ผู้เขียน | ธาวิดา ศิริสัมพันธ์ |
---|---|
เผยแพร่ |
อดีตวิศวกร ปลดหนี้ให้พ่อแม่ พร้อมสร้างอาชีพใหม่ที่มั่นคง ให้กับตัวเองด้วยการปลูกมะนาว
คุณธรรมรัตน์ แย้มขจร หรือ พี่ต้น อดีตวิศวกรคุมเครื่องจักร อยู่บ้านเลขที่ 151 ซอยวัดสุขใจ ถนนนิมิตใหม่ แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร ที่หันมาเอาดีด้านการเกษตร จนทุกวันนี้มีรายได้เป็นกอบเป็นกำจากการขายมะนาว พร้อมมีแนวคิดที่ก้าวหน้า ปลูกมะนาวไม่จำเป็นต้องขายผลสดเพียงอย่างเดียว แต่รู้ไหมว่า มะนาว 1 ต้น สามารถตอนกิ่งขายได้เป็น 100-200 กิ่ง ราคากิ่งละ 60-80 บาท ขายได้ตลอดทั้งปี เพียงแค่เจ้าของสวนต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าให้ได้
ออกจากงานประจำ มาทำเกษตร
ช่วยปลดหนี้ให้พ่อแม่
พี่ต้น เล่าว่า ก่อนที่จะมาทำสวนมะนาว ตนเป็นวิศวกรคุมเครื่องจักรมานานนับ 10 ปี ใช้ชีวิตในเมืองกรุง ค่าใช้จ่ายสูง มีเงินเดือนหลายหมื่นแต่ก็ไม่เคยเหลือ จึงคิดว่าอยากกลับมาช่วยพ่อแม่ทำการเกษตร แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าจะทำอะไร พ่อแม่เป็นชาวนาอยู่แล้ว แต่ยิ่งทำยิ่งเป็นหนี้ จึงอยากกลับมาเปลี่ยนแปลงที่บ้าน อยากทำให้พ่อแม่รู้ว่าเราก็สามารถดูแลเลี้ยงเขาได้จากอาชีพเกษตรกรรม จึงอยากทดลองทำอะไรแปลกๆ เพราะอาจจะเป็นวิธีที่สามารถทำให้ครอบครัวอยู่รอดได้ในขณะที่ข้าวมีแต่ถูกลง
“ตอนแรกบอกพ่อว่า จะปลูกมะนาว พ่อบอกทำไปก็ไม่สำเร็จหรอก มันยาก แต่ผมบอกขอลองทำก่อนได้ไหม พ่อก็ให้ลองเปลี่ยนแปลงนา จากเดิมมี 25 ไร่ ลดเหลือ 21 ไร่ แบ่งให้ผมปลูกมะนาว 4 ไร่ เริ่มแรกการปลูก ลงทุนไป 250,000 บาท พยายามทำแบบฉีกแนวเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แตกต่าง คือการปลูกมะนาวในวงบ่อ แบบ 2 บ่อซ้อนกัน เป็นวิธีที่แปลกแต่ได้ผลผลิตที่ดก และสามารถบังคับให้ออกนอกฤดูได้ จนถึงปัจจุบันนี้ผมสามารถปลดหนี้ให้พ่อแม่ได้หลักแสน และยังสามารถสร้างอาชีพที่มั่นคงเลี้ยงคนในครอบครัวได้จากการปลูกมะนาวนี่แหละครับ” พี่ต้น บอก
เทคนิคปลูกมะนาวให้ลูกดก ออกนอกฤดู
ปลูกในวงบ่อ หรือปลูกบนดินก็ได้เหมือนกัน
