มะม่วงต่างประเทศพันธุ์ใหม่ในไทย “รสชาติสากล ตลาดสดใส คนทั่วไปนิยม”

มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง

ผ่านไปแล้ว งานเสวนามะม่วง ที่ทางนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านได้จัดขึ้น ในวันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา ณ ห้องโถง มติชนอคาเดมี  โดยหัวข้อในการเสวนาครั้งนี้คือ มะม่วงต่างประเทศพันธุ์ใหม่ในไทย “รสชาติสากล ตลาดสดใส คนทั่วไปนิยม” ถึงแม้ว่างานเสวนาจะจบลงไปแล้ว แต่ทางนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านไม่ลืมที่จะหยิบยกเนื้อหาสาระบางช่วงบางตอนมาให้แฟนๆ ได้อ่านกัน

มะม่วงหลากหลายสายพันธุ์ที่นำมาโชว์ภายในงาน
มะม่วงหลากหลายสายพันธุ์ที่นำมาโชว์ภายในงาน

มะม่วงสายพันธุ์ต่างประเทศ สามารถตอบโจทย์เกษตรกร ทั้งในปัจจุบันและอนาคตได้ไหม และการที่จะทำให้ตอบโจทย์ได้ ควรทำอย่างไร มีวิธีการทำอย่างไร

คุณวารินทร์ ชิตะปัญญา
คุณวารินทร์ ชิตะปัญญา

ก่อนอื่นต้องขอแนะนำผู้ให้ความรู้กับการเสวนาครั้งนี้ คุณวารินทร์ ชิตะปัญญา ผู้ผลิตมะม่วง อาร์ทูอีทู ส่งไปต่างประเทศ ปลูกมาหลายสายพันธุ์ มาลงตัวที่สายพันธุ์ อาร์ทูอีทู

คุณทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ
คุณทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ

คุณทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ นักพัฒนาไม้ผลยุคใหม่ มาในฐานะเจ้าของสวนคุณลี ระยะหลังผันตัวเองมาทำสวนมากขึ้น มะม่วงที่ปลูกจะนำมาจากต่างประเทศ มีการนำมาทดสอบว่าปลูกบ้านเราเป็นอย่างไร และมีมะม่วงหลายแปลง แต่เปลี่ยนเป็น อาร์ทูอีทู แล้ว และยังมีมะม่วงสายพันธุ์อื่นๆ ด้วย

งานเสวนาครั้งนี้ ดำเนินรายการโดย คุณเสาวลักษณ์ สวัสดิ์กว้าน ผู้ช่วยบรรณาธิการ นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน

บรรยากาศภายในงานเสวนามะม่วง
บรรยากาศภายในงานเสวนามะม่วง

 

อาร์ทูอีทู 50 ไร่

คุณวารินทร์ ปลูกมะม่วง อาร์ทูอีทู อยู่ที่จังหวัดระยอง จำนวน 50 ไร่ เริ่มปลูกตั้งแต่เมื่อไหร่ ใช้เวลากี่ปี

