ที่มา | เทคโนโลยีเกษตร |
---|---|
ผู้เขียน | ลานนา โกศัย |
เผยแพร่ |
อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย สมัยก่อนถือว่าเป็นอำเภอชายขอบของประเทศ คืออยู่ติดกับประเทศลาว สมัยก่อนนั้นจะมีปัญหาเรื่องคอมมิวนิสต์ ผู้คนสมคบกันตั้งเป็นก๊กเป็นเหล่าต่อต้านรัฐบาล จึงมีปัญหาเรื่องสู้รบตามขอบชายแดนของประเทศไทย ทางการจึงต้องส่งทหารไปสู้รบกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ จึงมีการตั้งค่ายทหารอยู่ตามอำเภอชายขอบของประเทศเพื่อสู้รบกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายเหล่านี้
แม้ในปัจจุบันกลุ่มคอมมิวนิสต์จะไม่มีแล้ว แต่ก็ยังมีชนกลุ่มน้อยมากมายเอาอำเภอชายแดนเหล่านี้เป็นแหล่งพักยาเสพติด จนกลายเป็นปัญหาอันใหญ่หลวงของประเทศมาจนทุกวันนี้ มีคนชั่วก็ต้องมีคนดีเป็นของธรรมดา คนดีก็คือ กลุ่มเกษตรกรผู้ทำมาหากินสุจริต เช่น ครอบครัวของ กำนันสมศักดิ์ เพียรจันทร์ อยู่หมู่ที่ 6 ตำบลศรีนนชัย อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย เป็นต้น
ครอบครัวของ กำนันสมศักดิ์ เพียรจันทร์ ปลูกส้มโอ ประมาณ 30 ไร่ ปลูกเพื่อส่งออกไปประเทศจีน เกษตรกรปลูกไม้ผลต่างๆ ถ้าหาตลาดไม่ได้ก็อยู่ลำบาก ผู้ส่งออกส้มโอหวานของอำเภอเวียงแก่นมีอยู่หลายเจ้า เขาจะมีกลุ่มสวนส้มโอของใครของมัน
ครอบครัวของ กำนันสมศักดิ์ สมัยแต่ก่อนมีอาชีพทำนา ทำไร่ข้าวโพด ไร่ยาสูบ ต่อมาผลผลิตราคาตกต่ำ เกษตรกรก็อยู่ลำบาก ก็มีพ่อค้าจากนครปฐมเอาต้นพันธุ์ส้มโอหวานมาให้เกษตรกรที่ทำนา ทำไร่ ทดลองปลูกส้มโอดู ปรากฏว่าผลออกมาส้มโอมีรสชาติหวาน กรอบ ส่งไปประเทศจีนทดลองชิม คนจีน คนญี่ปุ่นชอบ ซึ่งพันธุ์ส้มโอเหล่านี้นำมาจากจังหวัดนครปฐมบ้าง จากจังหวัดพิจิตรบ้าง
ส้มโอ มีรสชาติหวานก็เพราะดินของอำเภอเวียงแก่นเป็นดินภูเขาไฟ มีแร่ธาตุสมบูรณ์ ส้มโอจึงมีรสชาติหวาน อร่อยกว่าใคร กำนันสมศักดิ์ บอกกับผู้เขียนว่า แต่ก่อนทำแต่ไร่ข้าวโพด เลี้ยงสัตว์ ทำเป็นร้อยไร่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เพราะต้นทุนสูง ผลผลิตราคาตกต่ำ เกษตรกรจึงมีฐานะยากจน จนกระทั่งพวกเขามาเกิดใหม่ด้วยส้มโอนี่แหละ
สวนส้มโอของกำนันสมศักดิ์ 3 แปลง แปลงละ 10-15 ไร่ ส้มโอจะปลูกไร่ละ 50 ต้น ปลูกห่างกัน 7 เมตร 10 ไร่ ก็ได้ 500 ต้น เป็นพันธุ์ขาวแตงกวา และพันธุ์ทองดี ใช้เวลาปลูกประมาณ 3 ปี ก็เริ่มเก็บลูกขายได้ จะมีพ่อค้ามารับซื้อให้ราคาดี โดยเกษตรกรไม่ต้องเดือดร้อนเรื่องตลาด เขาจะให้ราคา เกรด A (ผลใหญ่) ให้ลูกละ 40 บาท ส้มโอต้นหนึ่งเก็บลูกได้ 40 ลูก ก็จะได้ ต้นละ 1,600 บาท 100 ต้น ได้ 40,000 บาท 500 ต้น ก็ได้ 200,000 บาท เรียกว่าส้มโอเห็นเงินแสนได้ไม่ยาก