พี่ต้น บอกว่า ทุกวันนี้การทำเกษตรของเขาก็ยังเป็นเกษตรผสมผสานอยู่ ถึงแม้ว่ามะนาวจะให้ผลตอบแทนที่ดี แต่ก็จำเป็นต้องมีพืชอย่างอื่นมารองรับ ที่สวนก็ยังปลูกข้าวไว้กินเอง มีเหลือไว้ขายบ้างเล็กน้อย พยายามทำตามทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง ตามคำสอนของในหลวง รัชกาลที่ 9 ปลูกพืชผสมผสาน ทำเกษตรอินทรีย์ และอยากให้ทุกคนรู้ว่าการทำเกษตรอินทรีย์นี้ส่งผลดีกับตัวเกษตรกรเองขนาดไหน ทั้งในเรื่องการลดต้นทุน เรื่องสุขภาพ ทั้งของผู้ซื้อและผู้ปลูก ทำเกษตรอินทรีย์ก็สามารถทำให้ผลผลิตดกสู้เคมีได้ เพียงแค่ต้องใส่ใจ และหมั่นศึกษาคิดค้นเทคนิคต่างๆ เพื่อเอามาสู้กับแมลง ซึ่งทุกวันนี้ก็ได้ผลดีมากด้วย
ปัจจัยการปลูกมะนาวให้ประสบผลสำเร็จ
- ดินต้องดี น้ำต้องดี ถ้าดินไม่ดี น้ำไม่ดี ก็ปลูกไม่ได้ มะนาวที่สวนเลือกปลูกส่วนใหญ่เป็นพันธุ์แป้น เปลือกต้องบาง เม็ดน้อย น้ำเยอะ และต้องมีกลิ่นหอม
- ต้องเลือกสายพันธุ์มะนาวให้ดี ถ้าสายพันธุ์ไม่ดี ผลผลิตก็ไม่ดีตาม บางคนไม่รู้ก็เลือกปลูกพันธุ์ที่เปลือกหนามาเลย ซึ่งตลาดไม่ต้องการมะนาวที่เปลือกหนา แนะนำว่าถ้าติดต่อซื้อต้นพันธุ์ทางออนไลน์ ให้คลิกเข้าไปดูก่อนว่า สวนที่ขายเปิดมากี่ปีแล้ว ผลผลิตที่เขาปลูกเป็นอย่างไร ดกไหม มีปัญหาเรื่องโรคหรือเปล่า ต้องดูสวนที่ไว้ใจได้
- ดินปลูกต้องผสมให้ดี อัตราส่วน คือ
- ดิน 3 ส่วน
- แกลบดำ 2 ส่วน
- แกลบดิบ 1 ส่วน
- ขุยมะพร้าว 1 ส่วน คลุกเคล้าให้เข้ากัน
- ขุดหลุมไม่ต้องกว้างมาก ศอกคูณศอก ขุดเป็นสี่เหลี่ยม แล้วนำดินที่ผสมใส่ลงไปในหลุม ส่วนขี้วัวยังไม่แนะนำให้ใส่เพราะช่วงแรกมีสารอาหารอยู่แล้ว ให้ใส่ขี้วัวตอนที่มะนาวเริ่มแตกใบอ่อน ผ่านไปประมาณ 1 เดือน
- ทำโคกแล้วขุดหลุม ประมาณ 1 ฝ่ามือ แล้วกรีดถุงดำออก นำต้นลงปลูก แล้วโกยดินปิด บางคนปลูกมะนาวเข้าใจว่าต้องปลูกลึกๆ แต่ปลูกตื้นๆ จะได้ลูกดก เพราะรากจะแผ่ออกไป ต้นจะลอย โคนจะลอย เวลาหน้าแล้งก็บังคับได้
- ระยะห่างระหว่างต้นต้องเหมาะสม ควรเว้นระยะระหว่างต้น 3 เมตร และไม่ทำมะนาวให้ต้นใหญ่ เมื่อปลูกไป 1 ปี เก็บผลผลิตแล้วให้ตัดแต่งต้นลงมาให้เตี้ยเท่าเดิม ตัดโคนต้นให้โล่งเพื่อข้างบนจะทำลูกง่าย การจัดการก็ง่าย ไม่ต้องเปลืองไม้ค้ำ การเก็บเดินเก็บได้สบายๆ ไม่ต้องทำเหมือนสวนอื่นใช้ไม่สอยเพราะต้นสูงไป
