ชายวัยเกษียณ ทำเกษตรพื้นที่ 2 ไร่ มีผลผลิตไว้กิน ส่วนที่เหลือขายทำเงิน

ปัจจุบัน การทำเกษตรในยุคนี้ไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยาก จะเห็นได้จากหลายๆ ท่าน ได้มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่น้อยมาสร้างสวนเกษตรให้กับตัวเอง อย่างเช่น นำพืชผักสวนครัวที่ใช้ประกอบอาหารมาปลูกพืชเอง เพื่อเป็นการช่วยประหยัดต้นทุนด้วยอีกช่องทาง ซึ่งการปลูกพืชนอกจากจะได้ผลผลิตแล้ว สิ่งที่ได้ตามมานั้นก็คือความสุข จึงทำให้เวลานี้ผู้ที่เกษียณจากงานประจำหันมาทำเกษตรมากขึ้น อย่างน้อยถ้าไม่ได้ทำเพื่อจำหน่าย หรือเกิดรายได้ถึงขนาดเลี้ยงตัวเองได้ แต่ก็ทำเป็นกิจกรรมยามว่าง สร้างความเพลิดเพลินและคลายเหงา

คุณศิริชัย พุ่มพฤกษา

คุณศิริชัย พุ่มพฤกษา อยู่บ้านเลขที่ 192 ซอยรามอินทรา 8 ถนนรามอินทรา แขวงจรเข้บัว ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร ได้เตรียมงานทางด้านการเกษตร โดยใช้พื้นที่ที่มีอยู่ภายในเมืองใหญ่ มาทำเกษตรหลังจากเกษียณงานประจำออกมา ทำให้ในช่วงที่เกิดการระบาดของเชื้อโควิด-19 เขาได้มีเวลาทำสวนมากขึ้น ทำให้ไม่เกิดความเครียด และมีพืชผักสวนครัวที่ปลูกเองไว้ประกอบอาหารในแต่ละวัน โดยที่ไม่ต้องออกไปยังแหล่งซื้อขายพบเจอผู้คนหนาแน่นเพื่อเป็นการสัมผัสเชื้อโควิด-19

พื้นที่ภายในสวน

คุณศิริชัย เล่าให้ฟังว่า เป็นคนต่างจังหวัดมาแต่กำเนิด ต่อมามีโอกาสได้เข้ามาทำงานในกรุงเทพมหานคร จึงทำให้ในเรื่องของการทำเกษตรนั้นยังอยู่ในความคิดเสมอ เมื่อมีโอกาสใกล้จะเกษียณจากงานประจำเป็นพนักงานธนาคาร ได้เห็นพื้นที่บ้านยังไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์มากนัก จึงได้เกิดแนวคิดที่อยากจะหาไม้ผลและพืชผักสวนครัวเข้ามาปลูก เพราะปล่อยให้เป็นพื้นที่ที่รกร้างมาถึง 20 ปี ทำให้เมื่อประมาณปลายปี 2562 จึงเป็นจุดเริ่มต้นนำพื้นที่บริเวณนั้นมาปลูกพืชแบบเกษตรอินทรีย์ เพื่อสร้างผลผลิตทางการเกษตรไว้กินเอง และแจกจ่ายเพื่อนๆ หรือถ้ามีในปริมาณที่มากกว่านั้นก็จำหน่ายเป็นรายได้เล็กๆ น้อยๆ

“พอเราตัดสินใจว่าจะนำพื้นที่มาใช้ประโยชน์ ก็ต้องเตรียมการให้พร้อม เนื่องจากในเนื้อที่ของเรายังไม่มีบ่อน้ำ ดังนั้นเราต้องขุดบ่อน้ำเตรียมไว้ เพราะนอกจากจะช่วยรดน้ำพืชผักในสวนได้แล้ว ยังสามารถนำปลามาปล่อยเลี้ยงได้อีกด้วย เมื่อปลาในบ่อน้ำโตเราก็มีอาหารที่ครบวงจร ทำให้การทำเกษตรบนเนื้อที่เกือบ 2 ไร่ของเราสมบูรณ์ เรามีการแบ่งโซนการทำเกษตรอย่างชัดเจน แบ่งปลูกไม้ผล แปลงพืชผักสวนครัว และบ่อน้ำไว้ใช้หน้าแล้ง” คุณศิริชัย เล่าถึงที่มา