สวนส้มโอ 10 ไร่ เก็บรอบแรกได้ 200,000 บาท นี่หมายถึง รายรับ-รายจ่าย ก็หักออกไป 40% รายจ่ายคือ ค่าแรง ค่าปุ๋ย ค่าดูแลรักษาต่างๆ ค่าน้ำมัน สูบน้ำเข้าสวน
เกรด A เป็นเกรดส่งออก ได้ราคาสูง
เกรด B เป็นเกรดรอง ได้ราคาประมาณ 25-30 บาท
เกรด C เป็นเกรดขายในประเทศ
กำนันสมศักดิ์ สร้างฐานะได้ด้วยส้มโอ สามารถส่งลูกเรียนจบมหาวิทยาลัยระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก ได้ถึง 3 คน ลูกๆ มีการศึกษาระดับปริญญาหมด มีบ้านไม้สักหลังใหญ่ มีรถยนต์ใช้นับสิบคัน ไม่ว่าจะเป็นรถเพื่อการเกษตร รถยนต์ส่วนตัว กำนันสมศักดิ์ เป็นผู้นำในกลุ่มชุมชน
สำหรับ อำเภอเวียงแก่น ใครมีที่ดินน้อยก็ทำ 3 ไร่ 5 ไร่ ก็ทำได้ แต่ต้องให้ได้ผลผลิตออกมามีคุณภาพ การทำไม้ผลเพื่อขายส่งออกดูแล้วก็ไม่ใช่ของง่าย ต้องเข้ารับการอบรมจาก สำนักงานเกษตรกอำเภอ เกษตรกรจังหวัด ต้องให้ได้ตามคุณภาพที่เขากำหนด เช่น ยาฆ่าแมลง ที่เป็นอันตราย ต้องงด ต้องทำแบบอินทรีย์ ใช้สารเคมีให้น้อยที่สุด ใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น
ถ้าหากไม่เอาเกษตรกรเหล่านี้ไปอบรมเรียนรู้ก็จะพากันใช้สารเคมีกันอย่างเอิกเกริก ซึ่งเป็นพิษทั้งตัวเกษตรกรเอง และเป็นพิษต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาฆ่าหญ้าทั้งหลาย เกษตรกรมักง่าย ไม่สนใจว่าสารเคมีพวกนี้มีอันตรายอย่างไรบ้าง เอาความสะดวกสบายใส่ตัว ต้องเอากลุ่มเกษตรกรเหล่านี้เข้ารับการอบรมอยู่บ่อยครั้ง
ยิ่งไร่ข้าวโพดยิ่งใช้สารเคมีเยอะมาก เพราะต้องฉีดยาฆ่าหนอน ฆ่าแมลงต่างๆ ข้าวโพดต้นทุนสูง ทั้งยา ทั้งปุ๋ย ผลผลิตราคาต่ำ เกษตรกรหมดหนทาง เพราะไม่รู้จะไปทำมาหากินอะไร เพราะไม่มีทางเลือก แต่ก่อนมีคนป่วยเป็นมะเร็งกันเยอะ แต่พอสำนักงานเกษตรจังหวัดให้ปลูกส้มโอ พร้อมทั้งหาตลาดให้ เกษตรกรก็เลยโชคดีไป เวลานี้ทางอำเภอเวียงแก่นถือว่าโชคดี มีทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว
เนื่องจาก อำเภอเวียงแก่น อยู่ติดกับอำเภอเชียงของ การส่งออกส้มโอไปประเทศจีนจึงง่าย และสะดวกสบาย เพราะมีถนนสาย R.3A ไปสู่ประเทศจีนแล้ว การขนส่งก็ง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนมากมาย
ก่อนที่จะได้เงินจากส้มโอก็เป็นระยะเวลา 7-8 เดือน ระยะเวลาที่ยังขายส้มโอไม่ได้ แต่เกษตรกรต้องมีกินมีใช้เป็นรายวัน ก็ต้องทำพืชผักสวนครัว เช่น ผักชะอม พริก มะเขือ หอย ปู ปลา ต้องมีรายได้รายวันด้วย เจ้าของสวนส้มโอจะเก็บผักชะอม พริก มะเขือ ขายเป็นรายได้วันต่อวัน
สำหรับต้นพันธุ์ส้มโอทางสวนก็ตอนกิ่งขายด้วย ใครต้องการกิ่งพันธุ์ส้มโอหวานพันธุ์ทองดี และขาวแตงกวา ติดต่อได้จากตัวแทนจำหน่าย โทร. 065-842-6450 หรือติดต่อที่ คุณรวิวรรณ เพียรจันทร์ หลานกำนันสมศักดิ์ โทรศัพท์ 089-633-2765
วิธีปลูกส้มโอ