- ระบบน้ำ เดินท่อ พีอี ต่อหัวมินิสปริงเกลอร์ หรือเดินท่อ พีอี แล้วเจาะรูเป็นระบบน้ำหยดไม่ต้องเปลืองน้ำ ให้แบบตรงจุด บางคนให้น้ำเยอะไป ไม่ใช่เรื่องดี ทฤษฎีในการปลูกมะนาวคือ ไม่ต้องการน้ำเยอะมากลูกจะร่วง เพราะได้น้ำเยอะเกินไป มะนาวจะงามแต่ใบ ขอเพียงให้มีน้ำหล่อเลี้ยงอาทิตย์หนึ่งรด 3 ครั้ง ก็พอ
- ปุ๋ย มะนาวได้อายุ 1 เดือน เริ่มแตกใบ ให้ใส่ขี้วัวสัก 1-2 กำมือ ผ่านไปอีก 2-3 เดือน ใส่อีกครั้ง ดูแลแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงช่วงอายุ 8-9 เดือน ต้นเริ่มใหญ่ เริ่มจะทำลูกให้ในปีแรก หรือบางคนอาจจะทำลูกตอนต้นอายุครบ 1 ปี บางคน 8 เดือน ทำลูก แล้วแต่ความเหมาะสม แต่มะนาวถ้าจะให้ดีต้องไม่เกิน 7-8 ปี ถ้ามากกว่านี้ต้นจะโทรม ให้ผลผลิตน้อย แนะนำให้โค่นทิ้งแล้วปลูกใหม่จะดีกว่า
- การดูแล ดูแลใบให้ดี ต้นทรงพุ่มให้งาม โคนต้นต้องให้แดดส่องถึงสม่ำเสมอ เพราะถ้าแดดส่องไม่ถึงจะทำให้เกิดเชื้อรา เพราะเชื้อราเกิดขึ้นทางดิน โรคที่มาจากดินเยอะมาก และมาตอนฝนแรกคือ โรคแคงเกอร์ เจ้าของสวนต้องตั้งสติให้ดี เพราะผมเคยจิตตกมาแล้ว โรคมาก็ไปซื้อสารเคมีมาฉีดอย่างเดียว แต่สารเคมีบางตัวช่วยได้แค่บรรเทา แต่รักษาไม่ได้ ผลสุดท้าย เชื้อราไปตกอยู่ที่โคนต้นหมด ก็หมักไปเรื่อย สุดท้าย มะนาว ก็ตายอยู่ดี ซึ่งวิธีแก้แบบธรรมชาติที่ได้ทดลองมาหลายวิธี ตอนนี้ก็ค้นพบแล้วว่า เพียงแค่ใช้ปูนขาวที่ใช้โรยตามสนามฟุตบอลมา 2 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 20 ลิตร คนให้เขากัน ทิ้งไว้ 1 คืน แล้วนำน้ำที่ใสๆ มาฉีดโรคแคงเกอร์จะไม่ค่อยมี
อุปสรรคในการปลูกมะนาว
- ปัญหาเรื่องภัยแล้ง การปลูกมะนาวน้ำสำคัญ
- ปัญหาเรื่องโรคแมลง เกษตรกรต้องรู้และเข้าใจกับโรคแมลงต่างๆ ที่เกิดและค่อยๆ แก้ปัญหา อย่าใช้แต่สารเคมีแก้ปัญหา เพราะนอกจากแมลงจะไม่หายแล้ว ต้นทุนจะหายไปด้วย
- อุปสรรคด้านการตลาด พอเวลาถูกก็ถูกจริงๆ เวลาแพงก็แพงจริงๆ เพราะเวลาคนทำออกมา ทำออกมาพร้อมๆ กัน และเกษตรกรมักจะทำเลียนแบบกัน สมมุติว่าปลูกกล้วยก็ปลูกเหมือนกันหมด คือ ผลผลิตออกมาแล้วเป็นจำนวนมาก เวลาไปเทขายตลาดสินค้ามาก พ่อค้าคนกลางก็สามารถกดราคาได้ เกษตรกรต้องมีการวางแผน ถ้าใครมีที่เยอะแนะนำให้ปลูกพืชผสมผสานดีกว่า ผลผลิตอันนี้หมดสามารถขายอันต่อไปได้