ไม้ผลที่ปลูกอยู่ขณะนี้หลักๆ จะเป็นส้มโอ กล้วย มะม่วง และมะนาว ส่วนพืชอื่นๆ ที่ปลูกไว้ทานก็จะมีข้าวโพด ถั่วฝักยาว ฟักทอง และพืชผักสวนครัวอีกหลากหลาย ทำให้เมื่อมีผลผลิตออกมาแต่ละช่วง มีพืชผักสลับหมุนเวียน นำมาประกอบอาหารได้เป็นระยะ เหมือนเป็นการทำเกษตรที่ชอบกินอะไร ก็เลือกปลูกสิ่งนั้นในพื้นที่ของตนเอง เพราะนอกจากจะช่วยลดต้นทุนในการซื้อวัตถุดิบเข้ามาประกอบอาหารแล้ว ยังเพิ่มความสุขจากสิ่งที่ได้ทำ

คุณศิริชัย เล่าถึงหลักการปลูกพืชในพื้นที่ของเขาว่า เนื่องจากในปัจจุบันปัญหาสุขภาพเป็นสิ่งที่ทุกคนเริ่มใส่ใจมากขึ้น จึงทำให้เขา เมื่อได้มาปลูกพืชผักสวนครัวเอง จึงเน้นในเรื่องของการปลูกที่ปลอดภัยโดยไม่ใช้สารเคมี คือใช้ปุ๋ยคอกมาช่วยปรับปรุงบำรุงดินและสร้างปุ๋ยหมักสูตรต่างๆ ที่ได้ศึกษามาจากสื่อโซเชียลต่างๆ ไว้ใช้เอง จึงทำให้มั่นใจได้ว่าพืชที่ปลูกปลอดภัยจากสารเคมีอย่างแน่นอน

“เดี๋ยวนี้ต้องบอกเลยว่าข้อมูลต่างๆ ค่อนข้างหาได้ง่าย เพราะฉะนั้นบอกเลยว่าการหาองค์ความรู้ต่างๆ สื่อออนไลน์นี่สะดวกมาก ผมก็จะดูจากยูทูปบ้าง เพราะว่าเราอยากเรียนรู้อะไรก็สามารถค้นคว้าได้ทันที จากนั้นเราก็นำสิ่งที่เราศึกษามาทดลองว่าสามารถใช้รวมกับพื้นที่ของเราได้มากน้อยเพียงใด เพราะว่าข้อมูลบางอย่าง เอามาใช้กับพื้นที่ของเราอาจจะไม่เหมาะสมก็ได้ ดังนั้นองค์ความรู้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการผลิตปุ๋ยหมัก หรือว่าการปลูกพืช เราต้องนำมาทดลองให้หมด เพราะว่าบางทีสิ่งที่เราไปศึกษาอาจจะนำมาใช้ และไม่เหมาะสมกับพื้นที่ของเราก็ได้ เพราะฉะนั้นยุคนี้มีสื่อออนไลน์เยอะก็จริง แต่ต้องศึกษาและนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับพื้นที่ให้มากที่สุด” คุณศิริชัย บอก

