มันแกวกุดรัง ปลูกง่าย กำไรงาม ลงทุนหลักพัน โกยกำไรทะลุหมื่น

มันแกว เป็นพืชตระกูลถั่ว ไม่ชอบดินชื้นแฉะ เติบโตได้ดีในพื้นที่ดินเหนียวปนทราย ดินร่วนปนทราย ดินทราย ปัจจุบันพบมีการปลูกเกือบทั่วประเทศ มีพื้นที่ปลูกมากที่สุดในภาคกลาง ได้แก่ สระบุรี ชลบุรี สมุทรสาคร รองลงมาคือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ มหาสารคาม ขอนแก่น หนองคาย นครพนม ส่วนภาคอื่นมีปลูกน้อย

ปัจจุบัน มันแกว เป็นพืชเศรษฐกิจที่นิยมปลูกมากในแผ่นดินภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเรียกมันแกวในภาษาอีสานว่า “มันเพา” พืชชนิดนี้เป็นไม้เถาเลื้อยพัน มีหัวใต้ดิน เป็นรากสะสมอาหาร ใบประกอบแบบขนนก มีใบย่อย 3 ใบ เรียงสลับ ดอกช่อกระจะ ออกเดี่ยวๆ ที่ซอกใบ มีขนสีน้ำตาล กลีบดอกสีม่วงแกมน้ำเงิน รูปดอกถั่ว ผลเป็นฝัก รูปขอบขนาน แบน มีขน เมล็ดมี 4-9 เมล็ด ชาวอีสานนิยมปลูกมันแกวเป็นพืชเสริมรายได้หลังหมดฤดูทำนา เพราะใช้ระยะเวลาปลูกดูแลสั้นๆ เพียงแค่ 90 วัน ก็เก็บผลผลิตออกขายได้แล้ว

แปลงปลูกมันแกว

กล่าวกันว่า เป็นมันแกวที่ให้รสชาติหวาน กรอบ อร่อยที่สุด คือ มันแกว ที่ปลูกในพื้นที่อำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม เรียกกันติดปากว่า “มันแกวบรบือ” เนื่องจากเป็นมันแกวที่ปลูกได้จากอำเภอบรบือ ที่ผ่านมา กลุ่ม OTOP ของจังหวัดมหาสารคาม ได้แปรรูปมันแกวเป็นผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ เช่น กะหรี่ปั๊บ พาย มันแกวทอดกรอบ เป็นต้น

มันแกว นอกจากมีรสชาติหวาน กรอบ อร่อย เป็นจุดขายแล้ว มันแกว ยังมีสารต้านเอนไซม์ไทโรซิเนสและต้านออกซิเดชั่น ซึ่งเป็นฤทธิ์ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการพัฒนาเป็นเวชสำอางบำรุงผิวให้กระจ่างใส เช่นเดียวกันกับสมุนไพร กวาวเครือขาว ที่คนไทยรู้จักกันดี ปัจจุบัน อินโดนีเซียนิยมใช้หัวมันแกวเป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอางที่ใช้บำรุงผิวหน้าให้ขาวและป้องกันแสงแดด วางขายในรูปของครีม ซีรัม เป็นต้น

มันแกว ของดีอำเภอกุดรัง

“อำเภอกุดรัง” เปรียบเสมือนเมืองหน้าด่านของจังหวัดมหาสารคาม ที่นี่มีของดีมากมาย ดั่งคำขวัญประจำอำเภอที่ว่า “ประตูสู่สารคาม ไหมงามลายสร้อยดอกหมาก ของฝากมันแกวลือชื่อ ใกล้สะดืออีสาน”
ข้อมูลจากสำนักงานเกษตรจังหวัดมหาสารคาม ระบุว่า “มันแกว” เป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของท้องถิ่นมานานกว่า 40 ปี สร้างอาชีพและรายได้ให้เกษตรกรชาวจังหวัดมหาสารคาม มากกว่าปีละ 30 ล้านบาท โดยแหล่งปลูกสำคัญอยู่ในพื้นที่อำเภอบรบือ และอำเภอกุดรัง

