บอกเล่าเทคนิคการดูแลสวนมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองกว่า 100 ไร่ ให้ได้คุณภาพ ระบบน้ำ-ปุ๋ย ต้องจัดการอย่างไร

ทางก้าวเดินบนถนนของชีวิตกับเวลาที่ผ่านมาบนโลกใบนี้ มีเส้นทางที่สามารถให้เราเลือกก้าวเดินได้หลากหลาย มีเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นบนเส้นทางระหว่างก้าวเดิน ล้วนคือบทเรียนของชีวิตทั้งสิ้นเช่นกัน จะสมหวังหรือผิดหวังไปบ้างในบางครั้งช่างปะไร เพราะชีวิตนี้ยังคงก้าวเดินต่อไป ไม่มีเส้นทางที่จะก้าวเดินไปได้อย่างราบรื่นสบายเท้าตลอดเวลาหรอกครับ คนที่สู้ชีวิตจะไม่มีคำว่าท้อแท้ หรือยอมแพ้อย่างเด็ดขาด บุคคลที่มีคุณสมบัติเช่นนี้สำหรับบนถนนเส้นทาง เดินห่าง…จากความจน ยินดีต้อนรับเสมอ ช้ากันอยู่ทำไม ก้าวกันมาได้เลยครับ เพียงแค่อย่าลืมพกความขยันและอดทนมาด้วยจะได้ช่วยให้สามารถก้าวเดินได้อย่างสบายเท้ามากยิ่งขึ้น

ก่อนอื่น เหมือนเช่นทุกครั้งเบื้องต้นนี้ขอได้รับความขอบพระคุณอย่างมากๆ จากนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านและผู้เขียน ผมเป็นปลื้มอย่างที่สุดของที่สุด ไม่ว่าจากการส่งเสียงไปหาไม่ขาดระยะ หรือจากเฟซบุ๊ก ที่ใช้ชื่อ นายสมยศ ศรีสุโร ทุกเรื่องยังคงเป็นเรื่องราวของ ชะอมไม้เค็ด 2009 ทั้งสิ้นชนิดไม่รู้เบื่อ และแฟนๆ จะเน้นอีกว่า ไปเขียนเรื่องอื่นไปบ้างแต่ห้ามลืมเรื่องราวที่เกี่ยวกับ ชะอมไม้เค็ด 2009 เด็ดขาด เพราะเป็นเรื่องที่รออ่านกันอยู่ ขอบคุณอีกครั้ง ติดตามกันต่อไปนะครับแฟนๆ

คุณนที เมฆรุ่งโรจน์

ปักษ์นี้ขอนำเสนอถึงเรื่องราวของสวนมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง หลังจากเมื่อปีที่ผ่านมาผมได้นำเสนอเรื่องนี้ ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากแฟนๆ ที่สนใจเยอะมาก ทั้งที่ต้องการผลผลิตและต้องการไปเยี่ยมหาที่สวน จากคำบอกเล่าของเจ้าของสวนคือ คุณนที เมฆรุ่งโรจน์ ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมการค้าไทยไหหลำ (THAI HAINANESS TRADE ASSOCIATION)

คุณนที ได้บอกกับผมไปว่า มีผู้สนใจติดต่อเข้ามาหาในหลากหลายความต้องการ ไม่ว่าเรื่องการขอเข้าไปเยี่ยมชมเพื่อศึกษาเรื่องราวรายละเอียดต่างๆ ภายในสวน หรือบางท่านต้องการผลผลิต เป็นต้น ให้ผมได้รับทราบ เมื่อเป็นเช่นนี้ผมจึงได้นัดหมายพร้อมกลับไปเยี่ยมหาอีกครั้ง เพื่อนำมาเสนอสำหรับแฟนๆ ที่กำลังสนใจเรื่องราวเช่นนี้ สำหรับเป็นการตัดสินใจในทุกรายละเอียดก่อนลงมือ

ก่อนอื่น ผมขอย้อนความหลังสักนิดก่อนนะครับสำหรับการต่อเนื่องกับแฟนๆ ทั้งที่เคยติดตามมาก่อน และแฟนๆ คนใหม่ที่สนใจ เรื่องราวมีเช่นนี้ครับ คุณนที มีเนื้อที่สวนทั้งสิ้น ประมาณ 100 ไร่ ตั้งอยู่เลขที่ 49 หมู่ที่ 7 บ้านโพธิ์ศรี ตำบลหนองกระทุ่ม อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี ได้แบ่งเนื้อที่ดังนี้คือ ใช้ที่ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองทั้งสิ้น ประมาณ 60 ไร่ เนื่องจากต้องการที่จะเน้นเรื่องการปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองเป็นพระเอก ดังนั้น จึงต้องนำมาคิดก่อนเป็นอันดับแรก

