ผักกาดขาวปลี พืชอายุสั้นทำเงินไว ผลผลิตดีตรงสเป็คแม่ค้า สร้างผลกำไรทั้งปี

“ผักกาดขาวปลี” ผักใบใหญ่ ต้นขาว อวบ กินง่ายและอยู่ในหลายเมนูประจำบ้านของคนไทย หากินได้ทุกฤดูกาล ถือเป็นเป็นพืชผักเศรษฐกิจ ที่มีความต้องการของตลาดต่อเนื่องทั้งปี ปัจจุบันมีเนื้อที่เพาะปลูกผักกาดขาวปลีประมาณ 30,816 ไร่ ครอบคลุม 31 จังหวัด โดยแหล่งเพาะปลูกสำคัญ ได้แก่ เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ พิษณุโลก กาญจนบุรี และตาก ทั้งนี้ แม้ว่า จ.กาญจนบุรี มีพื้นที่ปลูกมากเป็นอันดับ 4 แต่มีผลผลิตสูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศ เฉลี่ย 3,734 กิโลกรัม/ไร่ (ข้อมูล : กรมส่งเสริมการเกษตร : พฤศจิกายน 2561)

ผักกาดขาวปลีเป็นพืชที่เกษตรกรนิยมปลูก เนื่องจากเป็นพืชอายุสั้น ให้ผลผลิตเร็วเพียง 40-45 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตและจำหน่ายสู่ตลาด สามารถสร้างรายได้เร็ว ซึ่งครั้งนี้จะพาไปล้วงเคล็ดลับการปลูกผักกาดขาวปลีใน อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี กับคุณมิน-กฤตา เกษมวิริยนนท์ เกษตรกรรุ่นใหม่ ที่สั่งสมประสบการณ์ปลูกผักกาดขาวปลีมากกว่า 10 ปี โดยเรียนรู้จากรุ่นแม่ และเมื่อเธอมีครอบครัวของตัวเอง จึงแยกตัวออกมาปลูกผักกาดขาวปลีร่วมกับสามี และขยายพื้นที่เพาะปลูกจาก 3 ไร่ เป็น 20 ไร่ สร้างผลผลิตต่อไร่ราว 3 – 3.5 ตัน และด้วยผลผลิตมีคุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาด จึงมีแม่ค้าเข้ามารับซื้อและให้ราคาเฉลี่ย 25,000 บาทต่อไร่ หักต้นทุนค่าใช้จ่ายแล้ว ยังเหลือผลกำไรอย่างน้อย 30% กว่าจะประสบความสำเร็จในวันนี้ คุณมิน ผ่านการลองผิดลองถูก และใส่ใจในทุกขั้นตอนการปลูก ลองไปดูกันว่าเธอมีเคล็ดลับอย่างไรบ้าง

แปลงผักกาดขาวปลีพันธุ์ดีน่าร์ ของคุณมิน ได้ผลผลิตมีคุณภาพจนมีแม่ค้ามารับซื้อถึงแปลง

เลือกสายพันธุ์ดี
ปลูกได้ทุกฤดู ตลาดต้องการตลอดปี

“ผักกาดขาวปลี” สายพันธุ์ที่ปลูกในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ “กลุ่มพันธุ์หนัก” ลักษณะการเข้าปลีจะแน่น หัวใหญ่ อายุการเก็บเกี่ยวประมาณ 60-65 วัน หลังย้ายกล้า มักปลูกกันในภาคเหนือ บนเขาหรือพื้นที่ที่มีอากาศเย็นและ “กลุ่มพันธุ์เบา” การเข้าปลีจะหลวมกว่า อายุการเก็บเกี่ยวประมาณ 40-45 วันหลังหยอดเมล็ดเท่านั้น สามารถปลูกได้ทั่วประเทศ และหากเป็นดินร่วนปนทราย จะยิ่งชอบเป็นพิเศษ

