ปลูกข้าวโพด พันธุ์อินทรี 2 ได้ผลผลิตไว รสชาติหวาน ที่ปากช่อง

ข้าวโพดหวาน พันธุ์อินทรี 2 ข้าวโพดที่ขึ้นชื่อเรื่องความหวาน ที่หลายๆ คนชื่นชอบ นอกจากจะเป็นที่นิยมของผู้บริโภคแล้ว ข้าวโพดสายพันธุ์นี้ยังสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

คุณวิสูตร ศิลประดิษฐ์

 

คุณวิสูตร ศิลประดิษฐ์ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดหวานพันธุ์อินทรี 2 อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 83 หมู่ที่ 9 ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เดิมทีทำอาชีพค้าขายผลไม้มาก่อน แต่ผลประกอบการไม่ค่อยดีนัก จึงเริ่มหันมาทำไร่ คุณวิสูตร เริ่มปลูกข้าวโพดมาได้ 8 ปีแล้ว บนเนื้อที่ในการปลูกทั้งหมด 32 ไร่ โดยคุณวิสูตรเล่าว่า จุดเด่นของข้าวโพดพันธุ์นี้อยู่ที่ให้ผลผลิตไว และรสชาติดี เป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก

ปลูกข้าวโพดหวานไม่ยาก แต่ต้องดูแล

การวางระบบให้น้ำแบบสปริงเกลอร์

ข้าวโพด ถ้านับตั้งแต่ช่วงหยอดเมล็ดไปจนถึงช่วงเก็บเกี่ยว จะใช้เวลาอยู่ที่ 65-70 วัน โดยช่วงที่ข้าวโพดจะให้ผลผลิตช้าที่สุด จะอยู่ในช่วงของฤดูหนาว เมล็ดพันธุ์ที่ซื้อนั้น ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 500 บาท ในพื้นที่ 1 ไร่ จะใช้เมล็ดพันธุ์ประมาณ 2 กิโลกรัม

ข้าวโพดหวานพันธุ์อินทรี 2

ในกระบวนการปลูก ขั้นตอนของการเตรียมดินจะต้องไถดินและยกร่องดิน เพื่อให้ดินพร้อมสำหรับการหยอดเมล็ด ระยะห่างระหว่างร่อง อยู่ที่ประมาณ 70 เซนติเมตร ระยะห่างระหว่างเมล็ด ประมาณ 30 เซนติเมตร ใน 1 หลุม จะใส่เมล็ด 2 เมล็ด เมื่อหยอดเมล็ดแล้ว ผ่านไป 4 คืน ต้นอ่อนจะเริ่มงอก เมื่อต้นข้าวโพดงอกจะต้องถูกคัดให้เหลือเพียงหลุมละ 1 ต้น เท่านั้น โดยที่จะเริ่มถอนต้นข้าวโพดเมื่อต้นมีอายุ 20 วัน เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นไม่สมบูรณ์

การให้น้ำ จะให้โดยระบบสปริงเกลอร์ จะให้น้ำครั้งละ 1 ชั่วโมง ถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง ส่วนในฤดูฝนจะไม่ค่อยให้น้ำ เพราะต้นข้าวโพดจะได้รับน้ำฝนจากธรรมชาติอยู่แล้ว ในพื้นที่ 1 ไร่ จะตกอยู่ที่ 100 หัวจ่ายน้ำ

เมล็ดในฝักอัดแน่นเรียงตัวสวย

การให้ปุ๋ยในครั้งแรก จะใส่ปุ๋ยรองพื้น คือใส่ปุ๋ยไปพร้อมกับตอนที่ยกร่อง ใช้ปุ๋ยสูตร 16-16-16 ใน 1 ไร่ เฉลี่ยการใส่ปุ๋ยอยู่ที่ 1 ลูก หรือ 50 กิโลกรัม ครั้งที่ 2 ใส่หลังจากที่ถอนต้นข้าวโพด จะใส่ปุ๋ยยูเรีย สูตร 46-0-0 เฉลี่ยตกไร่ละ 1 ลูก หรือ 50 กิโลกรัม เช่นกัน ครั้งที่ 3 ใส่เมื่อข้าวโพดเริ่มเข้าสู่ช่วง “กำลังแต่งตัว” คือใกล้จะออกดอก อายุประมาณ 45 วัน โดยที่จะใส่ปุ๋ยสูตร 16-16-16 ผสมกับปุ๋ยยูเรีย ในอัตราส่วน 2:1 คือ ปุ๋ยสูตร 16-16-16 ใส่ 50 กิโลกรัม ปุ๋ยยูเรีย 25 กิโลกรัม

ศัตรูพืชที่พบช่วงนี้คือ หนอน จะพบเจอมากตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีวิธีการป้องกันโดยการใช้ อีมาเมกติน+เบนโซเอท ต่างจากเมื่อก่อนที่ศัตรูพืชจะเป็นเพลี้ยไฟ แต่ช่วงนี้หนอนกลับระบาดอย่างหนักแทน

ผลผลิตที่ได้หลังการเพาะปลูก

แหล่งน้ำที่ใช้สูบไปรดต้นข้าวโพด

ผลผลิตใน 1 ไร่ จะได้น้ำหนักประมาณ 2 ตัน ราคามีทั้งหมด 3 ราคา ตามขนาดไซซ์และคุณภาพของข้าวโพด คือ กิโลกรัมละ 5 บาท 7 บาท ประกันราคาสูงสุดอยู่ที่กิโลกรัมละ 9 บาท แต่ช่วงฤดูหนาวเดือนสิงหาคม กันยายน และตุลาคม ราคาที่สูงที่สุดจะอยู่ที่ กิโลกรัมละ 11 บาท เลยทีเดียว เพราะในช่วงฤดูหนาวผลผลิตที่ได้จะค่อนข้างช้าและยากกว่าฤดูอื่นๆ

ในการปลูกข้าวโพด 10 เดือน จะได้ข้าวโพดทั้งหมด 2 รุ่น (รวมการพักดินในแต่ละครั้งหลังการเก็บเกี่ยว เป็นเวลาทั้งหมด 2 เดือน)

หลังจากการเก็บเกี่ยวแล้ว ต้นข้าวโพดที่เหลืออยู่นั้นก็สามารถขายให้กับกลุ่มคนเลี้ยงสัตว์ ราคาจะตกอยู่ที่ไร่ละ 1,200 บาท

สมารถติดต่อ คุณอารี ศิลประดิษฐ์ (ภรรยาคุณวิสูตร ศิลประดิษฐ์) ได้โดยตรง โทร. 062-631-7219 บ้านเลขที่ 83 หมู่ที่ 9 ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

ในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2562 นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน จะจัดสัมมนาท่องเที่ยวเชิงเกษตร กำหนดการหนึ่งที่แวะกันคือไร่สุวรรณ หน่วยงานของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่วิจัยได้ข้าวโพดอินทรี 2 ทีมงานจะพาชมการแปรรูปน้ำนมข้าวโพด จากข้าวโพดอินทรี 2 รวมทั้งซื้อผลิตผลผลิตภัณฑ์กลับบ้าน

สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-580-0021 ต่อ 2335, 2339, 2342 และ 2343