึ้น จากเดิมที่เคยจ้างแรงงาน 14 คน ดูแล ปัจจุบันสวนองุ่นของเธอใช้แรงงานคนในครอบครัวแค่ 3-4 คน ช่วยกันตัดแต่งกิ่งต้นองุ่น เสร็จภายในวันเดียว
จากครั้งแรกที่ลงทุนปลูกองุ่นเพียงแค่ 1 ไร่ เมื่อธุรกิจเติบโต คุณปานก็ขยายพื้นที่ปลูกองุ่นพันธุ์แบล็คโอปอลเพิ่มขึ้นเป็น 5 ไร่ และปลูกองุ่นพันธุ์ไวท์มะละกาอีก 2 ไร่ ปัจจุบันสวนแห่งนี้ปลูกองุ่นหลากหลายสายพันธุ์ เช่น พันธุ์แบล็คโอปอล พันธุ์บิวตี้ ซีดเลสส์ พันธุ์เฟรมซีดเลสส์ (ช่อยาว หวานกรอบ) พันธุ์เพอร์เร็ท พันธุ์คาดินัล ฯลฯ
จุดเด่น-ด้อย ขององุ่นแต่ละสายพันธุ์
คุณปาน บอกว่า ตอนนี้ เธอปลูกองุ่นหลายพันธุ์อย่างละนิดอย่างละหน่อย หากดูแลจัดการดีๆ ก็ได้ผลดก หากอยากได้องุ่นพันธุ์ไหน ก็แค่เอายอดองุ่นพันธุ์ใหม่ไปเปลี่ยนเอา องุ่นแต่ละสายพันธุ์มีเทคนิคการดูแลใช้ปุ๋ย ใช้ยาฮอร์โมนที่แตกต่างกัน
สำหรับองุ่นพันธุ์แบล็คโอปอลของสวนแห่งนี้ โดดเด่นในเรื่องรสชาติหวาน กรอบ และมีขนาดผลเล็ก ซึ่งคนไทยบางคนเจอองุ่นผลเล็กแบบนี้มักเรียกผิดว่าเป็น “องุ่นไข่ปลา” ความจริงแล้ว เป็นองุ่นคนละสายพันธุ์กัน ที่เรียกว่า องุ่นไข่ปลา คือองุ่นพันธุ์ไข่ปลาคาเวียร์ ซึ่งสวนคุณปานไม่ปลูกองุ่นพันธุ์นี้ เพราะดูแลจัดการยาก เนื่องจากเป็นพวงองุ่นผลเล็ก การซอยผลทำได้ยาก
คุณปาน บอกว่า ตอนแรกที่เธออยากทำสวนองุ่น ก็ไม่รู้ว่าองุ่นพันธุ์ไหนดีกว่ากัน สังเกตว่า “แบล็คโอปอล” เป็นสายพันธุ์องุ่นที่เกษตรกรนิยมปลูกกันทั่วไป เพราะดูแลจัดการง่าย จึงสั่งต้นพันธุ์มาปลูก ปรากฏว่า เจอปัญหาผลผลิตล้นตลาด เนื่องจากเกษตรกรส่วนใหญ่ปลูกองุ่นพันธุ์แบล็คโอปอล อย่างไรก็ตาม หากเกษตรกรดูแลจัดการต้นแบล็คโอปอลให้มีผลผลิตคุณภาพดี รสชาติอร่อย องุ่นพันธุ์นี้ก็ยังเติบโตได้เรื่อยๆ
ส่วนองุ่นเขียวพันธุ์ไวท์มะละกา คุณปาน บอกว่า เป็นองุ่นเขียว มีเมล็ด ผลดก ช่อใหญ่ พวงยาว ทนแล้ง ปลูกที่ต่ำได้ ใบไม่สวย องุ่นพันธุ์นี้มี 2 สายพันธุ์หลัก คือชนิดผลกลม และผลยาว ให้ผลผลิตปีละ 2 ครั้ง วางขายในท้องตลาดทั่วไป นิยมปลูกแพร่หลายในพื้นที่อำเภอบ้านแพ้ว สำหรับองุ่นพันธุ์คาร์ดินัล ปลูกดูแลง่าย ให้ผลผลิตสูง ช่อผลใหญ่ ผลมีสีม่วงดำ รสชาติหวาน กรอบ เปลือกบาง จุดอ่อนคือ หากเก็บเกี่ยวผลผลิตไม่ทัน เสี่ยงเจอปัญหาผลแตกได้ง่าย โดยทั่วไปสามารถเก็บผลผลิตได้ 5 ครั้ง ภายในระยะเวลา 2 ปี
เคล็ดลับความสำเร็จ
การทำสวนองุ่นให้ประสบความสำเร็จ คุณปาน บอกว่า 80% เจ้าของต้องมีเวลาดูแลสวนด้วยตัวเอง และคนงานต้องมีใจให้เราด้วย หากคนงานทำงานแค่วันๆ เพื่อรอเงินเดือน เขาจะไม่รู้ ไม่ถาม ไม่ตาม เรื่องที่เราทำ ผลผลิตก็ได้น้อย หากคนงานสนใจ ทำตาม เจอปัญหาก็ถาม ช่วยกันแก้ไขไม่ดูดาย ผลผลิตก็ได้ดีตามที่เราต้องการ
ผู้เขียนใช้เวลาพูดคุยและเยี่ยมชมสวนของเธอถึง 2 ชั่วโมง คุณปานเป็นคนที่คุยสนุก มีเรื่องราวน่ารู้ เกี่ยวกับการบริหารจัดการสวนองุ่นที่น่าสนใจมากมาย จึงขอแบ่งปันสาระน่ารู้เกี่ยวกับสวนองุ่นแห่งนี้ มานำเสนอท่านผู้อ่านอีกครั้งในฉบับต่อไป
เผยแพร่ครั้งแรกในระบบออนไลน์ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2560