เผยแพร่ |
---|
“อาร์ทูอีทู” จัดเป็นมะม่วงพันธุ์การค้าของประเทศออสเตรเลีย พัฒนามาจากมะม่วงพันธุ์เคนท์ (Kent) ผลมีลักษณะกลม เนื้อแข็ง ผลค่อนข้างใหญ่ น้ำหนักผลเฉลี่ยประมาณ 800 กรัม-1 กิโลกรัม ต่อผล เมื่อสุกผิวผลจะมีสีเหลืองอมแดง เนื้อสีเหลืองมะนาว ไม่มีเสี้ยน รสชาติหวาน เป็นพันธุ์ที่มีอายุการเก็บรักษาหลังการเก็บเกี่ยวได้นาน
เมื่อนำมาปลูกในประเทศไทยได้ผลผลิตและคุณภาพไม่แพ้ที่ปลูกในออสเตรเลีย ปลูกได้ในทุกพื้นที่ในบ้านเราที่ปลูกมะม่วงได้ (ยกเว้นภาคใต้) มีคำยืนยันมาจากพ่อค้าส่งออกมะม่วงว่า อาร์ทูอีทูในบ้านเรา ขนาดผล สีสันมีสีแดง ได้คุณภาพไม่แพ้มะม่วงอาร์ทูอีทูที่ปลูกประเทศออสเตรเลียได้อย่างแน่นอน เพียงแต่จะต้องปรับปรุงเทคนิคในการผลิตและวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวให้ดีขึ้น เช่น การตัดแต่งกิ่งช่วยให้ผลมะม่วงได้รับแสงแดดเต็มที่ ทำให้ผิวผลมีสีแดงจัดสม่ำเสมอทั่วผล หรือจะเป็นการใช้ถุงห่อชุนฟงเข้ามาช่วย เป็นต้น ข้อได้เปรียบหนึ่งของมะม่วงอาร์ทูอีทูที่ปลูกในไทยคือ ค่าแรงงานถูกกว่าค่าแรงงานในประเทศออสเตรเลีย
ที่ อ.บางแพ จ.ราชบุรี นอกจากจะมีการเลี้ยงกุ้งที่เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัดแล้ว ในพื้นที่ก็ยังมีมะม่วงซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักอีกชนิด ที่เกษตรกรในกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงส่งออก ต.ดอนคา อ.บางแพ ได้ให้ความสนใจ โดยปัจจุบันนั้นมีการส่งไปจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศสร้างรายได้แต่ละปีนับล้านบาท โดยมีสำนักงานเกษตรจังหวัดคอยให้คำแนะนำ และส่งเสริมเรื่องช่องทางการตลาด พร้อมดูแลเรื่องมาตรฐานและความปลอดภัย เพื่อให้ผลผลิตมีคุณภาพได้มาตรฐานผ่านการรับรอง GAP
โดยหลังจากที่มีการก่อตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงส่งออก อ.บางแพมาแล้ว ทำให้มีการรวมกลุ่มของเกษตรกรที่มีทั้งหมด 60 ราย ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้ ในส่วนของปลูกมะม่วงสายพันธุ์ อาร์ทู อีทู ส่งเข้ากลุ่มฯ มีจำนวน 5 ราย เพื่อส่งจำหน่ายไปยังห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ในประเทศ และต่างประเทศซึ่งกำลังได้รับความนิยม มีออร์เดอร์ยอดสั่งจองเพิ่ม จนผลผลิตส่งออกเริ่มไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดในขณะนี้ ทำให้เกษตรกรบางรายขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มเพื่อรองรับตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
นายอำนาจ วรรัตน์วัฒนกุล อายุ 57 ปี ชาวบ้านใน ต.ดอนคา อ.บางแพ เปิดเผยว่า ที่สวนปลูกมะม่วงพันธุ์อาร์ทูอีทู มีอายุ 7 ปี ประมาณ 150 ต้น อายุ 3 ปี 500 ต้น ในพื้นที่ 25 ไร่ หลังจากได้รับความรู้จากกลุ่มฯ ช่วยแนะนำวิธีการปลูก วิธีการปลูกระยะต้นห่างกัน 4 X 6 เมตร ผลดีช่วงระยะห่างของต้นทำให้รับแสงแดดได้ดี ลูกมะม่วงมีสีแดงสวยขายดีกว่าลูกสีเขียว