ผักกาดขาวปลีพันธุ์ดีน่าร์ (พันธุ์เบา) เก็บเกี่ยวผลผลิตเร็วเพียง 40-45 วัน ใบใหญ่ ต้นอวบ กินง่าย

สำหรับผักกาดขาวปลีพันธุ์ที่คุณมินเลือกปลูก คือ สายพันธุ์ดีน่าร์ เพราะสามารถปลูกได้ทุกฤดู สร้างรายได้ตลอดทั้งปี ที่สำคัญคือ อัตราการงอกสูง ผลผลิตมีคุณภาพดี ตรงตามสเป็คที่ตลาดต้องการ

“เมล็ดพันธุ์ผักกาดขาวปลีดีน่าร์ นั้นมีอัตรางอกสูงมากเกือบ 100% ปลูกง่าย เพราะต้นแข็งแรง โตไว ห่อหัวดี สีเขียวสวย ทนต่อสภาพแวดล้อม ทั้งนี้ “ผักกาดขาวปลี” เป็นพืชที่ต้องการนํ้าอย่างสมํ่าเสมอในการปลูก เกษตรกร ต้องคอยสังเกตควบคุมความชื้นของดินให้ดี เนื่องจากมีผลต่อการงอกของเมล็ดโดยตรง ต้องปั่นน้ำ หรือรดน้ำให้สม่ำเสมอ หากให้น้ำมากไปหน้าดินจะกลบจนเมล็ดไม่งอก หรือหากให้น้ำน้อยเกินไป หน้าดินแห้งเมล็ดพันธุ์ก็จะไม่งอกเช่นกัน” คุณมิน เผยเคล็ดลับการปลูกผักกาดขาวปลีให้ฟัง

ผักกาดขาวปลี “ดีน่าร์” อายุประมาณ 20-25 วัน ขณะเริ่มเข้าปลี กาบใหญ่ ใบเขียว ทนทานทุกสภาพอากาศ
แปลงผักกาดขาวปลีพันธุ์ดีน่าร์ ของคุณมิน ได้ผลผลิตมีคุณภาพจนมีแม่ค้ามารับซื้อถึงแปลง

การเตรียมแปลง-ความใส่ใจ
พื้นฐานสำคัญของการปลูก “ผักกาดขาวปลี” คุณภาพ

การเตรียมดิน และการจัดการแปลงที่ดีนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการปลูกพืชที่เกษตรควรให้ความสำคัญ เพราะผลต่อการเจริญเติบโตของผัก และมีส่วนในการป้องกันโรคทางดินที่เกิดจากเชื้อรา-แบคทีเรีย ได้ในระยะยาว

“การเตรียมดินก่อนปลูกมีความสำคัญมาก ก่อนปลูกจะต้องปรับหน้าดิน ถางหญ้ากำจัดวัชพืชให้เรียบร้อย จากนั้นทำการตากดินเพื่อฆ่าเชื้อโรค-แบคทีเรียในดินก่อนปลูกเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เมื่อทำการปรับหน้าดินแล้วจึงยกร่องขึ้นแปลงปลูกด้วยความสูงประมาณหนึ่งคืบ หรือ 20 เซนติเมตรจากพื้น เพื่อช่วยให้การระบายน้ำในแปลงดีขึ้น เพราะผักกาดขาวปลีนั้นเป็นพืชที่ไม่ชอบน้ำแฉะ ถ้าความชื้นในดินมีมากจนเกินไป การระบายถ่ายเทน้ำไม่ดีพอ จะทำให้สภาพลำต้นของผักกาดขาวปลีโดยรวมอ่อนแอ เชื้อโรคทางดินสามารถเข้าทำลายได้ง่าย

