“บุญล้วน โพนสงคราม” เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ 2563 สาขาอาชีพไร่นาสวนผสม ยึดหลัก พอเพียง พออยู่ พอกิน พอใช้

คุณบุญล้วน โพนสงคราม อายุ 62 ปี ที่อยู่ปัจจุบัน บ้านเลขที่ 188 หมู่ที่ 8 ตำบลวังหลวง อำเภอเฝ้าไร่ จังหวัดหนองคาย มีพื้นที่ทำการเกษตรทั้งหมด 27.5 ไร่ มีการจัดสรรเป็นพื้นที่ทำนา 8 ไร่ สวนยางพารา 7 ไร่ ไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชผัก 5 ไร่ สวนไผ่เลี้ยง 2 ไร่ และไผ่บงหวาน 1 ไร่ ทำประมง 3 ไร่ เลี้ยงสัตว์ 1 งาน เรือนเพาะชำกล้าไม้ จำนวน 1 งาน มีการใช้เวลาลองผิดลองถูกอยู่นานกว่าที่จะประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้

ลุงบุญล้วน โพนสงคราม

เริ่มจาก ปี พ.ศ. 2520 เริ่มประกอบอาชีพทำนาตามฤดูกาล และเลี้ยงหมูขาดทุน ต้องกู้ยืม ธ.ก.ส. เป็นหนี้ผูกพัน

ปี พ.ศ. 2540 ต้องไปเป็นลูกจ้างรับเหมาทำถนน ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และเป็นผู้จัดการฟาร์มวีราฟลอร่าแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยศึกษาเรียนรู้ที่ศูนย์พืชสวน จังหวัดกระบี่ ในการผลิตดอกหน้าวัว

ปี พ.ศ. 2542 มีความเชี่ยวชาญในการผลิตดอกหน้าวัว ได้รับเชิญให้เป็นอาจารย์สอนพิเศษที่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เรื่องการดูแลรักษา

กิจกรรมเด่น

  1. ปรับปรุงดินลูกรังที่ขาดความอุดมสมบูรณ์ ด้วยปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ และใช้วิธีห่มดินด้วยหลักการของ “โคก หนอง นา โมเดล” จนสามารถปลูกพืชได้
  2. นำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เช่น การหมักฟางข้าวกับปุ๋ยคอกหน่อกล้วยให้เกิดแพลงตอน เพื่อเป็นอาหารปลา ลดค่าอาหารปลา จาก 12,000 บาท/บ่อ เหลือ 5,000 บาท/บ่อ และทำปุ๋ยหมัก น้ำหมักชีวภาพ เชื้อจุลินทรีย์
  3. เพิ่มผลผลิตข้าวโดยใช้วิธีตัดต้นข้าวระยะแตกกอพร้อมต้นหญ้าในแปลง แล้วใส่ปุ๋ยอินทรีย์ ต้นข้าวจะเจริญเติบโตเร็วกว่าต้นหญ้า ผลผลิตเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 380 ถัง/ไร่ เป็น 400 กิโลกรัม/ไร่
  4. มีการวางแผนผังฟาร์มดี สะดวกในการดูแลเก็บเกี่ยวผลผลิต และจดบันทึกบัญชีฟาร์ม/บัญชีครัวเรือนสม่ำเสมอ
  5. วางแผนการผลิตได้เหมาะสมกับกายภาพของดิน และสอดคล้องกับความต้องการของตลาด
  6. ไม่ใช้สารเคมี ไม่เผาตอซัง ไถกลบตอซัง ใช้ทรัพยากรดินอย่างมีประสิทธิภาพเกิดประโยชน์สูงสุด เช่น ปลูกพืชหมุนเวียน และพืชหลังนา
  7. ยื่นขอใบรับรองแหล่งผลิต GAP พืช 5 ชนิด กับกรมวิชาการเกษตร (ไผ่เลี้ยง กล้วยน้ำว้า เงาะนาสาร มะนาว ตะไคร้)
  8. จัดตั้งกลุ่มปลูกพืชปลอดภัยจากสารพิษ และจัดตั้งกลุ่มเกษตรอินทรีย์ปลูกข้าวอินทรีย์
  9. เป็นประธาน ศพก.จังหวัดหนองคาย ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว และเป็นสมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกล้วยหอมทอง

ซึ่งนอกจากจะให้ความใส่ใจกับการปลูกพืชเลี้ยงสัตว์แล้ว คุณบุญล้วนยังมีกิจกรรมลดรายจ่ายในครัวเรือนเพิ่มเข้ามาอีกด้วย

 

การลดรายจ่ายในครัวเรือน

  1. นำวัสดุที่เหลือใช้ทางการเกษตรมาทำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์ น้ำหมักชีวภาพ จุลินทรีย์จากหน่อกล้วย สารสกัดจากสมุนไพร และอาหารปลา
  2. จัดระบบการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ได้อย่างเหมาะสมกับพื้นที่
  3. ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ โดยกินทุกอย่างที่ปลูก ปลูกทุกอย่างที่กิน
  4. ขยายโอกาส โดยจัดตั้งกลุ่มเกษตรอินทรีย์ผลิตข้าว กข 12 รักษาประเพณีลงแขกทำนาเกี่ยวข้าวและเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้ขยายพันธุ์เองอีกด้วย