ทั้งนี้ มันแกวบรบือ ได้รับการยกย่องว่า เป็นมันแกวคุณภาพดีที่สุดพันธุ์หนึ่งของเมืองไทย เนื่องจากมีรสชาติอร่อยหวานกรอบ เพราะปลูกในพื้นที่ดินร่วนปนทราย มันแกวหัวสดที่ปลูกในจังหวัดมหาสารคามมีรสชาติหวานกรอบกว่าแหล่งอื่นแล้ว เปลือกมันแกวยังมีสีขาวนวลเด่นสะดุดตาผู้ซื้ออีกต่างหาก

ให้น้ำในแปลงปลูกมันแกว

ที่ผ่านมา สำนักงานเกษตรอำเภอบรบือ และอำเภอกุดรัง ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ร่วมกันสนับสนุนให้เกษตรกรร่วมปลูกมันแกว เพื่อคงเอกลักษณ์พืชเศรษฐกิจประจำท้องถิ่นไว้อย่างต่อเนื่อง เกษตรกรชาวมหาสารคามสนใจเข้าร่วมโครงการปลูกมันแกวกว่า 2,000 ไร่

โดยปีหนึ่งสามารถปลูกมันแกวได้ 3 รุ่น ต่อปี รุ่นแรก ปลูกช่วงต้นฤดูฝน ระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน จะได้ผลผลิตเฉลี่ย ไร่ละ 10 ตัน รุ่นที่ 2 ปลูกช่วงปลายฤดูฝน ระหว่างเดือน กันยายน-เดือนตุลาคม จะได้ผลผลิต 5-6 ตัน ต่อไร่ และรุ่นที่ 3 ปลูกช่วงฤดูแล้ง ระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ จะได้ผลผลิตเฉลี่ย ไร่ละ 4-5 ตัน ต่อไร่ มันแกวจะใช้เวลาปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวประมาณ 90-120 วัน

ช่วงต้นมันแกวติดดอก ต้องตีให้ดอกร่วง

สำนักงานเกษตรจังหวัดมหาสารคาม ระบุว่า เกษตรกรที่ปลูกมันแกวในช่วงปลายฤดูฝนและช่วงฤดูแล้ง สามารถขายผลผลิตได้ในราคาดี เพราะมีผลผลิตเข้าสู่ตลาดตรงกับช่วงเทศกาลปีใหม่และเทศกาลสงกรานต์ ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากมีโอกาสซื้อมันแกวติดมือกลับบ้านเป็นของฝากคนที่บ้าน

พบในบางจังหวัดเท่านั้น มันแกว เป็นพืชใช้น้ำน้อย ที่ใช้ระยะเวลาปลูกดูแลแค่ 3 เดือน นิยมปลูกเป็นพืชสร้างรายได้ ในช่วงฤดูแล้ง โดยทั่วไปพื้นที่ปลูกมันแกว 1 ไร่ จะใช้เงินลงทุนประมาณ 10,000 บาท ส่วนหนึ่งเป็นค่าเมล็ดพันธุ์ ไร่ละ 2,500 บาท ที่เหลือเป็นค่าไถ ค่าเตรียมดิน ค่าปุ๋ยเคมี ค่าดูแลรักษาและเก็บเกี่ยว สร้างรายได้ ประมาณ 15,000-30,000 บาท ต่อไร่ ทีเดียว

ปลูกมันแกว เสริมรายได้หลังนา

คุณอาธรณ์ สีแสด อยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ที่ 7 ตำบลห้วยเตย อำเภอกุดรัง จังหวัดมหาสารคาม โทร. 082-853-7419 เป็นหนึ่งในเกษตรกรที่ปลูกมันแกวเป็นพืชเสริมรายได้หลังฤดูทำนา เล่าให้ฟังว่า “อาชีพหลักของผมคือ ทำนา ทำไร่มันสำปะหลัง เลี้ยงวัวขุน เมื่อสิ้นสุดฤดูทำนา ผมจะปลูกพืชน้ำน้อย อายุเก็บเกี่ยวสั้น เช่น มันแกว ถั่วลิสง แตงโม มันเทศสีส้ม หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า มันแครอท เป็นรายได้เสริม”