สวนแห่งนี้ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองโดยใช้ระยะห่างของต้น 3 เมตร และระยะห่างแต่ละแถว 5.70 เมตร ใช้จำนวนต้นมะม่วง แถวละ 50 ต้น แถวซ้ายมือมีจำนวน 70 แถว ขวามือจำนวน 40 แถว รวมทั้งสิ้น 110 แถว ต้นมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองที่นำปลูกลงไปจึงมีจำนวนทั้งสิ้น 5,500 ต้น

ทำไมจึงเลือกปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองจำนวนมากเช่นนี้ หลังจากที่ได้ศึกษาถึงมะม่วงสายพันธุ์นี้ คุณนทีพบว่า เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ พร้อมกับมีความต้องการในเบื้องต้นคือจะเน้นการส่งออกให้ได้มากที่สุด แม้ว่าจะเป็นการลงทุนจำนวนที่สูงไปบ้างก็ตาม อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญมากคือ ต้องการทำให้มีผลผลิตออกนอกฤดูกาลให้ได้มากที่สุดเช่นกัน

เมื่อเป็นเช่นนี้ทุกเรื่องราวของมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองที่นี่จึงได้ออกแบบสวนออกมาให้เป็นลักษณะต่อไปนี้คือ เน้นต้นที่มีพุ่มที่ไม่สูงมาก ใช้แรงงานคนยืนห่อลูกมะม่วงหรือเก็บผลผลิตได้สะดวก เมื่อถึงเวลาสามารถลงมือปฏิบัติงานโดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์มาปีนป่าย สำหรับประเด็นต่อมาเมื่อต้องการตัดแต่งกิ่งมะม่วงหลังจากเก็บผลผลิตเรียบร้อยแล้วก็จะสามารถทำงานได้ง่ายสะดวกรวดเร็วอีกด้วย

ที่สำคัญอีกประเด็นคือ ไม่จำเป็นต้องให้มีผลผลิตจำนวนมากในแต่ละต้น แต่ที่เน้นอย่างมากคือคุณภาพของผลผลิตต้องเยี่ยมสุดๆ เป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงหรือรสชาติ ต้องการผลผลิตที่ออกมานั้นส่วนใหญ่จะต้องให้มีน้ำหนัก 3 ผล ต่อ 1 กิโลกรัม หรือใกล้เคียงมากที่สุด เพราะนี่คือความต้องการของตลาดสำหรับนำมาบรรจุเพื่อการส่งออกโดยทั่วไป

ประเด็นสุดท้ายที่เน้นชนิดสุดยอดมากๆ แบบว่าเยี่ยมจริงๆ คือ แปลงที่ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองนี้ต้องดูสวยงาม เป็นแนวระดับทุกจำนวนต้นของระยะแถว สามารถมองดูแล้วเรียบร้อย สดสวย สะอาดตา และบริเวณสวนทั้งหมดต้องสะอาด น่าสัมผัสอีกด้วยเมื่อมีผู้มาเยี่ยมหา มองแล้วไม่เบื่อตาจริงๆ ครับแฟนๆ

สำหรับเนื้อที่ที่เหลืออยู่อีกประมาณ 40 ไร่ แบ่งออกเป็นที่พักอาศัย ที่พักคนงาน ที่เก็บของใช้ต่างๆ และใช้ปลูกมะนาวในถังซีเมนต์ด้านหน้าสวน ประมาณ 3 ไร่ สำหรับที่เหลือใช้ปลูกมะม่วงอีกหลายสายพันธุ์ เช่น มะม่วงมันเดือนเก้า จำนวน 50 ต้น มะม่วงงามเมืองย่า มะม่วงโชควิเชียร และมะม่วงสายพันธุ์ปลาตะเพียน อย่างละประมาณ 10 ต้น และอีกประมาณ 10 ไร่ ได้ลงมือปลูกมะม่วงโชคอนันต์และมหาชนกไว้อีกเต็มพื้นที่ เนื่องจากมะม่วงสายพันธุ์ที่มีอยู่นี้จะมีแม่ค้าเข้ามารับซื้อถึงสวนเมื่อถึงฤดู มีจำนวนแค่ไหนไม่ปฏิเสธทั้งสิ้น ขอเพียงบอกไปเท่านั้นจะเข้าไปหาทันที