มะม่วง อาร์ทูอีทู มีมาให้ชิมที่งานเสวนา
มะม่วง อาร์ทูอีทู มีมาให้ชิมที่งานเสวนา

“ดั้งเดิมผมปลูกมะม่วงแบบเพื่อนบ้านทั่วๆ ไป มีมะม่วงอกร่อง น้ำดอกไม้ มะม่วงเปรี้ยวธรรมดา ต่อมาก็มีการศึกษาเดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศ ทำให้เริ่มมีความคิดที่กว้างขวาง ผมปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง 650 ต้น ในพื้นที่ประมาณ 15 ไร่ แต่พอมาถึงช่วงหนึ่งผ่านมา 10 ปี ได้แล้ว ผมมองว่ามะม่วงน้ำดอกไม้สีทองในอนาคตจะไม่ดีเท่าไหร่ ผมจึงเปลี่ยนมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองโดยการเสียบยอดเป็นพันธุ์ อาร์ทูอีทู ทั้งหมด ซึ่งตรงกับแนวคิดที่เราคิดเอาไว้ ปัจจุบัน ผมถือว่าไปได้ดีในการทำมะม่วง แรกๆ เราก็ส่งมะม่วงพันธุ์อาร์ทูอีทู มาลองตลาด ส่งไปที่ ตลาด อ.ต.ก. ตลาดวิลล่ามาร์เก็ต เดอะมอลล์ ท็อปส์ แต่เป็นไปไม่ได้ที่มะม่วงจะมีเกรดดีทุกลูก ทีนี้เราจะไปส่งให้ใคร เพราะห้างต้องรับแต่ของเกรด เอ อยู่แล้ว แต่ผมได้พ่อค้าจีนเขามารับซื้อ มีเท่าไหร่ก็รับ มีรถมารับถึงหน้าสวน ราคาก็ดีเหมือนที่เราขับมาส่งที่ตลาด อ.ต.ก. เพราะฉะนั้นเราถือว่าเราได้เดินถูกทางแล้ว และเขาก็ต้องการมากพันธุ์นี้ ผมจะไปขายให้พ่อค้าคนอื่น ทางพ่อค้าที่รับซื้อเราเป็นประจำก็ขอไว้ว่าอย่าขายให้คนอื่นอีกด้วย” คุณวารินทร์ กล่าว

 

จุดเปลี่ยนและแนวคิด

ที่ลาออกจากราชการ

มาทำสวนมะม่วง

คุณวารินทร์ เล่าว่า หลังจากบิดาเสียชีวิต ตนเองได้ไปบวช ขณะที่บวชก็ได้เจออะไรหลายๆ อย่าง เริ่มคิดว่า เราต้องกลับไปอยู่กับแม่ ไม่อยากปล่อยให้แม่อยู่กับน้อง 2 คน เลยพร้อมที่จะลาออกจากข้าราชการ เพราะเขาเป็นพี่ชายคนโต และประจวบเหมาะกับที่คุณวารินทร์มีแนวคิดที่จะทำเกษตรอยู่นานแล้ว โดยช่วงแรกคุณวารินทร์เริ่มทำเกษตรแบบชาวบ้านทั่วไป ปลูกมันสำปะหลัง ซึ่งมันสำปะหลังเป็นพืชล้มลุกในท้องถิ่น ขายง่าย เพราะมีโรงงานรับซื้อ พอปลูกไปเรื่อยๆ กลับพาคุณวารินทร์ล้มลุกไปด้วย คุณวารินทร์จึงเริ่มเปลี่ยนแนวคิดหันมาทำน้อยหน่า ปี 2520 โดยถือว่าคุณวารินทร์เป็นคนแรกที่ทำน้อยหน่าเชิงการค้า ให้ออกปีละ 2 ครั้ง

คุณวารินทร์ เป็นคนชอบเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ พอหมดน้อยหน่า ก็ปลูกมะนาว ชมพู่ พุทรานมสด และปลูกมะม่วง คุณวารินทร์ได้มะม่วงสายพันธุ์อาร์ทูอีทู มาจากออสเตรเลีย ปี 2532 มาลองปลูกได้ 3 ปี จึงรู้เลยว่า มะม่วงพันธุ์อาร์ทูอีทูในอนาคตน่าจะเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค เพราะด้วยรสชาติที่ไม่หวานมาก และในออสเตรเลียนักวิชาการเขามองว่าเขาจะลดเรื่องความหวาน และเรื่องการตลาดคุณวารินทร์มองว่าที่ต่างประเทศเขามีความชำนาญกว่า เราอาจจะสู้ของเขาไม่ได้ เช่น มะม่วงสีแดงของเขาจะแดงกว่าเรา เพราะมีสภาพภูมิอากาศไม่เหมือนกัน และเทคโนโลยีเขาอาจจะเหนือกว่าเรา