สำหรับ “โรคทางดิน” ที่ต้องระวังในผักกาดขาวปลีนั้นคือ “โรคเน่า” ลักษณะอาการที่ปรากฎคือผักจะเป็นจุดฉ่ำน้ำ ต่อมาใบจะเริ่มเน่า และลามไปยังรากอย่างรวดเร็วภายในเวลา 2-3 วัน พบมากในช่วงฤดูฝน ดังนั้น เกษตรกรต้องหมั่นตรวจแปลงทุกวันว่ามีการระบายน้ำที่ดีหรือไม่” คุณมิน เล่าหลักการเตรียมแปลงให้ฟังอย่างละเอียด

ยกร่องแปลงสูงประมาณ 20 เซนติเมตร (ตามแนวเส้นประ) เพื่อให้การระบายน้ำในแปลงดีขึ้น ลดปัญหาโรคทางดิน อย่าง “โรคเน่า”
การปลูกผักกาดขาวปลีให้มีคุณภาพต้องใส่ใจตรวจแปลงทุกวัน หากพบศัตรูพืชจะได้กำจัดได้อย่างทันท่วงที

นอกจากการป้องกันโรคทางดินแล้ว ศัตรูพืชสำคัญของผักกาดขาวปลีที่ต้องระวังคือ “หนอนใยผัก” ทั้งใน “ระยะตัวหนอน” ที่จะกัดกินใบพืชจนเป็นรูพรุนเหลือแต่ก้านใบ และ “ระยะตัวเต็มวัย” หรือที่เกษตรกรเรียกว่า “แม่บิน” เป็นผีเสื้อกลางคืนขนาดเล็กที่จะเข้ามาวางไข่ในแปลงเพาะปลูก และกลายเป็นตัวหนอนระบาดได้อย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา

โดยคุณมิน เผยว่า ช่วงที่ต้องระวังหนอนใยผักเป็นพิเศษคือช่วงที่ผักอายุประมาณ 10 วัน เพราะใบพืชกำลังอ่อน สามารถถูกกัดกินได้ง่าย ดังนั้น วิธีที่ช่วยป้องกันได้ในระดับหนึ่งคือ เกษตรกรต้องใส่ใจขั้นสุด หมั่นลงเดินตรวจแปลงอย่างสม่ำเสมอทุกวัน หากพบศัตรูพืชต้องรีบทำลายทันที

“หนอนใยผัก” เป็นศัตรูพืชสำคัญที่คอยกัดกินใบพืชหลายชนิด มีวงจรชีวิต 4 ระยะ คือ “ระยะตัวเต็มวัย-ระยะไข่-ระยะหนอน-ระยะดักแด้” เมื่อหนอนโตเต็มที่จะเข้าดักแด้ตามใบพืชจากนั้นจะเข้าสู่ระยะตัวเต็มวัยคือ “ผีเสื้อกลางคืนขนาดเล็ก” หรือที่เกษตรกรเรียกกันว่า “แม่บิน” และเริ่มวางไข่ได้ทันที

เทคนิคบำรุงผักกาดขาวปลีให้หัวใหญ่ ใบหนา
ต้นอวบ น้ำหนักดี ตรงสเป็คแม่ค้า

การบำรุงผลผลิตด้วยการเติมธาตุอาหารให้เหมาะสมกับช่วงเวลาที่พืชต้องการ นับเป็นเคล็ดลับสำคัญที่ช่วยให้ผักกาดขาวปลีหัวใหญ่ ห่อดี มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการของตลาด โดยคุณมิน นั้นได้แบ่งการบำรุงออกเป็น 3 ช่วง ตามระยะการเติบโตของพืช ดังนี้

• ช่วงที่ 1 : ผักกาดขาวปลี อายุ 10-15 วัน ใส่ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 46-0-0 จำนวน 1 ครั้ง อัตรา 25 กิโลกรัม/ไร่ เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของราก

• ช่วงที่ 2 : ผักกาดขาวปลี อายุ 17-19 วัน ใส่ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 46-0-0 อีก 1 ครั้ง อัตรา 25 กิโลกรัม/ไร่ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับลำต้น และการเจริญเติบโตที่เพิ่มขึ้น

