หนุ่มพะเยา ปลูกผัก ขึ้นฉ่ายไฮโดรฯ ขาย สร้างรายได้วันละกว่าพันบาท

หนุ่มวัย 34 ปี ในพื้นที่ หมู่ที่ 17 ตำบลแม่นาเรือ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา หันหลังให้กับการทำงานประจำ ปลูกขึ้นฉ่ายไฮโดรโปนิก ซึ่งเป็นผักที่ค่อนข้างหายากในพื้นที่พะเยา ขายสร้างรายได้ วันละกว่า 1,000 บาท โดยผักที่ปลูกนั้นจากนี้จะทดลองใช้สารชีวภาพ ขณะเป็นที่ต้องการของตลาด สามารถส่งจำหน่ายได้ทุกวัน

คุณเจตน์กมล นาวา กับแปลงปลูกขึ้นฉ่ายไฮโดรโปนิก

ลองไปดูข้อมูลทางวิชาการกันก่อน ขึ้นฉ่าย เป็นพืชที่เดิมทีพบอยู่ที่ตามริมน้ำในประเทศสวีเดน แอลจีเรีย และอียิปต์ และพบบ้างในบางพื้นที่แถบเอเชีย ซึ่งได้มีการนำผักชนิดนี้มาปลูกเมื่อประมาณ ค.ศ. 1542 ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อใช้ในการทำยาฟอกโลหิตของชาวจีน และเริ่มนำมาใช้เป็นอาหารเมื่อราวปลายศตวรรษที่ 16 โดยใช้พันธุ์ hellow leaf stock ต่อมามีพันธุ์อื่นๆ มาแทน จึงเลิกนิยมไป ในสมัยที่ใช้รับประทานกันแรกๆ นิยมส่วนที่มีสีเขียว ต่อมากลับนิยมส่วนที่เป็นสีขาว พันธุ์ที่ดีจะมีการแตกแขนงมาก ขึ้นฉ่ายเป็นผักที่มีวิตามิน เอ สูง ก้านใบของต้นจะอวบน้ำ มีรากตื้น ระบบรากเป็นฝอย รากฝอยนี้มีความยาวไม่เกิน 2 นิ้ว ลำต้นโตเต็มที่สูงสุดถึง 2 ฟุต แต่โดยเฉลี่ยจะสูงประมาณ 15 นิ้ว มักนิยมปลูกให้ชิดๆ กัน เพื่อให้ลำต้นสูง และเพื่อเป็นการบังแสงให้กับลำต้นที่มีสีขาว

การเตรียมปลูก และการปลูกขึ้นฉ่าย

ผลผลิตที่ได้

วิธีการปลูกขึ้นฉ่ายนั้น สามารถกระทำได้ 2 วิธี ด้วยกัน คือ

  1.  เพาะให้เมล็ดงอกก่อน เมื่อกล้าสูงประมาณ 2-3 นิ้ว จึงย้ายปลูกได้ และ
  2. หว่านเมล็ดในแปลงปลูกเลย หากปลูกแบบวิธีแรก ต้องเตรียมดินแปลงเพาะให้ละเอียดที่สุด เนื่องจากเมล็ดพันธุ์มีขนาดเล็กมาก โดยเฉลี่ยน้ำหนักเมล็ดพันธุ์ 1 กรัม จะมีจำนวนเมล็ดประมาณ 2,000-2,200 เมล็ด เลยทีเดียว หลังจากเตรียมดินแปลงเพาะให้ละเอียดดีแล้ว ให้ใช้เมล็ดพันธุ์ 1 ช้อนชา ผสมกับทราย 1 ถัง แล้วคลุกให้เข้ากัน หว่านลงในแปลงเพาะ ขนาดเนื้อที่ 1 ตารางเมตร หลังจากหว่านแล้วให้ใช้ฟางแห้งคลุมบางๆ แล้วรดน้ำด้วยฝักบัวฝอย วันละ 3 ครั้ง เช้า กลางวัน และเย็น เพื่อให้ดินชุ่มชื้น แต่อย่าให้น้ำขัง เมื่อผ่านไปประมาณ 7-10 วัน เมล็ดขึ้นฉ่ายจะงอกเป็นฝอยๆ ในตอนนี้ควรใส่ปุ๋ยสตาร์ทเตอร์รด เพื่อเร่งให้กล้าแข็งแรง เมื่อกล้ามีอายุได้ 6-7 สัปดาห์ จะมีลำต้นสูง 3-4 นิ้ว ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสมกับการทำการย้ายกล้าเพื่อลงแปลงปลูก

