มะตูม พระพุทธบาท ไม้ผลเศรษฐกิจสร้างรายได้เงินแสน วิถีที่ก้าวสู่ความมั่นคง

มะตูม เป็นไม้ผลเศรษฐกิจ เป็นพืชสมุนไพรที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Aegle marmelos ในประเทศไทยมีชื่อเรียกแตกต่างกัน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีชื่อเรียกว่า หมากตูม ภาคเหนือมีชื่อเรียกว่า มะปิน ภาคใต้มีชื่อเรียกว่า กะทันตาเถร ตูม และตุ่มตัง

มะตูม เป็นพืชที่สามารถปลูกได้ทั้งแบบหัวไร่ปลายนาและปลูกในเชิงธุรกิจ มีการนำผลไปฝานตากแห้งทำเป็นน้ำมะตูม หรือทำเป็นมะตูมเชื่อม ส่งผลให้ทั้งผู้ปลูกและผู้แปรรูปมีรายได้ วันนี้จึงนำเรื่อง มะตูม ไม้ผลเศรษฐกิจสร้างรายได้เงินแสน วิถีที่ก้าวสู่ความมั่นคง มาบอกเล่าสู่กัน

คุณลุงสละ นิรากรณ์ เกษตรกรผู้ปลูกมะตูมแบบผสมผสาน

คุณลุงสละ นิรากรณ์ เกษตรกรปลูกมะตูม เล่าให้ฟังว่า มีพื้นที่ปลูกพืชผสมผสาน 9 ไร่ ได้จัดการพื้นที่ปลูก พืชผักสวนครัว เช่น มะนาว ข่า ตะไคร้ และพริก หรือปลูกดอกหงส์เหิน ปลูกไม้ผล เช่น มะม่วง ขนุน มะยงชิด เงาะ ลองกอง มะขามหวานและมะตูม การปลูกพืชผสมผสานจะช่วยลดความเสี่ยงด้านการผลิตและด้านการตลาด มีผลผลิตให้เก็บเกี่ยวต่อเนื่องและมีรายได้ตลอดปี

น้ำมะตูมเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ

มะตูม เป็นพืชเศรษฐกิจพื้นบ้านที่ปลูกง่าย โตไว ได้ปลูกเป็นพืชผสมผสาน 200 ต้น หลังการปลูกได้ปฏิบัติดูแลรักษาให้เจริญเติบโตสมบูรณ์ดี เมื่อเข้าสู่ปีที่ 4 หรือ 5 ได้เก็บเกี่ยวผลผลิตนำไปขายเป็นรายได้ สำนักงานเกษตรอำเภอพระพุทธบาท และอีกหลายหน่วยงานได้ส่งเสริมให้ปลูกพืชผสมผสานในระบบเกษตรดีที่เหมาะสม หรือ GAP (Good Agricultural Practice) เพื่อให้ได้ผลผลิตมะตูมคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาดผู้บริโภค

มะตูม เป็นไม้ยืนต้น ขนาดกลาง ลำต้นเดี่ยวตั้งตรงมีลักษณะกลม เปลือกสีเทาค่อนข้างเหนียว สูง 8-15 เมตร มีหนามแข็งยาว 2-3.5 เซนติเมตร ขึ้นตามกิ่งทั่วลำต้น มีทั้งหนามคู่และหนามเดี่ยว

มะตูมไม้ผลเศรษฐกิจต้นจะมีความสูง 8 15 เมตร

ราก เป็นระบบรากแก้ว ลักษณะกลม แทงลึกลงไปในดิน มีรากแขนงและรากฝอยเล็กๆ ออกรอบๆ สีน้ำตาล รากช่วยยึดกับดินให้ต้นแข็งแรงมั่นคง และหาอาหารไปเลี้ยงต้นมะตูมให้เจริญเติบโตสมบูรณ์

ใบ เป็นใบประกอบ โคนก้านใบใหญ่ ใบออกเรียงเวียน มี 3 ใบย่อย ลักษณะทรงรีเล็กๆ โคนใบมนและปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ใบอ่อนสีเขียวอ่อน หรือสีชมพูมีขนอ่อนๆ ใบแก่มีสีเขียวเรียบมัน มีกลิ่นหอม