“การที่มะม่วง อาร์ทูอีทู จะออกในบ้านเรา จะเริ่มออกต้นเดือนมีนาคม และหมดกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นประโยชน์กับเรา เพราะในช่วงที่ออก มะม่วงได้โดนแดด เพราะถ้าโดนแดดจะทำให้สีขึ้น เมื่อส่งไปตลาดต่างประเทศก็จะตอบโจทย์ได้ดี และแนะนำให้ทำมะม่วง อาร์ทูอีทู เพื่อการส่งออกจะดีกว่า เพราะมะม่วงพันธุ์นี้หวานน้อย อาจจะไม่ค่อยถูกปากคนไทย” คุณวารินทร์ กล่าว

 

ที่พิจิตร เน้นมะม่วงไต้หวัน

“ผมได้เปลี่ยนมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองเป็น อาร์ทูอีทู หมดแล้ว และเนื่องจากผมเป็นสื่อมวลชน จึงได้มีโอกาสไปดูงานที่ต่างประเทศหลายครั้ง ประเทศที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นแบบอย่างได้ดีคือ ไต้หวัน ได้ไปเห็นมะม่วงในแปลงของเขา ตอนนั้นไม่ได้เตรียมอะไรไปเลย ต้องขโมยยอดกลับมาบ้าน เพื่อเอามาเสียบยอด พอเสียบยอดเรียบร้อยแล้ว ต้องรอ เอายอดมาแปะกับมะม่วงพันธุ์อะไรก็ได้ ถ้าภาษาชาวบ้านเรียกว่าฝากท้อง ใช้ระยะเวลา 2-3 ปี อันไหนออกก่อน เราก็ดูไปอันนี้คือ พันธุ์ T1 และสิ่งที่ผมไม่ชอบคือ คนที่ได้พันธุ์มะม่วงมาแล้วชอบเปลี่ยนชื่อ ซึ่งทำให้คนปลูกสับสน สมัยก่อนบอกพันธุ์ยู่เหวิน ต่อมาเปลี่ยนเป็นแดงจักรพรรดิ จริงๆ แล้วคือพันธุ์เดียวกัน ตอนหลังผมเริ่มขยายพื้นที่เสียบมากขึ้นเพราะว่าสวนผมตอนนี้ทาง ททท.  ยกให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรด้วย ก็ต้องมีความหลากหลาย จึงเปลี่ยนสายพันธุ์มะม่วง จริงๆ มะม่วง T2 เป็นมะม่วงที่ผมรักมากที่สุด จะพยายามไม่ขายพันธุ์เลย เพราะว่าผมจะทำตลาดพรีเมี่ยมในวันข้างหน้า เพราะมะม่วง T2 สีแดง ไม่เหี่ยว” คุณทวีศักดิ์ กล่าว

 

ทำไม มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง

มีการส่งออกเยอะ

แต่เกิดปัญหาในระดับเกษตรกร

“โดยส่วนตัวผมคิดว่า ในอนาคตถ้าจะปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองเชิงการค้า อยากให้ชะลอการปลูกไว้ก่อน เพราะน้ำดอกไม้เป็นกระแสมีการส่งออกมาก ต้องคิดว่าของที่ทำง่ายๆ จะล้นตลาด มะม่วงต้องการคนเอาใจใส่ อ่านตำรา ถึงจะไปได้ ในขณะเดียวกันต้องมีการรวมกลุ่มปรึกษาคนที่เขาทำส่งออก แล้วได้ผลดี เขาทำยังไง เราต้องเรียนรู้” คุณวารินทร์ กล่าว

