เผยแพร่ |
---|
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีพื้นที่ปลูกสับปะรดมากที่สุดในประเทศ มีพื้นที่รวมกว่า 402,905 ไร่ และยังเป็นแหล่งแปรรูปสับปะรดเพื่อการบริโภคและส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของโลก สร้างมูลค่าไม่ต่ำกว่าปีละ 20,000 ล้านบาท จนถูกเรียกว่าเป็นเมืองหลวงสับปะรด พันธุ์ที่นิยมปลูกกันมากที่สุดคือ สับปะรดพันธุ์ปัตตาเวีย หรือที่เรียกกันว่า พันธุ์โรงงาน ซึ่งเป็นสับปะรดพันธุ์เศรษฐกิจมีปลูกกันมาอย่างยาวนาน

ในปี พ.ศ. 2559 นี้ นับว่าเป็นปีทองของเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด เนื่องจากสับปะรดมีราคาสูงมากที่สุดในรอบหลายสิบปี ราคาเฉลี่ยในปัจจุบันอยู่ที่ กิโลกรัมละ 10 บาท ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น เศรษฐกิจของจังหวัดก็ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังเป็นปีที่ครบรอบ 105 ปี ของประวัติศาสตร์การปลูกสับปะรดในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ตามข้อมูลได้บันทึกไว้ว่า
ในปี พ.ศ. 2454 มีพ่อค้าชาวปากีสถาน เดินทางมาค้าขายยังประเทศไทย โดยมาขึ้นฝั่งที่บ้านท่าข้าม
ปัจจุบันคือ บ้านฝั่งท่า หมู่ที่ 5 ตำบลวังก์พง อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และมาพักค้างคืนที่บ้านของ ผู้ใหญ่ทอง อิ่มทั่ว ซึ่งทางผู้ใหญ่ทองก็ได้จัดอาหารและผลไม้เลี้ยงให้กับพ่อค้าชาวปากีสถานคนนั้น ในสำรับอาหารก็มีสับปะรดพันธุ์อินทรชิต ซึ่งเป็นพันธุ์พื้นเมืองมาให้รับประทาน เมื่อพ่อค้าชาวปากีสถานได้รับประทาน สับปะรดไปแล้วก็บอกว่า ที่เมืองของเขามีสับปะรดที่อร่อยมากกว่าที่นี่ ในระหว่างพักค้างนั้นพ่อค้าได้มีอาการป่วย ผู้ใหญ่ทองก็ได้พาไปให้พระรักษาจนหายป่วย ทำให้พ่อค้าซาบซึ้งในน้ำใจ จนต่อมาเมื่อเดินทางกลับมาค้าขายอีกครั้งจึงได้นำหน่อสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียมาให้กับผู้ใหญ่ทอง จำนวน 5 หน่อ ผู้ใหญ่ทองจึงได้นำมาปลูกไว้บริเวณบ้าน เมื่อผลผลิตออกนำมารับประทานจึงรู้ว่ามีรสชาติดี จึงขยายหน่อให้กับลูกหลานไปปลูกไว้รับประทาน และต่อมาก็ได้ขยายหน่อไปสู่เกษตรกรรายอื่นๆ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2510 ได้มีโรงงานแปรรูปสับปะรดแห่งแรกมาตั้งที่อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงทำให้เกษตรกรขยายพื้นที่การปลูกสับปะรดเพื่อส่งเข้าโรงงานเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

คุณทวี นริสศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ในปี 2559 นี้ เป็นปีที่ครบ 105 ปี สับปะรดประจวบคีรีขันธ์ จึงได้ร่วมกับหน่วยงานราชการ จัดงาน “105 ปี สับปะรดประจวบคีรีขันธ์ เป็นหนึ่งใน AEC” ขึ้น และเพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้ วัฒนธรรม ตลอดจนเทคโนโลยีการผลิตสับปะรดให้กับเกษตรกร ประชาชนทั่วไปที่สนใจได้รับชม นอกจากนี้ ยังให้การสนับสนุนงบพัฒนาจังหวัดในการพัฒนาการผลิตสับปะรดของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ให้ผลผลิตมีคุณภาพ มีความเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด

คุณมงคล จอมพันธ์ เกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานเกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ทำการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกสับปะรดผลสดเพื่อการบริโภค ได้จัดทำโครงการส่งเสริมการปลูกสับปะรดผลสดเพื่อการบริโภคและส่งออก (งบพัฒนาจังหวัด ปี 2559) จัดทำแปลงสาธิตการปลูกพันธุ์สับปะรด MD2 (เอ็มดีทู) ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไว้จำนวน 25 ไร่ ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ให้เกษตรกรเข้ามาศึกษา และจะขยายหน่อพันธุ์ไปยังเกษตรกรได้ปลูกในปีต่อๆ ไป
นอกจากนี้ เกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า อยากเชิญชวนให้ประชาชนทุกท่านหันมาบริโภคสับปะรด เพราะว่าจากผลการศึกษาวิจัยทางโภชนาการ สับปะรดมีประโยชน์ต่อร่างการเราในหลายๆ ด้าน เช่น ช่วยในการย่อยอาหาร สับปะรดมีกากใยอาหารมากซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการช่วยย่อยอาหาร ลดคอเลสเตอรอล ควบคุมน้ำตาลในเส้นเลือด ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายแข็งแรง เนื่องจากสับปะรดมีวิตามินซีสูง กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยให้สุขภาพเหงือกและฟันแข็งแรงอีกด้วย คุณมงคล กล่าวทิ้งท้าย
ผู้ที่สนใจอาชีพการปลูกสับปะรดก็สามารถเข้าเรียนรู้ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ที่ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสับปะรดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีด้วยกัน 2 ศูนย์ ตั้งอยู่ที่อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ และอำเภอหัวหิน มีรายละเอียดดังนี้

ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรสับปะรด อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์
ตั้งอยู่ที่ บ้านวังมะเดื่อ หมู่ที่ 10 บ้านวังมะเดื่อ ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยมี คุณวิสูตร วิทยานันท์ เป็นเกษตรกรเจ้าของศูนย์ เบอร์โทร. ติดต่อ (081) 736-8630
จุดเด่นของศูนย์เรียนรู้ : มีเทคโนโลยีเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนการผลิตสับปะรด
หลักสูตรการเรียนรู้ : การผสมปุ๋ยใช้เองในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสับปะรดและการลดต้นทุนการผลิต
มีฐานการเรียนรู้ : ฐานการเรียนรู้การผสมปุ๋ยใช้เอง ในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสับปะรดและการลดต้นทุนการผลิต คือการใช้ปุ๋ยเคมี ภายในฐานจะมีการผสมปุ๋ยใช้เองที่เหมาะสมกับสับปะรด โดยจะมีการผลิตปุ๋ยเคมีสูตร 15-5-20 จำหน่ายให้กับเกษตรกร โดยมีส่วนผสมของแม่ปุ๋ย แสดงให้เกษตรกรได้เรียนรู้
การจัดการแปลงผลิตสับปะรด ได้แก่ เทคนิคการเตรียมดิน วิธีการคัดหน่อก่อนปลูก วิธีการปลูกระบบ 4 แถวคู่ เพิ่มจำนวนหน่อเป็น 8,000-10,000 หน่อ ต่อไร่ ซึ่งจะเพิ่มผลผลิตได้ถึงไร่ละ 12 ตัน และการใส่ปุ๋ยสูตร 15-5-20 เพื่อควบคุมคุณภาพก่อนการเก็บเกี่ยว และการเก็บเกี่ยวและการบรรจุหีบห่อ
ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตรสับปะรด อำเภอหัวหิน
ตั้งอยู่ที่ สวนเพชรรุ่งเรือง เลขที่ 136 หมู่ที่ 11 ตำบลหินเหล็กไฟ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
โดยมี คุณรุ่งเรือง ไล้รักษา เป็นเกษตรกรเจ้าของศูนย์ เบอร์โทร. ติดต่อ (085) 299-6701
จุดเด่นของศูนย์เรียนรู้ : การเพิ่มมูลค่าผลผลิตสับปะรดโดยการผลิตสับปะรดผลสด
หลักสูตรการเรียนรู้ :
- การผลิตสับปะรดผลสด สายพันธุ์ต่างๆ เช่น พันธุ์เพชรบุรี 1 พันธุ์ตราดสีทอง พันธุ์ภูเก็ต เป็นต้น
2. การตลาดสับปะรดผลสด และการกระจายผลผลิต
มีฐานการเรียนรู้ :
- การผลิตสับปะรดผลสด เน้นเทคนิคการผลิตสับปะรดผลสดตั้งแต่การเลือกพันธุ์ การปลูก การให้น้ำ การบังคับผล การบริหารจัดการ และการดูแลรักษา เช่น การเลือกใช้หน่อสับปะรดที่มีขนาดใกล้เคียงกันในการปลูก ระยะการปลูก การใส่ปุ๋ย
- การตลาดสับปะรด ใช้วิธีการวางแผนการผลิตสับปะรดให้กระจายผลผลิตออกสู่ตลาดตลอดทั้งปี เพื่อรองรับความต้องการของตลาดสับปะรดผลสดที่มีทั้งปี หลีกเลี่ยงการกระจุกตัวของผลผลิตในบางช่วงของปี เป็นการลดความเสี่ยงเรื่องราคาตกต่ำด้วย
สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานเกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เบอร์โทร. ติดต่อ (032) 550-892, (032) 550-893 หรือ E-mail :[email protected] และFacebook : www.facebook.com/kasetprachuap