ผลผลิตดก 800-1,000 ลูก ต่อต้น
ทำเองลดต้นทุน เพิ่มกำไร
การปลูกมะนาวแบบวิธีข้างต้นที่กล่าวมา พี่ต้น บอกว่า ถือว่าค่อนข้างประสบความสำเร็จ ได้ผลผลิตดก 800-1,000 ลูก ต่อต้น และช่วงนั้นเป็นช่วงหลังน้ำท่วม ปี 2554 มะนาว กำลังขาดตลาด ราคาดีดขึ้นถึงลูกละ 7-8 บาท ก็ทำให้ฟื้นขึ้นมาจากที่ลงทุนไป 250,000 บาท และรายได้ก็ตอบโจทย์มาถึงทุกวันนี้ การปลูกมะนาวถ้าจะทำให้อยู่รอดนอกจากเทคนิคที่ดีแล้ว ยังต้องบริหารจัดการให้เป็น ปลูกเองทำเองจะเห็นกำไรมาก ปุ๋ยที่ใช้เป็นปุ๋ยขี้วัว ราคาไม่กี่บาท แต่ถ้าทำแบบเคมีต้องซื้อยาซื้อปุ๋ยเงินลงทุนก็จะหายไป
การทำเกษตรให้ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่แค่เพียงปลูกได้ แต่ต้องขายให้เป็น และต่อยอดไปได้เรื่อยๆ บางคนมองขายแค่ผลสด เพราะว่าทำมะนาวไม่รู้จะไปขายอะไรต่อ เกษตรกรต้องมีโจทย์ให้กับตัวเอง ซึ่งแนวคิดตอนนั้นคือ ถ้าขายลูกอย่างเดียว ก็มีรายได้ทางเดียว แต่ถ้าขายกิ่งพันธุ์ด้วย จะมีรายได้เพิ่มมาอีกทาง ราคากิ่งพันธุ์ 60-80 บาท ต่อ 1 กิ่ง 1 ต้น สามารถตอนได้เป็นร้อยกิ่ง คือจำนวนกิ่งกับราคาลูกมันต่างกัน 1 ลูก อาจจะ 5 บาท ต่อให้แพงจริงๆ ยังไงก็ส่งได้ กิโลละ 70-80 บาท แต่กิ่งพันธุ์ขายได้ทั้งปี ทั้งยังรับออกแบบวางระบบสวนมะนาวให้กับเกษตรกรมือใหม่ แน่นอนว่ารายได้ต้องไม่ธรรมดา
แต่ละอย่างมีรายละเอียด ดังนี้
- ขายผลสด ต้องมีผลผลิตส่งร้านอาหาร ส่งโรงแรมทุกวัน อย่างน้อย วันละ 20-30 กระสอบ เดือนละ 2-3 ตัน แล้วถามว่า ปลูกแค่ 4 ไร่ มีส่งขายพอหรอ ตอบเลยว่า ไม่พอ ต้องมีลูกไร่ให้เขาทำส่ง และให้ราคามากกว่าราคาตลาดกลาง ซึ่งมีข้อแม้ว่า ลูกไร่ทุกคนต้องปลูกแบบอินทรีย์เท่านั้น
- ขายกิ่งพันธุ์ เมื่อมะนาวลูกดกคนเห็นก็อยากได้กิ่งพันธุ์ไปปลูก ผมมีหน้าที่ผลิตกิ่งพันธุ์ที่มีคุณภาพให้ลูกค้า ลูกค้าคนหนึ่งสั่งไม่ใช่แค่ 20-30 กิ่ง แต่สั่งครั้งละ 200-300 กิ่ง เมื่อลูกค้าได้กิ่งตอนที่มีคุณภาพ ปลูกแล้วได้ผลผลิตดี ก็จะเกิดการซื้อซ้ำอยู่อย่างนั้น