หลังจากเตรียมหลุมปลูกเรียบร้อยแล้ว นำกิ่งพันธุ์ส้มโอที่เตรียมไว้วางลงตรงกลางหลุม โดยให้ระดับของดินในถุงต้นกล้าสูงกว่าระดับดินปากหลุมเล็กน้อย หรือถ้าเป็นกิ่งตอนที่ชำแล้วให้ระดับดินที่ชำพอดีกับดินปากหลุม ใช้มีดที่คมกรีดถุงต้นกล้าจากก้นถุงขึ้นมาถึงปากถุง ทั้ง 2 ด้าน คือซ้ายและขวา เมื่อกรีดถุงแล้วให้ดึงถุงพลาสติกออก โดยระวังอย่าให้ดินแตก กลบดินที่เหลือลงหลุม กดดินบริเวณโคนต้นให้แน่นแล้วใช้ไม้ปักยึดกับลำต้น โดยปักให้ถึงก้นหลุมเพื่อป้องกันลมโยก หาวัสดุต่างๆ เช่น ฟางข้าว หญ้าแห้ง มาคลุมดินบริเวณโคนต้น รดน้ำให้ชุ่มแล้วหาวัสดุมาทำร่มเงา เช่น ทางมะพร้าวหรือกิ่งไม้ที่มีใบใหญ่มาพรางแสงแดดทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก เพื่อช่วยพรางแสงแดดให้กับส้มโอที่ปลูกใหม่ เมื่อต้นตั้งตัวได้ก็ค่อยเอาที่พรางแสงออก
เทคนิคการรดน้ำหรือกักน้ำ
ให้ออกดอกตามต้องการ
เป็นเทคนิคที่นำมาใช้ในสวนส้มโอเพื่อช่วยให้ต้นส้มออกดอก ก็เข้าสู่กระบวนการในการทำใบอ่อนให้เสมอทั่วทั้งต้น จากนั้นก็จะใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 8-24-24 พร้อมกับการฉีดพ่นสะสมอาหาร 2-3 รอบ ด้วยปุ๋ยฮอร์โมน รวมทั้งสารป้องกันกำจัดโรค และแมลงเพื่อรักษาใบอ่อนไม่ให้โดนทำลาย โดยสะสมอาหารราวๆ 2 เดือน ตั้งแต่ระยะใบอ่อนจนถึงระยะใบแก่
การกักน้ำ...จะงดน้ำราว 20-30 วัน ให้ดินแห้ง เห็นว่าใบแก่มีสีเขียวเข้ม บีบจับขยี้ใบส้มโอแล้วกรอบ แสดงว่าใช้ได้ ก็จะเปิดน้ำให้จนชุ่มฉ่ำ ใส่ปุ๋ยเคมีช่วยกระตุ้นการเปิดตาดอก ด้วยปุ๋ย สูตร 8-24-24 อีกครั้ง การฉีดพ่นเปิดตาดอกจะฉีดพ่นด้วยปุ๋ยเกล็ด สูตร 0-52-34 อัตรา 2.5-3 กิโลกรัม ต่อน้ำ 1,000 ลิตร ผสมกับพวกฮอร์โมน เช่น สาหร่ายสกัด แคลเซียมโบรอนและสารป้องกันกำจัด โดยจะฉีดกระตุ้นให้ออกดอก หรือเรียกว่า การเปิดตาดอก ก่อนการเปิดน้ำสัก 5-7 วัน 1 ครั้ง
หลัง เปิดให้น้ำอย่างเต็มที่ก็จะฉีดพ่นเปิดตาดอก ครั้งที่ 2 หากเห็นว่ามีแนวโน้มของการออกดอกให้เห็นก็ให้เลือกใช้ปุ๋ยสูตรเดิม คือ ปุ๋ยทางใบ สูตร 0-52-34 หรือหากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอากาศค่อนข้างหนาวเย็น ก็อาจจะเปลี่ยนเป็นปุ๋ยที่มีสูตรปุ๋ยตัวหน้ามาช่วยกระตุ้น
ส่วนปุ๋ยทางดิน ที่จะใส่ให้ช่วงเปิดตาดอกก็ยังคงใช้ปุ๋ยเคมีใส่ทางดิน แต่หลังจากใส่ปุ๋ยทางดินแล้ว ฉีดเปิดตาดอกทางใบแล้วยังนิ่งไม่ออกดอก ก็อาจจะใส่ปุ๋ยทางดินช่วยกระตุ้นให้อีกครั้ง เช่น ปุ๋ยเคมี สูตร 18-0-46 ใส่ให้เป็นต้นๆ ไป
…………………………………………..
พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน, มติชนสุดสัปดาห์ และศิลปวัฒนธรรม ลดราคาทันที 40% ตั้งแต่วันนี้ – 30 มิ.ย. 63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่