• ช่วงที่ 3 : ผักกาดขาวปลี อายุ 25-30 วัน ใส่ปุ๋ยบำรุง 3 สูตรคือ ปุ๋ยตรากระต่ายสูตร 16-16-16 บลู อัตรา 50 กิโลกรัม/ไร่ ผสมกับปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 13-13-24 อัตรา 25 กิโลกรัม/ไร่ และปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 21-0-0 อัตรา 25 กิโลกรัม/ไร่ เพื่อช่วยให้ผักขยายกาบใบใหญ่ ซึ่งผลลัพธ์การใส่ปุ๋ยในช่วงที่ 3 ช่วยให้ผักกาดขาวปลีห่อแน่นและได้น้ำหนักเพิ่มขึ้น

คุณมินผสมปุ๋ยตรากระต่ายสูตร 16-16-16 บลู เข้ากับปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 13-13-24 และปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 21-0-0 ก่อนนำไปใส่ในผักกาดขาวปลีช่วงอายุ 25-30 วัน โดย “แคลเซียม-โบรอน” ที่มีอยู่ในปุ๋ยตรากระต่ายสูตร 16-16-16 บลู เป็นตัวช่วยสำคัญให้ผักใบหนา ต้นอวบ เป็นที่ต้องการของตลาด

หัวใจของความสำเร็จในการปลูกผักกาดขาวปลีกว่า 10 ปีของคุณมิน อยู่ที่ความใส่ใจ มีการทดลองและปรับปรุงวิธีการอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งคอยศึกษาจากคนที่เขาประสบความสำเร็จว่าเขาทำกันอย่างไร โดยเฉพาะการทดลองใช้ปุ๋ยสูตรใหม่ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด

คุณมิน กล่าวว่า “สำหรับปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู นั้นตอนแรกก็ยังไม่กล้าใช้ เพราะว่าเป็นปุ๋ยสูตรใหม่เลยยังไม่มั่นใจว่าจะได้ผลดีหรือไม่ แต่พอเห็นแปลงผักกาดขาวปลีของแม่นั้นเขียวสวย ต้นอวบ ใบแข็งแรงขึ้นอย่างชัดเจน ด้วยความที่เราเป็นคนที่คอยพัฒนาผลผลิตของเราอยู่แล้วก็เลยถามแม่ดูว่ามีการบำรุงผักอย่างไร ก็เลยทราบมาว่าแม่ได้ใช้ปุ๋ยตรากระต่าย สูตร 16-16-16 บลู

เมื่อเราเห็นผลลัพธ์ที่ดีจากแม่ ก็เลยลองเปิดใจใช้ดูบ้าง พอได้ใช้จริงก็ไม่ผิดหวัง เนื่องจากปุ๋ยตรากระต่ายสูตร 16-16-16 บลู มีแคลเซียม-โบรอน ช่วยให้ผักใบหนา ต้นอวบ เมื่อใบผักกาดขาวปลีสมบูรณ์ ก็ช่วยลดต้นทุนการฉีดฮอร์โมนได้ ไร่ละประมาณ 2,000 บาท ทั้งยังช่วยให้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นอีกถึง 10% จากปกติที่เคยได้น้ำหนัก 80-90 กิโลกรัม/ร่อง ปัจจุบันได้น้ำหนักเพิ่มขึ้นถึง 100-110 กิโลกรัม/ร่อง”

“การกองปุ๋ย” ภูมิปัญญาคนรุ่นเก่า
ได้ผลดี ผักโตไว ใบไม่เน่า

เคล็ดลับที่ส่งต่อกันมาของเกษตรกรผู้ปลูกผักกาดขาวปลีในอ.ท่าม่วง จ.กาญจบุรี คือ “วิธีการกองปุ๋ย” ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ใช้แล้วได้ผลดี