ส่วนในเรื่องของการทำตลาดนั้น คุณศิริชัย บอกว่า ในช่วงแรกที่คิดมาทำเกษตรยังไม่ได้มีความคาดหวังว่าจะต้องซื้อขายและมีการตลาดทันที เพราะพื้นที่ที่ทำยังมีปริมาณที่ยังไม่มากพอ แต่จะเน้นเมื่อมีผลผลิตแล้วจะแจกจ่ายญาติพี่น้องหรือเพื่อนบ้านก่อน โดยการทำเกษตรของเขานั้นไม่ได้ต้องการทำเพื่อร่ำรวย แต่เน้นสร้างความสุขเป็นสำคัญ เพราะตัวเขาเองเป็นคนต่างจังหวัด ในเรื่องของการปลูกผักและไม้ผลต่างๆ จึงอยู่ในสายเลือดของเขา

จากสถานการณ์ขณะนี้มีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จึงทำให้มีการประกาศของรัฐบาลออกมาว่า ให้ประชาชนทุกคนอยู่บ้านหยุดเชื้อ เพื่อชาติ เพราะการต้องออกไปนอกบ้านนั้นเป็นการนำตัวเองไปเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ดังนั้น การมีสวนพืชผักสวนครัวอยู่ภายในบ้าน จึงเป็นเรื่องที่ตอบโจทย์สำหรับเขามากที่สุด โดยที่เขาไม่ต้องออกไปจากบ้านเพื่อสัมผัสเชื้อ แต่สามารถใช้ผลผลิตทางการเกษตรที่ปลูกเองอยู่บริเวณบ้านมาประกอบอาหาร นอกจากจะประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว เขายังมีความสุขกับสิ่งที่ได้ทำอีกด้วย

“พอได้เกษียณแล้วมาทำเกษตร ผมต้องบอกเลยว่า ชีวิตผมมีความสุขมาก เราได้เดินดูแลต้นไม้ในทุกๆ วัน เราได้ทำในสิ่งที่เรารัก และสิ่งช่วงที่โควิดระบาด เราไม่สามารถเดินทางออกไปไหนได้ มันก็อาจทำให้รู้สึกเบื่อรู้สึกเครียดได้ แต่การมาปลูกต้นไม้ทำให้เรามีความสุขแม้ต้องกักตัวอยู่กับบ้านก็ตาม แต่เรามีงานเกษตรให้ทำผ่อนคลาย พอผลผลิตเริ่มทยอยออก ช่วงแรกเราก็นำมาทำอาหารทานเองก่อน พอมากเข้าทำไม่ทันก็ค่อยๆ แจกเพื่อนบ้าน ส่วนที่มีคุณภาพเป็นผลผลิตที่ดีอย่างไม้ผล ก็สามารถขายได้เช่นกัน ดังนั้นจึงถือว่าการทำเกษตรสามารถทำได้จริง และสามารถสร้างความสุขไปพร้อมๆ กันได้” คุณศิริชัย บอก

สำหรับท่านใดที่สนใจอยากจะทำเกษตรและมีพื้นที่น้อย คุณศิริชัย บอกว่า อย่าเพิ่งไปคิดว่ามีพื้นที่น้อยหรือมากจะทำไม่ได้ เพราะการทำเกษตรหากตั้งใจที่จะทำจริงๆ ก็สามารถทำได้สำเร็จและไม่ยาก ถึงมีพื้นที่น้อยก็สามารถทำได้อย่างไม่สะดุด เหมือนอย่างเช่นเขาที่ทำเพราะเกิดจากความสุข และทำผลผลิตออกมาให้ได้ดีที่สุด ก็จะช่วยให้ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพและจำหน่ายได้ราคาและเกิดรายได้เองในที่สุด

สนใจในเรื่องของการปลูกผัก และต้องการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิด สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณศิริชัย พุ่มพฤกษา หมายเลขโทรศัพท์ (086) 087-0358

…………………………………………………………………………………………………………………………..

พิเศษ! สมัครสมาชิกนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน, มติชนสุดสัปดาห์ และศิลปวัฒนธรรม ลดราคาทันที 30% ตั้งแต่วันนี้ –  15 ก.ย. 63 เท่านั้น! คลิกดูรายละเอียดที่นี่