คุณทวีศักดิ์ มีข้อสังเกตอะไรที่เกี่ยวกับน้ำดอกไม้สีทองบ้าง ที่จังหวัดพิจิตร เป็นพื้นที่ปลูกน้ำดอกไม้สีทองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ราคาน้ำดอกไม้สีทองจะดีเฉพาะคนที่ทำคุณภาพ เขามองว่าเกษตรกรรายย่อยจะแย่ ถ้ายังคิดจะทำน้ำดอกไม้สีทอง เพราะฉะนั้นถ้าจะทำน้ำดอกไม้สีทอง ผมแนะนำให้ทำแค่บางส่วน ควรจะเปลี่ยนเป็นมะม่วงสายพันธุ์อื่นบ้าง เพราะฉะนั้นคนที่ตัดสินใจจะปลูกมะม่วงในอนาคต น้ำดอกไม้สีทองไม่น่าจะเป็นสายพันธุ์หลักในอนาคต เพราะคนปลูกมาก และการปลูกมะม่วงในบ้านเรายังอยู่ในกระแสแบบเดิมอยู่ คือฮือฮาตามกัน ไม่ใช้การตลาดนำการผลิต นิยมปลูกมะม่วงตามใจตนเอง เราไม่ได้เป็นผู้บริโภคนะครับ เราเป็นผู้ขาย มะม่วง อาร์ทูอีทู ไม่ต้องทำตลาดต่างประเทศเลย ออสเตรเลียทำตลาดให้เราอยู่แล้ว เราเพียงเข้าไปแทรก” คุณทวีศักดิ์ กล่าว

 

สถานการณ์มะม่วงในประเทศ

“ที่ทางกรมส่งเสริมการเกษตรคำนวณไว้กว่า 2 ล้านไร่ ก็มากที่สุดในบรรดาไม้ผลทั้งหมด ต้องตอบตัวเองว่า ปลูกมะม่วงจะขายให้ใคร ส่งให้ใคร สำหรับผมมีคำตอบแล้ว พื้นที่ส่วนหนึ่งปลูก อาร์ทูอีทู ผมจะขายใคร ผมก็ทำคุณภาพตามที่เขาต้องการ” คุณทวีศักดิ์ กล่าว

คุณวารินทร์ บอกว่า ต่อไปในอนาคตรุ่นลูกรุ่นหลานจะมีการเปลี่ยนแปลงการบริโภค จะเปลี่ยนแปลงไปทางสากลมากขึ้น เราควรมองแบบนี้ด้วย อย่ามองว่าเราพอใจจะกินมะม่วงอกร่อง ก็จะปลูกอกร่องอย่างเดียว แต่บางทีผู้บริโภคเขาไม่ได้ชอบเหมือนเรา อย่างพันธุ์ อาร์ทูอีทู ผมปลูกมีแขกมาเยี่ยมที่บ้าน เขาเรียนที่ต่างประเทศ ผมลองเอามะม่วง อาร์ทูอีทู ให้เขากิน เขาชอบมาก เขาถามว่ามะม่วงนี้คือสายพันธุ์อะไร อร่อย เขาไม่เคยกิน นี่เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผมมองว่าแนวโน้มในอนาคตคนรุ่นใหม่ๆ จะมีการเปลี่ยนแปลงการบริโภคมะม่วง เพราะฉะนั้นถ้าเผื่อเรามีแนวคิดที่เหนือกว่า เราก็ลองดูมะม่วงยังไปได้ ยังไม่ถือว่าเป็นทางตัน แต่ควรเลือกพันธุ์ปลูกให้เป็นสากล แต่มะม่วงที่มีกลิ่นขี้ไต้แรงๆ ก็ไม่ควรปลูก เพราะมะม่วงที่เหม็นกลิ่นขี้ไต้ในไทยจะไม่นิยม

ตลาด จะเป็นอย่างไร

คุณทวีศักดิ์ “ผมแนะนำให้แบ่งพื้นที่การปลูก มะม่วงจินหวงจะนิยมมากทางภาคเหนือ ลองสังเกตล้งมะม่วงที่พิจิตร จะเห็นได้ว่ามีล้งเยอะมาก เพราะฉะนั้นคนปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้ก็ปลูกไป แต่อย่าขยายเพิ่ม ให้ปลูกมะม่วงพันธุ์อื่นแทรกไป ยกตัวอย่างเช่น อาร์ทูอีทู เพราะการซื้อขายง่าย ดูแลง่าย แต่จะติดตรง อาร์ทูอีทู ออกดอกยาก”

