ที่มา | เทคโนโลยีเกษตร |
---|---|
ผู้เขียน | สาวบางแค22 |
เผยแพร่ |
อาชีพเกษตรกรรม นับเป็นรายได้หลักของคนไทยจำนวนมาก แต่ในวันนี้ เมืองไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยแล้ว ดังนั้น ปัญหาการขาดแคลนแรงงานคนในภาคเกษตร จึงเป็นอุปสรรคสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ไปสู่ THAILAND 4.0 ของรัฐบาล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยดำเนินนโยบายเกษตรอัจฉริยะ ส่งเสริมการใช้นวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรเข้ามาทดแทนแรงงานคน และส่งเสริมการทำเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อขับเคลื่อนภาคเกษตรไทยให้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนในอนาคต
กลุ่มผลิตข้าวพันธุ์ดีครบวงจร ตำบลห้วยเตย
ต้นแบบนาแปลงใหญ่ของจังหวัดมหาสารคาม
วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตข้าวพันธุ์ดีครบวงจร ตำบลห้วยเตย อำเภอกุดรัง จังหวัดมหาสารคาม เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มชาวนา ภายใต้การนำของ นายบุญมา พลภักดี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 ตำบลห้วยเตย เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีในท้องถิ่น พวกเขารวมกลุ่มกันเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวพันธุ์ดีและกระจายเมล็ดพันธุ์ดีให้เพียงพอต่อความต้องการของชุมชน รวมทั้งลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิตข้าวให้สูงขึ้น

ในปี 2559 พวกเขาเริ่มจัดตั้งศูนย์ข้าวชุมชน ก่อนจะพัฒนาเป็นวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตข้าวพันธุ์ดีครบวงจร ตำบลห้วยเตย ในเวลาต่อมาทางกลุ่มฯ เข้าร่วมโครงการส่งเสริมระบบการเกษตรแบบแปลงใหญ่ (นาแปลงใหญ่) มีพื้นที่เพาะปลูกรวม 3,000 ไร่ กรมการข้าว ได้เข้ามาสนับสนุนองค์ความรู้เรื่องการบริหารจัดการแปลงผลิตเมล็ดพันธุ์ แนะนำขั้นตอนการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว ได้แก่ การวางแผนการผลิตการจัดหาปัจจัยการผลิต การปลูกข้าวที่ถูกวิธี การตรวจแปลง การตัดข้าวพันธุ์ปนในระยะต่างๆ การดูแลแปลงนา การเก็บเกี่ยว การนวดข้าว การทำความสะอาดเมล็ด การตากลดความชื้น การปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ การบรรจุและการเก็บรักษา การกระจายพันธุ์และการจำหน่ายผลผลิต
ทางกลุ่มฯ ได้รับเมล็ดข้าวพันธุ์ดีจากกรมการข้าว ประมาณ 5 ตัน ส่งมอบให้สมาชิกนำไปปลูกขยายเมล็ดพันธุ์ และรวบรวมเมล็ดพันธุ์ที่ได้นำไปปลูกขยายให้กับสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการเกษตรแปลงใหญ่ ช่วงฤดูการทำนาและการเก็บเกี่ยว กลุ่มฯ ให้บริการเครื่องจักรกลที่สมาชิกได้ลงหุ้นซื้อ และได้รับการสนับสนุนจากส่วนราชการ รวมไปถึงการรวบรวมผลผลิตไปจำหน่าย

กลุ่มวิสาหกิจฯ แห่งนี้ นับเป็นต้นแบบที่เข้มแข็งในระบบนาแปลงใหญ่อย่างครบวงจร เชื่อมโยงกิจกรรมการรวบรวม การแปรรูป การตลาด ตลอดจนใช้อุปกรณ์เครื่องจักรกลการเกษตรร่วมกับกลุ่มที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน รวมทั้งเครือข่ายศูนย์ข้าวชุมชนและกลุ่มนาแปลงใหญ่ของจังหวัดมหาสารคามสามารถลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ทางกลุ่มฯ ได้สร้างเครือข่ายในการจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีในชุมชนและพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งทำข้อตกลงการรับซื้อข้าว (MOU) กับโรงสีข้าวตามที่หน่วยงานภาครัฐจัดหาให้ ขณะเดียวกัน ทางกลุ่มฯ รณรงค์ลดการเผาฟางและตอซัง ส่งเสริมการใช้ประโยชน์และสร้างมูลค่าเพิ่มจากฟางข้าว ทางกลุ่มฯ มีเครื่องอัดฟางเป็นของตนเอง จึงรับจ้างอัดฟางก้อนสำหรับใช้เลี้ยงสัตว์และจำหน่ายเป็นการสร้างรายได้ให้กับสมาชิกและกลุ่มได้อีกทางหนึ่ง

ที่ผ่านมา ทางกลุ่มฯ ได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุน ความรู้ จากหน่วยงานต่างๆ เช่น ธ.ก.ส. สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด สำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ สำนักงานพาณิชย์จังหวัด สหกรณ์การเกษตร โรงสีข้าว และบริษัท สยามคูโบต้า จำกัด ส่งผลให้กลุ่มฯ แห่งนี้สามารถเพิ่มขีดความสามารถด้านการผลิต การแปรรูป และมีการบริหารจัดการเครื่องจักรร่วมกัน ซึ่งเป็นการเชื่อมโยงและต่อยอดโครงการเกษตรแปลงใหญ่ สามารถลดต้นทุนการผลิต เพิ่มมูลค่าของสินค้าเกษตร เกิดความยั่งยืนของชุมชน ตามแผนพัฒนาจังหวัดมหาสารคาม