ดอก จะออกเป็นช่อตามซอกใบและปลายกิ่ง ก้านดอกสั้นเป็นกระจุก มีดอกย่อย ลักษณะทรงกลมเล็กๆ มี 5 กลีบ สีเขียวอ่อน หรือสีเหลืองนวล เกสรเป็นเส้นเล็กๆ สีเหลืองนวล และมีกลิ่นหอม

ปลูกดอกหงส์เหิน เป็นพืชแซมเสริมรายได้

ผล มีลักษณะกลมรี ผิวเรียบ ผลอ่อนเปลือกสีเขียว ผลแก่เปลือกสีเขียวอมเหลือง ผลแก่สุกเปลือกสีเหลือง เปลือกหนาค่อนข้างแข็ง เนื้อภายในเปลือกสีเหลืองหรือสีเหลืองอมส้ม เนื้อนุ่ม มีเมล็ดเรียงเป็นวงกลมรอบแกนผล ข้างในมียางใสเหนียวหุ้มเมล็ด กลิ่นหอม รสชาติหวานอร่อย

เมล็ด เนื้อภายในผลมีเมล็ดเรียงเป็นวงกลมรอบแกนผล เมล็ดมีลักษณะทรงรีแบน มีเส้นใยนุ่มหุ้มอยู่ สีน้ำตาลอ่อน

การขยายพันธุ์ ต้นมะตูมขยายพันธุ์ได้ด้วยการเพาะเมล็ด ตอนกิ่ง และเสียบกิ่ง เมื่อเพาะได้ต้นที่สมบูรณ์จึงนำไปปลูก

ใบมะตูมอ่อนจะมีสีเขียวอ่อนหรือสีชมพูมีขนอ่อนๆ

การปลูก มะตูม เป็นพืชทนทานความแห้งแล้ง ปลูกได้ทุกฤดู เจริญเติบโตได้ดีในดินทุกชนิด ชอบดินร่วน ดินมีความชื้นพอเหมาะ ไม่ชอบให้น้ำขัง ที่นี่ปลูกระยะห่างระหว่างต้นและแถว 6×6 เมตร ขุดหลุมปลูกกว้าง ยาว และลึก ด้านละ 1 ศอก หรือ ด้านละ 50 เซนติเมตร รองก้นหลุมปลูกด้วยปุ๋ยคอกแห้งหรือปุ๋ยหมัก แล้วนำต้นพันธุ์ลงปลูก ผูกยึดติดกับไม้หลักป้องกันการโค่นล้ม เกลี่ยดินกลบ ให้น้ำแต่พอชุ่ม

การใส่ปุ๋ย ใส่ปุ๋ย สูตร 16-16-16 ปีละ 2 ครั้ง อัตรา 3-5 กิโลกรัม ต่อต้น หว่านให้รอบทรงพุ่ม ให้น้ำพอชุ่ม และต้นมะตูมหรือไม้ผลอื่นที่ปลูกแบบผสมผสานจะได้รับปุ๋ยธรรมชาติที่เกิดจากใบไม้กิ่งไม้แห้งร่วงหล่นลงมาทับถมกัน แล้วเกิดการย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยที่ทำให้ไม้ผลเจริญเติบโตได้ดี และทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง

ใบมะตูมแก่มีสีเขียวผิวเรียบมัน มีกลิ่นหอมใช้รับประทาน

การให้น้ำ พื้นที่ปลูกต้องมีการระบายน้ำได้ดีและน้ำไม่ขังแฉะ ในระยะแรกหลังจากปลูกมะตูมได้ให้น้ำทุกวัน เมื่อต้นมะตูมเจริญเติบโตแข็งแรง ให้น้ำน้อยลง หรือจะให้น้ำพร้อมกับการให้น้ำไม้ผลอื่นๆ หรือในฤดูฝนก็ปล่อยให้ได้รับน้ำจากน้ำฝน เมื่อต้นมะตูมได้รับน้ำอย่างพอเพียง ได้รับแสงแดดเหมาะสมก็จะเจริญเติบโตติดผลดก