สำหรับการปลูกแบบที่สอง ให้เตรียมแปลงปลูกเช่นเดียวกับแปลงเพาะ แต่ในการหว่านเมล็ดพันธุ์ให้ลดจำนวนให้น้อยลงกว่าการปลูกแบบเพาะกล้า เพื่อให้ง่ายต่อการถอนแยก ซึ่งในการปลูกแบบนี้จะต้องถอนแยก ซึ่งให้ถอนแยกโดยเว้นระยะห่างระหว่างต้น อยู่ที่ 2-3 นิ้ว

แปลงผักขึ้นฉ่ายที่ปลูก

ในการปลูกขึ้นฉ่ายนั้น หากอยากให้ลำต้นมีสีขาว ก็ควรหุ้มด้วยฟางหรือดิน หรือตีไม้เป็นกรอบรอบๆ ต้น ให้แต่ละส่วนของใบโผล่ขึ้นมา 1 ส่วน 4 ของความสูงของลำต้น ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ส่วนล่างโดนแสง การบังแสงนี้จะทำประมาณ 3 สัปดาห์ จึงเอาออก ก็จะทำให้ได้ก้านใบขาว กรอบ หากไม่บังแสง ก้านใบจะมีสีเขียวจัด 

การดูแลรักษาขึ้นฉ่าย

ลักษณะของรากที่ไม่ยาวเหมือนพืชอื่น

หลังจากการย้ายกล้าลงแปลงใหม่ๆ ควรทำร่มเงาบังแสงแดดอยู่ประมาณ 3-4 วัน โดยค่อยๆ เปิดให้โดนแสงมากขึ้นทีละน้อยๆ จนกระทั่งต่อมาเปิดให้โดนแสงได้ตลอดวัน ในช่วงกลางคืนจะได้รับความชื้นจากบรรยากาศเต็มที่ ขึ้นฉ่ายไม่ชอบอากาศร้อนจัด ดังนั้น หากปลูกในฤดูร้อน ควรบังแสงแดดไว้ตลอดวัน จะทำให้ผักงามมาก

การให้น้ำ ควรรดน้ำทั้งตอนเช้าและตอนเย็น แต่ในการรดน้ำตอนเย็นต้องระวังอย่าให้น้ำขังแฉะ เพราะจะทำให้ขึ้นฉ่ายมีเชื้อราเข้าทำลายได้ น้ำที่ใช้รดควรเย็น เพราะผักนี้ชอบความเย็น ส่วนการให้ปุ๋ยนั้น มักใช้สูตร 15-15-15 หรือ 13-13-21 โดยใช้ในอัตรา 30-50 กิโลกรัม/ไร่ และควรใส่ปุ๋ยไนโตรเจนเสริม ในอัตรา 10-20 กิโลกรัม/ไร่ โดยเริ่มใส่เมื่อกล้ามีอายุได้ 10-15 วัน และปุ๋ยไนโตรเจนนั้นควรแบ่งใส่ 2 ครั้ง โดยใส่แบบหว่าน 