คุณวารินทร์ “มะม่วงจะไม่ล้นตลาด แต่มะม่วงต้องมีคุณภาพ ผิวสวย มะม่วงที่ควรลดคือ มะม่วงที่ขาดการดูแล ปัจจุบันคนจีนมีกำลังซื้อมาก มะม่วงอาร์ทูอีทูขายที่กวางโจว ประเทศจีน คิดเป็นเงินไทย ตกลูกละประมาณ 400-500 บาท แต่คนจีนก็มีกำลังซื้อ”

 

ปัจจุบัน และอนาคต?

“ถ้าคิดเป็น น้ำดอกไม้ 100 เปอร์เซ็นต์ จะมี อาร์ทูอีทู 5 เปอร์เซ็นต์ มะม่วงไต้หวันแทรกเข้ามา 2-3 เปอร์เซ็นต์ มะม่วงไต้หวันที่ปลูกกันเยอะที่สุดตอนนี้ น่าจะเป็น พันธุ์จินหวง อาร์ทูอีทู มีปลูกกระจัดกระจายมากขึ้น แต่ก็ยังสามารถขยายได้ เปลี่ยนใจกลับไปเปลี่ยนยอดน้ำดอกไม้สีทองเป็น อาร์ทูอีทู ยังทัน น้ำดอกไม้สีทองไม่ควรขยายเพิ่มเติม แต่ถ้าหากท่านใดทำอยู่แล้ว คือต้องทำให้สวย ได้คุณภาพส่งออก” คุณทวีศักดิ์ กล่าว

 

ทิศทางมะม่วงสายพันธุ์ไทย

ยังน่าสนใจอยู่หรือไม่

คุณทวีศักดิ์ กล่าวว่า ผมเห็นข่าวล่าสุด ญี่ปุ่นมีการรับมะม่วงเขียวเสวยและมหาชนก เพราะฉะนั้นมะม่วงเขียวเสวยก็มีช่องทางการตลาดของตัวเองอยู่ เพราะผมได้คุยกับทางห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ว่าส่งสินค้าให้เขา มีขนาด 200-300 กรัม ขึ้นไป ในตลาดทางเวียดนาม มาเลเซีย ยังมีช่องทางการตลาดอยู่ เขียวเสวยก็ยังออกดอกยาก ต้องการน้ำเยอะ ส่วนมหาชนกต้องดูแนวโน้มว่าปลูกทางนี้จะสู้ของทางภาคเหนือได้ไหม

 

ปลูกมะม่วงไว้กินเอง

ที่บ้าน ต้อง ขาวนิยม

คุณวารินทร์ แนะนำว่า ถ้าปลูกไว้กินเองต้องขาวนิยม ดั้งเดิมชื่อ น้ำดอกไม้มัน แต่ถูกทักท้วงเลยต้องเปลี่ยนชื่อพันธุ์เป็นขาวนิยม มะม่วงพันธุ์นี้ลักษณะใบเหมือนเขียวเสวย แต่ถ้าปลูกจะได้กินถึง 3 ระยะ ถ้าทำมะม่วงน้ำปลาหวานนี้เหมาะเลย แม้กระทั่งทะวายเดือนเก้าก็เทียบไม่ได้ ถ้าจะปลูกมะม่วงทะวายเดือนเก้าให้หยุดเลย เพราะถูกมะม่วงทางเขมรมาตีตลาดหมดแล้ว ขาวนิยมทิ้งได้ระยะหนึ่งจะแก่ และผลสุกกินกับข้าวเหนียวมะม่วงยังได้เลย มีที่ไม่มากถ้าคิดจะปลูกให้ปลูกขาวนิยม หรือน้ำดอกไม้มัน คือตัวเดียวกัน ส่วนถ้าจะปลูก อาร์ทูอีทู ไม่ต้องกลัวขาดทุนถ้าทำดีๆ