“การกองปุ๋ย” คือการนำปุ๋ยที่เตรียมไว้ มาโรยระหว่างแนวปลูกต้นผักกาดขาวปลี โดยกองปุ๋ยนั้นจะอยู่ห่างจากโคนต้นผักกาดขาวปลีประมาณ 3-4 นิ้ว จากนั้นให้น้ำตามด้วยระบบสปริงเกลอร์ วิธีให้ปุ๋ยลักษณะนี้เป็นวิธีการใส่ปุ๋ยที่เหมาะสำหรับผักกาดขาวปลี เนื่องจากวิธีการนี้ทำให้เม็ดปุ๋ยไม่ตกค้างอยู่ที่ใบ เหมือนกับการหว่านปุ๋ยโดยทั่วไป และเม็ดปุ๋ยไม่สัมผัสกับใบผักโดยตรง ลดความเสี่ยงไม่ทำให้ผักเน่า คุณมินแนะนำว่า ปุ๋ยที่จะใช้ควรเป็นปุ๋ยที่สามารถละลายน้ำได้ดี เพื่อให้พืชดูดซึมธาตุอาหารได้ทันทีหลังจากที่เราให้น้ำ

ผลผลิตดี มีแม่ค้ารับซื้อถึงไร่
ได้กำไร ไม่ต้องหาตลาดเอง

ข้อดีของผักกาดขาวปลีก็คือ เป็นผักที่สามารถเก็บเกี่ยวได้เร็ว ถ้าผักได้คุณภาพดี ตรงตามความต้องการของตลาด เกษตรกรแทบไม่ต้องหาตลาดเอง เพราะแม่ค้าจะมารับซื้อถึงไร่ ในราคาไร่ละ 25,000 – 30,000 บาท ซึ่งอาจจะมีบางรอบที่ราคาลดลงบ้างเป็นปกติของพืชผลทางเกษตรทุกชนิด หักต้นทุนค่าใช้จ่าย ยังเหลือผลกำไร 30% ถือว่าเป็นอีกพืชที่ทำกำไรได้ดี โดยที่ใช้เวลาไม่มาก ซึ่งผักกาดขาวปลีนั้น สามารถเก็บเกี่ยวได้ 2 วิธี คือ เก็บเกี่ยวหลังหว่านเมล็ด ระยะ 40-45 วัน อีกวิธีหนึ่งคือการเก็บแบบ “ลุ้ยแชร์” ซึ่งเป็นการเก็บเกี่ยวตั้งแต่ยังห่อหัวไม่แน่น และสามารถเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่ 30-35 วัน

ผักกาดขาวปลีระยะ “ลุ้ยแชร์” อายุประมาณ 30-35 วัน มีการเข้าปลีหลวมๆ เป็นที่นิยมของตลาดทางภาคใต้ ซึ่งเน้นทานเป็นผักแนม

เกษตรกรรุ่นใหม่ ต้องเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่ช่วยในการพัฒนาคุณภาพของผลผลิตอยู่เสมอ อย่ายึดติดกับสิ่งที่เคยทำมาอย่างเดียว ซึ่งถือได้ว่า “คุณมิน ”เป็นอีกหนึ่งเกษตรกรรุ่นใหม่ ที่ผสมผสานองค์ความรู้เดิมของครอบครัว และทดลองในวิธีการของตัวเอง ลองผิดลองถูก หมั่นสังเกต และเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ พร้อมลงมือปฏิบัติจริงจนประสบความสำเร็จ มีผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น สร้างรายได้และผลกำไรต่อไร่มากขึ้น

 


ติดตามข้อมูลข่าวสารอื่นๆ ข้อมูลสินค้าและข่าวสารจากปุ๋ยตรากระต่าย เพิ่มเติมได้ที่
Facebook: www.facebook.com/puitrakratai/
YouTube: www.youtube.com/c/Puitrakratai
ข้อมูลสินค้าปุ๋ยตรากระต่าย: http://www.chiataigroup.com/business/fertilizer/puitrakratai