การเก็บเกี่ยว เมื่อต้นมะตูมอายุ 4-5 ปี มีการเจริญเติบโตเหมาะสมก็เริ่มติดดอกและออกผลสีเขียวขนาดเล็กๆ เท่ากับหัวไม้ขีดไฟ และจะเจริญเติบโตไปเป็นผลแก่สุก ในระยะแรกต้นมะตูมจะให้ผลผลิตน้อย แต่จะให้ผลผลิตมากขึ้นเมื่อต้นมีอายุ 7 ปีขึ้นไป การเก็บเกี่ยวได้เลือกตัดเก็บเฉพาะผลที่แก่สุกตามช่วงอายุ เพื่อนำไปบริโภคหรือจำหน่าย

มะตูมผลอ่อนมีลักษณะกลมรีผิวเรียบ เปลือกสีเขียว

ตลาด พ่อค้า-แม่ค้า เจ้าประจำ บางรายจะเข้ามาสั่งจองไว้ตามจำนวนที่ต้องการโดยไม่ต้องวางมัดจำ เมื่อถึงเวลานัดหมายผู้ซื้อพร้อมทีมงานก็เข้ามาตัดเก็บผลมะตูมด้วยตนเอง แต่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดคือ ต้องตัดเก็บเฉพาะผลมะตูมที่แก่สุกเท่านั้น เมื่อเก็บผลผลิตได้แล้ว จะนำมาชั่งน้ำหนักและรับซื้อไปที่ราคา 10 บาท ต่อกิโลกรัม มะตูม 1 ต้น จะให้ผลผลิตเฉลี่ย 500 กิโลกรัม ถ้าขาย 10 บาท ต่อกิโลกรัม จะมีรายได้เฉลี่ย 5,000 บาท ต่อต้น แต่ละปีต้นมะตูมให้ผลผลิตต่อต้นมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการปฏิบัติดูแลบำรุงรักษาด้วย ส่วนราคาซื้อขาย ขึ้น-ลง จะเปลี่ยนไปตามกลไกตลาด

คุณลุงสละ เล่าให้ฟังในท้ายนี้ว่า มะตูม เป็นพืชสมุนไพรที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง มีฟอสฟอรัส วิตามินเอ วิตามินบี และวิตามินซี มีแคลเซียม และโพแทสเซียม

เมื่อการปฏิบัติดูแลดีจะทำให้ติดผลดก

ผลดิบ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลหรือลดความดันโลหิตสูง

ผลสุก บำรุงหัวใจหรือป้องกันโรคความจำเสื่อม

เปลือกมะตูม ใส่น้ำต้มเพื่อดื่มแก้ท้องเสีย รักษาลำไส้อักเสบ

รากมะตูม ช่วยรักษาแผลในระบบทางเดินอาหาร

ใบมะตูม พราหมณ์ถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะและเป็นมงคล

ใบมะตูม พราหมณ์ถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะและเป็นมงคล นำไปถวายพระมหากษัตริย์สำหรับทรงใช้ในการพระราชทานน้ำสังข์ หรือบางตำราถือว่าใบมะตูมที่มีลักษณะ 3 แฉก เป็นใบไม้ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู บางตำราถือว่าคล้ายพระแสงตรี ซึ่งเป็นอาวุธของพระนารายณ์

จากเรื่องราว มะตูม ไม้ผลเศรษฐกิจสร้างรายได้เงินแสน วิถีที่ก้าวสู่ความมั่นคง เป็นการปลูกมะตูมแบบผสมผสาน ทำให้ลดทุนการผลิต มีผลผลิตให้เก็บเกี่ยวและทำให้ตลอดปีมีรายได้เงินแสนบาทที่สร้างความมั่นคงให้ครอบครัว

ปลูกมะตูมเป็นพืชแบบผสมผสาน ทำให้ลดความเสี่ยงด้านการผลิตและตลาด

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณลุงสละ นิรากรณ์ 14 หมู่ที่ 8 โปร่งตะแบก ตำบลพุคำจาน อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี โทร. 081-852-3715 หรือ สำนักงานเกษตรอำเภอพระพุทธบาท ก็ได้ครับ