สำหรับเรื่องราวของสวนนี้ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก หากท่านใดที่ต้องการเรื่องราวรายละเอียดต่างๆ ของการปลูกมะม่วงและเรื่องราวของระบบน้ำที่นำมาใช้ เนื่องจากภายในสวนนี้จะสะอาด ร่มรื่น น่าสัมผัสมาก ทั้งที่ใช้แรงงานที่อยู่ประจำแค่ 2 คน เท่านั้น จะมีการจ้างแรงงานท้องถิ่นเป็นรายวันเพิ่มขึ้นบ้างหากต้องการงานเร่งด่วน เช่น การกำจัดวัชพืช การเก็บเกี่ยวผลผลิตหรือการตัดแต่งกิ่ง เป็นต้น

สำหรับในส่วนของการให้น้ำนั้น ภายในสวนทั้งหมดจะวางระบบน้ำแบบให้เครื่องกรองน้ำก่อนแล้วจึงจะปล่อยไปให้ต้นมะม่วงด้วยระบบน้ำหยด หรือการให้ปุ๋ย สวนนี้จะเน้นปุ๋ยขี้หมูไปตามสายน้ำหยดเช่นกันตลอดทั้งสวน และจะมีการจัดวางระบบมินิสปริงเกลอร์หลังจากที่ต้นมะม่วงมีระยะเวลาตั้งแต่ปีที่ 2 เป็นต้นไป ที่เริ่มเจริญเติบโตและต้องการน้ำเพิ่มมากขึ้น นับว่าเป็นสวนมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองที่ครบเครื่องทุกเรื่องราวจริงๆ ครับ

จากประสบการณ์ที่ผ่านมากว่า 6 ปี ที่คุณนทีได้ลองผิดลองถูก หรือบางครั้งที่เกิดจากสภาวะของภูมิอากาศที่ทำให้เกิดความเสียหายชนิดที่แบบว่าไม่คาดคิด ทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นผ่านมานั้นจึงเป็นประสบการณ์ที่ได้ศึกษามาแล้วทั้งสิ้น คุณนทีบอกกับผมอย่างมั่นใจว่า ปีนี้จะพลาดไม่ได้อีกแล้วครับ จึงได้มีการวางแผนสำหรับปีนี้ว่า ผลผลิตสำหรับมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองนั้นจะให้มีผลผลิตออกนอกฤดูมาอย่างต่อเนื่องได้อย่างแน่นอน

ขั้นตอนที่ได้ลงมือปฏิบัติคือการวางแผนให้มีผลผลิตออกมาครั้งละประมาณ 1,000 ต้น จาก 5,000 กว่าต้นที่มีอยู่ โดยแบ่งออกเป็นรุ่น รุ่นละ 1,000 ต้น โดยให้ได้ผลผลิตออกมาห่างกันในระยะเวลาประมาณ ครั้งละ 2 สัปดาห์ แบบว่าจะไม่ให้ขาดช่วง ให้ได้จำนวนทั้งสิ้น 5 รุ่น ก่อนที่จะถึงเดือนเมษายนที่เป็นฤดูปกติสำหรับที่มะม่วงสายพันธุ์นี้จะออกมาจนล้นในตลาด ดังนั้น มะม่วงรุ่นแรกของสวนนี้ได้วางแผนที่จะเริ่มออกตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป

ผมนั้นยังจำประโยคหนึ่งสำหรับคุณนทีที่ได้เคยพูดกับผมไว้เมื่อพบกันครั้งแรกว่า จะไม่กลัวกับทุกๆ ปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมแก้ไข ปรับปรุง ทั้งสิ้น ขอแค่เพียงให้ผลผลิตที่ได้ออกมานั้นต้องมีคุณภาพที่ดีเยี่ยมเป็นอันดับแรกเสียก่อน แบบว่าเมื่อทุกคนได้เห็นและสัมผัสแล้วต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าดีเยี่ยมทุกอย่างพร้อมเป็นที่ยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นสีของผิวและรูปทรงของมะม่วง ตลอดไปจนถึงรสชาติเมื่อได้สัมผัสลิ้น หากได้ผลเช่นนี้ ปัญหาต่างๆ คงไม่น่าจะมีให้ปวดหัวหรือจะมีบ้างก็คงน้อยมาก