นวัตกรรมอัจฉริยะคูโบต้า
ช่วยลดต้นทุน-เพิ่มผลกำไร
ที่ผ่านมา ทางกลุ่มฯ มีทรัพย์สินที่ได้มาจากงบพัฒนาจังหวัด การสนับสนุนจากหน่วยงานราชการ ภายใต้โครงการบริหารจัดการเครื่องจักรกลเกษตรเพื่อทดแทนแรงงานที่มีประสิทธิภาพ (Motor Pool) ตามนโยบายรัฐบาลประกอบด้วย โรงสีข้าว ลานตาก รถเกี่ยวนวดข้าวขนาดใหญ่ รถไถ ฉางข้าว เครื่องอัดฟาง และเครื่องหยอดข้าว 8 แถว ของคูโบต้า ฯลฯ ทำให้ทางกลุ่มฯ มีรายได้หมุนเวียนจากการให้บริการรถเกี่ยวนวดข้าว รถอัดฟางข้าว รถไถนา แก่สมาชิกอย่างต่อเนื่อง

ผู้ใหญ่บุญมา พลภักดี ในฐานะประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตข้าวพันธุ์ดีครบวงจร ตำบลห้วยเตย กล่าวว่า ทางกลุ่มฯ มีรถแทรกเตอร์คูโบต้าที่ติดตั้งอุปกรณ์พ่วง ประกอบด้วยชุดผาลไถ ชุดเตรียมดิน ชุดเครื่องหยอดข้าว รถเกี่ยวนวดข้าว เครื่องอัดฟาง ซึ่งเครื่องจักรกลเหล่านี้ ช่วยแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานทำนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยทางกลุ่มฯ คิดค่าบริการจากสมาชิกตั้งแต่เริ่มเตรียมแปลงปลูก-เก็บเกี่ยว ในอัตราต่ำกว่าท้องตลาดทั่วไป เช่น เอกชนรับจ้างไถเตรียมดิน ในอัตรา ไร่ละ 200 บาท แต่กลุ่มฯ คิดค่าบริการแค่ 180 บาท/ไร่ ส่วนการปั่นดิน ปกติทั่วไปคิดค่าบริการ ไร่ละ 300 บาท ทางกลุ่มฯ คิดแค่ 200 บาท/ไร่ ส่วนรถหยอดข้าว 8 แถว ทั่วไปคิดค่าบริการ ไร่ละ 200 บาท ทางกลุ่มฯ คิดแค่ 150 บาท เท่านั้น ทางกลุ่มฯ ให้บริการสมาชิกอย่างทั่วถึง ช่วยให้สมาชิกประหยัดต้นทุนการทำนาและมีผลกำไรเพิ่มขึ้นกว่าเดิม

ผู้ใหญ่บุญมา บอกว่า ทุกวันนี้ ทางกลุ่มฯ บริหารจัดการนาแปลงใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะเครื่องจักรกลคูโบต้ามาพร้อมกับนวัตกรรมอัจฉริยะ Kubota Intelligent Solutions หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “KIS” ซึ่งเป็นระบบติดตามการทำงานของเครื่องจักร สามารถติดตามการทำงานตลอดเวลาแบบ realtime มีการรายงานผลการทำงานของอุปกรณ์เครื่องจักรกลทุกๆ 2 นาที นั่งอยู่บ้าน ก็สามารถติดตามตรวจสอบการทำงานของเครื่องจักรกลที่อยู่ในแปลงไร่นาได้

แถมมีระบบ GPS ติดตามรถ ช่วยป้องกันการโจรกรรมและแจ้งเตือนระยะเวลาการบำรุงรักษาของตัวเครื่องจักรกล สะดวกต่อการบำรุงรักษา รวมทั้งวางแผนการใช้งานเครื่องจักรใช้งานได้อย่างคุ้มค่ามากขึ้น
นอกจากนี้ ระบบKIS ตอบโจทย์เรื่องการจัดการเอกสารข้อมูลได้ดี เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการเครื่องจักรกลคูโบต้าได้ทุกรุ่น ช่วยให้กลุ่มเกษตรกรฯ สามารถตรวจสอบการทำงานย้อนหลัง เพื่อรายงานผลแก่หน่วยงานภาครัฐ หรือนำข้อมูลการใช้งานมาวิเคราะห์ปรับปรุงการทำงานต่างๆ ในอนาคตได้อีก เรียกว่า นวัตกรรมอัจฉริยะของคูโบต้าช่วยเกษตรกรลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างคุ้มค่าเงิน ลดต้นทุน ประหยัดเงินและเวลาการทำงาน ช่วยให้ชาวนามีผลกำไรเพิ่มมากขึ้นกว่าในอดีต
สำหรับผู้อ่านที่สนใจแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องการทำนาแปลงใหญ่ ของวิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตข้าวพันธุ์ดีครบวงจร ตำบลห้วยเตย สามารถเยี่ยมชมกิจการหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับ ผู้ใหญ่บุญมา พลภักดี ได้ที่ บ้านเลขที่ 59 หมู่ที่ 7 ตำบลห้วยเตย อำเภอกุดรัง จังหวัดมหาสารคาม โทรศัพท์ 098-752-4365 ได้ทุกวัน