คุณอาธรณ์ สีแสด และภรรยา โชว์ผลมันแกวกุดรัง

โดยทั่วไป มันแกว มี 2 สายพันธุ์ คือ พันธุ์หนัก และพันธุ์เบา ซึ่งผมเลือกปลูกมันแกวพันธุ์เบา ในพื้นที่ 2 งาน ใช้เงินลงทุนหลักพัน ใช้ระยะเวลาปลูกสั้น ให้ผลผลิตดี สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี ผมจะซื้อเมล็ดพันธุ์มันแกวมาจากจังหวัดจันทบุรี นำมาปลูกในช่วงปลายปี ตรงกับช่วงฤดูหนาว เพราะจะช่วยให้มันแกวมีรสชาติหวาน กรอบ อร่อย แต่เกษตรกรบางรายจะเริ่มปลูกมันแกวในช่วงเดือนกันยายนและเก็บเกี่ยวผลผลิตออกขายในช่วงเทศกาลปีใหม่

การปลูกมันแกวไม่ยุ่งยาก เริ่มจากเตรียมดิน ใช้ปุ๋ยคอกรองพื้น ผมเริ่มปลูกมันแกวในช่วงเดือนตุลาคมปลูกหยอดเมล็ดในระยะห่าง ประมาณ 1 นิ้ว เพื่อให้มันแกวหัวเล็กที่ตลาดนิยมบริโภค โดยทั่วไป พื้นที่ 1 ไร่ จะใช้เมล็ดพันธุ์มันแกว 14 กิโลกรัม หรือ 1 ถัง จะเริ่มให้น้ำในแปลงปลูกมันแกว เมื่อต้นมันแกวเริ่มลงหัว เปิดให้น้ำในระบบสปริงเกลอร์อย่างสม่ำเสมอ เพราะหากขาดน้ำจะทำให้หัวมันแกวเหี่ยวขายไม่ได้ราคา แค่ 90 วัน ก็เก็บผลผลิตออกขายได้

เก็บมันแกวจากแปลงปลูก

“หากขายหน้าฟาร์ม จะได้แค่ กิโลกรัมละ 8 บาท หากตั้งแผงขายริมถนน จะขายได้ กิโลกรัมละ 30 บาท แต่ผมจะเก็บหัวมันแกวใส่รถซาเล้งออกไปขายในพื้นที่อำเภอโกสุมและอำเภอวาปี ในราคา กิโลกรัมละ 20 บาท วันหนึ่งจะมีรายได้ 2,000 บาท หักค่าใช้จ่ายแล้ว ยังเหลือผลกำไรก้อนโต ถึง 20,000 บาท ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุนแล้ว” คุณอาธรณ์กล่าว

โชว์มันเทศสีส้ม หรือ มันแครอท
คุณอาธรณ์ โชว์หัวมันแครอท

นอกจากนี้ สินค้าเด่นอีกชนิดของไร่แห่งนี้คือ มันแครอท ซึ่งเป็นมันเทศสีส้ม ขายดีเป็นที่ต้องการของร้านขายกล้วยทอด ขายได้ในราคา กิโลกรัมละ 20 บาท พืชชนิดนี้ปลูกได้ไม่ยาก แค่นำยอดมาปักลงแปลงปลูก ในระยะห่าง ประมาณ 2 ฟุต ระยะเวลาปลูกดูแลไม่นานก็เก็บผลผลิตออกขายได้แล้ว

แปลงปลูกแตงโมกินรี
คุณอาธรณ์ ตั้งหุ่นไล่กาในแปลงปลูกเพื่อไล่นก

……………………….

เผยแพร่ในระบบออนไลน์เป็นครั้งแรก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 เมษายน พ.ศ.2563