หลังจากที่ผมได้นำมาเสนอในคอลัมน์นี้ ปรากฏว่าได้มีแฟนๆ สนใจติดต่อไปเยี่ยมหาหลายรายเพื่อมาศึกษาระบบต่างๆ ภายในสวน ที่สุดยอดกว่านั้นเมื่อประมาณต้นเดือนตุลาคมของปีที่ผ่านมา ได้มีองค์กรภาครัฐจากรัฐเปอร์ลิส (PERLIS STATE ECONOMIC DEVELOPMENT CORPERATION) ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐด้านเกษตรและกลุ่มนักธุรกิจจากประเทศมาเลเซีย ได้มาเยี่ยมชม ทุกท่านที่มาล้วนประทับใจกับทุกเรื่องราวที่ได้พบเห็นทั้งสิ้น

และในครั้งนี้เช่นกันที่คุณนทีได้บอกกับผมเป็นประโยคสุดท้ายก่อนจากกันว่า ปีต่อไปผมจะพยายามทำให้สวนมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองนี้เป็นแบบสวนอินทรีย์ทั้งหมด ระยะนี้เริ่มลงมือบ้างแล้วในเรื่องของปุ๋ยชีวภาพ คิดว่าปีหน้าหากผมมาเยี่ยมหาจะพบว่าทุกอย่างเรียบร้อย จะสามารถเรียกว่าสวนมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองแบบอินทรีย์เต็มรูปแบบแน่นอนครับ และเมื่อถึงเวลานั้นผมจะแวะไปเยี่ยมหาอีกสักครั้งครับท่าน

แฟนๆ ครับ สวนนี้จึงถือได้ว่าเป็นสวนที่มีเนื้อที่ใช้ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองเป็นจำนวนมากอีกสวนหนึ่งที่มีรายละเอียดต่างๆ ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง หากท่านใดมีความสนใจจะไปเยี่ยมหาก่อนตัดสินใจลงมือกับเรื่องราวเช่นนี้ หรือติดต่อเรื่องของผลผลิต กรุณาติดต่อ คุณนที โทร. (094) 328-7945 ทุกรายละเอียด เรียนเชิญนะครับ ยินดีต้อนรับ กรุณาสอบถามเส้นทางก่อนไปเยี่ยมหาเพื่อการนัดหมายนะครับ

สุดท้าย หากเราจะลองย้อนกลับมามองรอยเท้าตามเส้นทางที่ได้เคยเดินมาก่อน บางครั้งบนรอยเท้าที่เราเดินนั้นเชื่อไหมว่าจะมีเรื่องราวที่น่าสนใจอย่างมากสำหรับเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่เดินสะดุดหรือไม่ราบรื่นนัก เราพร้อมที่จะปรับแต่งเพื่อนำไปประยุกต์กับการก้าวเดินในก้าวปัจจุบันให้ได้ชนิดสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น แม้ว่าเราจะคงอยู่กับสิ่งเดิมๆ ที่เกิดขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นกลางวัน กลางคืน หรือดวงตะวันดวงเดิมก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนกันคือระยะการก้าวเดินกับระยะเวลาที่เราได้สัมผัสระหว่างการเดินในเวลาที่เหลืออยู่ของชีวิต

แฟนๆ ครับ เห็นแสงของคืนวันเพ็ญในยามค่ำคืนไหม พระจันทร์เต็มดวงสีนวลสดสวยเต็มท้องฟ้า ถึงแม้บางครั้งจะมีก้อนเมฆทะมึนมาบดบังแสงจันทร์บ้างก็ตาม แต่ก็เป็นแค่ช่วงหนึ่งของเวลาเท่านั้น ในที่สุดแสงจันทร์ก็จะกลับมาส่องแสงสีนวลเต็มท้องฟ้าใหม่เช่นเดิม เช่นกัน คนที่ไม่ยอมแพ้ พร้อมสู้และสู้ จะสามารถพยุงตัวเองให้ยืนพร้อมก้าวออกเดินไปบนเส้นทางชีวิตกับเวลาที่เหลืออยู่ได้อย่างเต็มแน่นทั้งสองเท้าของตัวเองอย่างมั่นคงและมั่นใจอย่างแน่นอน พร้อมกันหรือยังครับ? ขอบคุณ สวัสดี