- รับออกแบบวางระบบสวนมะนาว เดินระบบน้ำ ธุรกิจออกแบบระบบสวนนี้จะเกิดขึ้นได้ต้องมาจากที่ผลิตมะนาวได้เยอะ มีคุณภาพ และที่สำคัญคือ ต้องทำให้คนอื่นเห็นและเกิดความเชื่อถือ วิธีการคือ ต้องมีรูปสวนตัวเองที่ปลูกแล้วได้ผลผลิตจริง หมั่นโพสต์เรื่องราวกิจกรรมต่างๆ ที่ทำภายในสวนบ่อยๆ ว่าเราทำได้จริง
ปลูกมะนาว ทำตลาดเป็น
สร้างเงินไว มีเงินเข้ากระเป๋าทุกวัน
เจ้าของบอกว่า การปลูกมะนาวดีตรงที่ได้เงินไวกว่าพืชชนิดอื่น ได้เงินทุกวัน สามารถทำให้ผลผลิตมีออกขายทุกวัน อย่างน้อยมะนาวลูกละ 1-4 บาท ก็ทำเงินได้แล้ว ทำสวนมะนาวรวยเร็ว แต่ก็เจ๊งเร็วเช่นกัน ที่เจ๊งเพราะทำเคมีกันมากไป ใส่ปุ๋ยเยอะ สั่งมาแต่ละครั้ง 1 เดือน หมดไปเท่าไร เขาเรียกว่าทำแล้วไม่คุ้มทุน แต่วิธีของผมทำแล้วเห็นกำไร ลูกฟาร์มก็แฮปปี้ เพราะเขาไม่ต้องมีต้นทุนมาก ผมก็ไปสอนการจัดการให้เขา สอนให้ปลูกระบบอินทรีย์ ทำอย่างไร ลูกฟาร์มสามารถทำตามได้ หรือใครที่ไม่ใช่ลูกฟาร์มก็ยินดีสอน
นอกจากปลูกเป็นแล้ว การตลาดก็ต้องเป็นด้วย ถ้าหากย้อนไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว กระแสโซเชียลยังไม่เป็นที่นิยม ผมถือเป็นเกษตรกรรุ่นแรกๆ ที่เริ่มเปิดตลาดออนไลน์ ขายมะนาว ขายกิ่งพันธุ์ ผ่านเฟซบุ๊ก เฟซบุ๊กสามารถมีเพื่อนได้ประมาณ 5,000 คน ผมก็เป็นเพื่อนจนครบ แล้วสร้างอีก 2-3 แอคเคาท์ คิดดูว่าเราสามารถมีเพื่อนได้เป็นหมื่นคน จะมีคนเป็นหมื่นที่เห็นผลผลิตเรา และคนอีกหมื่นคนก็แชร์ไป เป็นลูกโซ่กลายเป็นว่าเราแทบไม่ต้องหาตลาดยากเลย แค่สร้างความเชื่อมั่นให้เขาเห็นแค่นั้น
“แต่ก่อนผมไม่เคยคิดหรอกว่า ปลูกแล้วจะไปขายให้ใคร ผลผลิตออกมาเป็นตัน ก็เอาไปขายให้พ่อค้าคนกลาง พ่อค้าคนกลางก็กดราคา ตั้งแต่นั้นมาจึงเริ่มเปลี่ยนแนวคิดสร้างตลาดให้ตัวเอง มีตลาดอยู่ในมือคือ โซเชียล ก็หันมาหาตลาดทางนี้ และก็ผันตัวเองมาเป็นพ่อค้าคนกลางเอง เพื่อให้ทุกคนรู้ว่าผมรับซื้อมะนาวในราคาที่แพง ทั้งผู้ซื้อผู้ขายแฮปปี้ทั้งสองฝ่าย ต่างคนต่างเกื้อกูลกัน เหมือนเพื่อนเกษตรมากกว่า เราไม่ได้บวกกำไรมากจนเกษตรกรอยู่ไม่ได้” พี่ต้น กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามรายละเอียดเทคนิคการปลูกมะนาว หรือสนใจซื้อกิ่งพันธุ์ ติดต่อได้ที่เบอร์โทร. 083-946-6964