หลังปลูกจะให้ใส่ปุ๋ยสูตร 16-16-16 ปีละ 2 ครั้ง พออายุได้ 2 ปีครึ่งถึง 3 ปี เริ่มออกผล ช่วงระหว่างออกดอกจนถึงเก็บผลผลิตใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ระหว่างนี้ต้องคอยเด็ดใบที่อยู่ใกล้ลูกออก เพื่อให้แสงแดดได้ส่องลงมาที่ผิวมะม่วงมากที่สุดจะทำให้มะม่วงได้คุณภาพราคาดียิ่งขึ้น มีการคัดเกรดส่ง เบอร์สวยลูกโตได้กิโลกรัมละ 100 บาท เบอร์รองก็จะมีราคาลดลงไป
สิ่งสำคัญอย่าให้ยางมะม่วงโดนผิวเด็ดขาด เพราะจะทำให้ผิวเสียเป็นรอยด่างทำให้ราคาตก เวลาตัดมะม่วงต้องให้เหลือขั้วไว้ประมาณ 1 นิ้ว พร้อมกับหาถุงมาห่อหุ้มลูกไว้ เพื่อป้องกันยางไหลโดนที่ผิว จากนั้นจึงนำไปคัดแยกขนาด
สำหรับสภาพพื้นที่ของ อ.บางแพ มีน้ำสมบูรณ์ อากาศถ่ายเทดี ทำให้ไม่มีเขม่ามาเกาะบริเวณผิวมะม่วง ซึ่งแตกต่างจากที่อื่นที่จะมีผิวลูกไม่ค่อยสวย ขณะนี้ได้ขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มอีก 50 ไร่ โดยที่ดิน 1 ไร่ สามารถปลูกได้ประมาณ 67 ต้น 1 ต้นเฉลี่ย ประมาณ 30 – 40 กิโลกรัม สร้างรายได้ประมาณต้นละ 3,000 – 4,000 บาท
นายราเชนทร์ สุขหวานอารมณ์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ส่งออกมะม่วง อ.บางแพ เปิดเผยว่า ผลผลิตของมะม่วงพันธุ์อาร์ทูอีทู ส่งไปจำหน่ายที่ประเทศรัสเซียมาหลายปีแล้ว นอกจากนี้ส่งไปจำหน่ายแถบตะวันออกกลาง 3 ปีแล้ว หลังจากเริ่มต้นเปิดตลาดแนะนำลูกค้าไปจากลูกค้าเดิมที่เคยรับประทานมะม่วงน้ำดอกไม้ของกลุ่มฯ ไป ครั้งแรกส่งมะม่วงพันธุ์อาร์ทูอีทูไปขายประมาณ 50 กิโลกรัม แต่ปัจจุบันส่งสัปดาห์ละ 4 – 5 ตัน ขณะนี้มียอดสั่งเพิ่มขึ้นถึงสัปดาห์ละ 8 – 10 ตัน ทำให้ทางกลุ่มไม่สามารถส่งไปตามออร์เดอร์ที่สั่งเข้ามาได้ เนื่องจากผลผลิตยังไม่เพียงพอ
ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของเกษตรกรที่ปลูกมะม่วงอาร์ทู อีทูในปัจจุบัน ที่ยังคงมีผู้ปลูกน้อยอยู่ ขณะนี้ได้มีการคิดค้นต่อยอดร่วมกับ สวทช. ทำม่วงอบแห้ง เนื่องจากมะม่วงจะมีหลายเกรด ทั้งเกรด เอ เกรด บี และโลว์เกรด พยายามที่จะพัฒนาให้ไม่มีของเหลือ มีแนวคิดการทำมะม่วงแช่อิ่มอบแห้ง เป้าหมายมุ่งส่งตลาดต่างประเทศเป็นหลักขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ ส่วนกิ่งพันธุ์สามารถสั่งซื้อได้ที่กลุ่มมีจำหน่ายกิ่งละ 100 -300 บาท
ทั้งนี้ สมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงส่งออก ต.ดอนคา อ.บางแพ เตรียมที่จะขยายพื้นที่เพิ่มในการปลูกมะม่วงอาร์ทู อีทู เพื่อให้ผลผลิตเพียงพอต่อความต้องการของตลาดต่างประเทศ
ผู้สนใจที่จะศึกษาวิธีการปลูกสามารถโทรติดต่อได้ที่ นายราเชนทร์ สุขหวานอารมณ์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ส่งออกมะม่วงอ.บางแพ เบอร์ 086-0419571
วันพฤหัสที่ 26 กันยายน พ.ศ.2562