การเก็บเกี่ยวขึ้นฉ่าย

หากปลูกโดยการย้ายกล้า ให้เริ่มนับวันหลังจากการย้ายกล้าไป ประมาณ 50 วัน ถึงจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้ โดยในการเก็บนั้นให้เก็บแบบวันเว้นวัน ด้วยการถอนเก็บทั้งต้น ลักษณะของต้นในระยะเก็บเกี่ยวควรอวบอ้วน สีเขียวอ่อนใส กรอบ ใช้เวลาการเก็บเกี่ยวทั้งหมด 30-45 ครั้ง หรือต้องเก็บให้หมดภายในระยะเวลาประมาณ 90 วัน เพราะถ้าหากทิ้งไว้นานกว่านี้จะทำให้ผักเป็นเสี้ยน เหนียว ไม่น่ารับประทาน

คุณเจตน์กมล นาวา เกษตรกรหนุ่มในพื้นที่ หมู่ที่ 17 ตำบลแม่นาเรือ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา นำผู้เขียนเข้าดูแปลงปลูกผักขึ้นฉ่ายไฮโดรโปนิก ที่เขาปลูกไว้ประมาณ 4 แปลง…ปลูกในพื้นที่ 1 งาน หลังจากหันหลังให้กับการทำงานประจำ เป็นลูกจ้างบริษัทหลายแห่ง เนื่องจากถึงจุดอิ่มตัว โดยการหันมาปลูกผักขึ้นฉ่าย โดยระบบไฮโดรโปนิกที่ใช้ระบบน้ำวนเข้าบริหารจัดการ จนสามารถทำให้ผักขึ้นฉ่ายที่ปลูกไว้โตได้อย่างรวดเร็วและสวยงาม รวมทั้งเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งในแต่ละวันก็จะสามารถผลัดเปลี่ยนเก็บผลผลิตได้ทุกวัน จนสามารถสร้างรายได้ให้เป็นอย่างดี

คุณเจตน์กมล เล่าว่า ตนเองได้ปลูกผักดังกล่าวมาเป็นระยะเวลาประมาณครึ่งปี หลังจากหันหลังให้กับชีวิตลูกจ้างบริษัทเอกชนหลายแห่ง โดยมาลงทุนปลูกผักขึ้นฉ่าย อาศัยความรู้ทุนเดิมที่มีอยู่ เนื่องจากตนเองได้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และสัมผัสกับงานทางด้านการเกษตรมา จึงปลูกผักขึ้นฉ่ายแบบไฮโดรโปนิก ซึ่งขึ้นฉ่ายเป็นพืชผักที่เป็นความต้องการของตลาด เนื่องจากค่อนข้างที่จะมีผู้ปลูกน้อยและหายาก ประกอบกับมีราคาที่สูง หลังจากที่ตนเองปลูก ปรากฏว่า ผักขึ้นฉ่าย มีการเจริญเติบโตที่ดี สวยงาม และเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งการปลูกนั้นจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือน กับ 10 วัน ก็สามารถเก็บผลผลิตได้

โดยพื้นที่ประมาณ 1 งาน 4 แปลงปลูกนั้น สามารถเก็บผลผลิตได้ประมาณ 100-120 กิโลกรัม โดยเก็บผลผลิตทุกวันอย่างต่ำก็เฉลี่ยอยู่ที่ 5-10 กิโลกรัม ซึ่งจะมีพ่อค้าแม่ค้าในตำบลและต่างพื้นที่เดินทางมารับซื้อ และจะขายส่งในราคากิโลกรัมละ 70 บาท ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้เป็นอย่างดี เนื่องจากผักขึ้นฉ่ายของตนเองนั้นจะมีความสวยงาม เพราะปลูกระบบไฮโดรโปนิกและอยู่ในโรงเรือนปิด ต่อไปตนเองก็จะขยายพื้นที่ปลูกเพื่อเพิ่มผลผลิตให้มากขึ้น รวมทั้งจะทดลองใช้สารชีวภาพเข้าทดแทนปุ๋ยเคมีที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เพราะปัจจุบันเป็นที่ต้องการของลูกค้าเพิ่มขึ้นทุกวัน และจะเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคอีกทางหนึ่ง

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อสอบถามได้ที่ คุณเจตน์กมล นาวา อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 215 หมู่ที่ 17 ตำบลแม่นาเรือ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา โทรศัพท์ 084-371-7100