 

แนะนำสำหรับท่านที่จะปลูก

มะม่วงพันธุ์ไทย เชิงการค้า

คุณวารินทร์ กล่าวว่า สายพันธุ์น้ำดอกไม้มันตลาดเริ่มรู้จักแล้ว มันขุนศรีก็ถือว่าเป็นมะม่วงที่น่าปลูกสีสันสวย ตลาดให้ผลตอบรับดีพอสมควร มันขุนศรีเป็นสายพันธุ์ผสมระหว่างเขียวเสวยกับศาลายา จะออกดอกง่ายกว่าเขียวเสวย

คุณทวีศักดิ์ “โดยส่วนตัวผมชอบเขียวเสวย ถ้าปลูกกินเองในบ้าน เชิงการค้าถ้าในตลาดใหญ่ อาร์ทูอีทู อยู่ในดวงใจเลย เน้นมะม่วงที่มีสีสันในอนาคต และไม่มีกลิ่นขี้ไต้”

หากใครสนใจเริ่มต้นปลูก

มะม่วงในเชิงการค้า ควรทำ

อย่างไร และต้องมีพื้นที่เท่าไหร่

“ท่านที่จะปลูกต้องมีพื้นที่พอสมควร ต้องมีแหล่งน้ำ ถ้ามีเครือข่าย สัก 50 ไร่ขึ้นไปจะดีมาก ถ้าติดขัดมีปัญหาก็ให้สอบถามไปหาคนที่เขามีประสบการณ์ ต้องมีความตั้งใจและอดทน” คุณวารินทร์ กล่าว

สำหรับคุณทวีศักดิ์แนะนำให้ปลูกเมล็ดก่อนแล้วเปลี่ยนยอดทีหลัง ไม่ควรยึดอยู่กับพันธุ์เดียว เรื่องคุณภาพการดูแลรักษาก็สำคัญ…คนที่ปลูกเยอะๆ เขาแนะนำให้ปลูกเมล็ดไปก่อนเลย ใช้มะม่วงตลับนาคแล้วก็มาเปลี่ยนยอดทีหลัง ปลูกเมล็ดไปก่อน เพราะจะทำให้รากแก้วแข็งแรง แล้วค่อยเปลี่ยนยอด

คุณวารินทร์ ชิตะปัญญา อยู่อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง โทร. (081) 905-9223

คุณทีศักดิ์ ชัยเรืองยศ ประธานชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตร จังหวัดพิจิตร โทร. (081) 901-3760

คุณสุรศักดิ์ ศรีอำนวย มาจากกาญจนบุรี รวมมะม่วงไว้ 70 พันธุ์
คุณสุรศักดิ์ ศรีอำนวย มาจากกาญจนบุรี รวมมะม่วงไว้ 70 พันธุ์

ขอบพระคุณ คุณสุรศักดิ์ ศรีอำนวย เจ้าของ “บ้านสวนไม้ดี” จังหวัดกาญจนบุรี โทร. (089) 929-6305, (081) 309-6786 ที่นำพันธุ์มะม่วงมาแสดงกว่า 30 สายพันธุ์ พร้อมกับนำกิ่งพันธุ์มะม่วงมาแจกผู้เข้าร่วมเสวนาฟรี จำนวน 80 กิ่ง

 

คุณสุรศักดิ์ ปลูกและขยายพันธุ์มะม่วงในพื้นที่ 60 ไร่ มีพันธุ์มะม่วงในความครอบครอง 70 พันธุ์ ผู้สนใจก็ถามไถ่กันได้ตามอัธยาศัย ตามเบอร์โทรศัพท์ที่ให้ไว้