ปลูกกล้วยน้ำว้าล้วนๆ 50 ไร่ 1 ต้น รายได้อย่างต่ำ 100 บาท แน่นอน!

เกษตรกรที่อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี นิยมปลูกกล้วยน้ำว้ากันมาก โดยรูปแบบการปลูกมีทั้งปลูกเดี่ยวๆ และปลูกผสมผสานกับพืชอื่น ทั้งนี้ เพราะกล้วยน้ำว้าดูแลรักษาไม่ยาก ไม่จุกจิกกวนใจ ขณะเดียวกันก็สร้างรายได้ให้กับผู้ปลูกเป็นอย่างดี

คุณนิพนธ์ บุตรเมือง เกษตรอำเภอหนองหญ้าปล้อง เคยรักษาการตำแหน่งเกษตรอำเภอแก่งกระจาน พูดถึงกล้วยน้ำว้าที่แก่งกระจานว่า

“ปกติกล้วยน้ำว้าเป็นพืชหลักของที่นี่ เป็นพืชที่ไม่ต้องใช้สารเคมี โรคแมลงไม่ค่อยมี เป็นโรคใบไหม้บางช่วง บางช่วงเป็นโรคตายพรายแต่ก็เป็นบางแห่ง ถือว่าเป็นพืชที่ใช้การลงทุนต่ำ มีรายได้ต่อเนื่อง เป็นพืชที่ชาวบ้านนำไปใช้ประกอบอาชีพได้ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง

“จริงๆ นอกจากจะช่วยสร้างรายได้ การปลูกกล้วยยังช่วยให้ระบบนิเวศโดยรอบสมบูรณ์ เป็นการบำรุงดินในตัว ทำให้เกษตรกรรายย่อยมีรายได้หมุนเวียน เรื่องการส่งเสริมการปลูก ทางราชการส่งเสริมอยู่แล้ว กล้วยสามารถปลูกควบคู่กับพืชอื่นที่ให้ร่มเงาได้ด้วย” คุณนิพนธ์กล่าว

เปลี่ยนจากมะม่วง มาปลูกกล้วยน้ำว้าล้วนๆ 50 ไร่

คุณนาค เส็งสว่าง เป็นเกษตรกรที่ปลูกกล้วยน้ำว้า 50 ไร่ อยู่ตำบลวังจันทร์ อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี คุณนาค บอกว่า บ้านพักอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 39 หมู่ 8 ตำบลท่ายาง อำเภอท่ายาง แต่มาทำไร่ทำสวนอยู่ตำบลวังจันทร์นาน 40 ปีเศษแล้ว

คุณนาค บอกว่า ตนเองมีพื้นที่ทั้งหมด 76 ไร่ 2 งาน 20 ตารางวา ช่วงแรกปลูกพืชล้้มลุก จำพวกอ้อย สับปะรด ต่อมาปลูกมะม่วงพันธุ์ดี เช่น น้ำดอกไม้ เขียวเสวย งานปลูกมะม่วงยุคต้นทำรายได้ไม่น้อย แต่ต่อมาต้นทุนการผลิตสูง จึงตัดต้นมะม่วงทิ้ง แล้วปลูกกล้วยน้ำว้า 50 ไร่ ที่เหลือมีมะนาวนิดหน่อย มีไผ่รวก 10 ไร่ ปลูกไว้เพื่อนำลำมาใช้งาน มีคนมาซื้อก็ขายลำละ 8 บาท (ตัดเอง)

Advertisement

เนื่องจากท้องถิ่นแถบนั้นปลูกกล้วยน้ำว้ากันมาก คุณนาค เกษตรกรวัย 66 ปี ซึ่งแข็งแรงอยู่ จึงเลือกกล้วยน้ำว้าที่มีลักษณะดีเด่นมาปลูก คือให้เครือขนาดใหญ่ ระหว่าง 8-12 หวี หวีที่ให้ผลมากสุด 18 ผลต่อหวี ไส้แดง โดยทั่วไปกล้วยน้ำว้าอายุ 1 ปี สามารถเก็บผลผลิตขายได้

กล้วยน้ำว้าที่คุณนาคปลูก เปลือกไม่เขียวจัด แต่สีนวลออกขาว ไม่มีชื่อเฉพาะ ลักษณะเช่นนี้เกษตรกรชาวอำเภอแก่งกระจานและท่ายางนิยมปลูก

Advertisement

ระยะเวลาที่เกษตรกรรายนี้ปลูกกล้วยน้ำว้าจากแต่ก่อนจนถึงปัจจุบัน (ปี 2556) นับได้ 5 ปี

มีระบบให้น้ำ จึงมีผลผลิตเก็บขายทั้งปี

คุณนาค เล่าถึงวิธีการปลูกว่า เริ่มจากไถดินแล้วชักร่อง จากนั้นวัดระยะระหว่างต้นระหว่างแถว 4×4 เมตร พื้นที่ 1 ไร่ ปลูกกล้วยได้ 400 ต้น แรกสุดที่ปลูกกล้วยจึงมีกล้วย 20,000 ต้น

สิ่งหนึ่งที่เกษตรกรรายนี้มี แต่เกษตรกรรายอื่นอาจจะไม่มี คือ ระบบน้ำ

คุณนาค ให้น้ำกล้วยน้ำว้าด้วยระบบสปริงเกลอร์ นั่นคือ กล้วย 1 ต้น หรือ 1 กอ ได้หัวมินิสปริงเกลอร์    1 หัว ต้นทุนเฉพาะหัวสปริงเกลอร์ ต้นทุนเฉพาะหัวสปริงเกลอร์ 12 บาท หากรวมต้นทุนทั้งหมดแล้ว ใช้งบประมาณพอสมควร แต่เจ้าของยืนยันว่า “คุ้มจริงๆ” เพราะเมื่อตอนที่ไม่มีระบบให้น้ำ ปริมาณกล้วยที่ตัดขายจะมีไม่มาก เพราะต้นได้รับผลกระทบจากหน้าแล้ง แต่เมื่อมีระบบน้ำ สามารถทยอยตัดกล้วยได้ทั้งปีสม่ำเสมอ

ช่วงเวลาที่ให้น้ำ คือ หน้าแล้ง คุณนาค ให้น้ำ 7 วัน ต่อ 1 ครั้ง แต่หากหน้าฝนไม่จำเป็น

เรื่องปุ๋ย ควรให้ปุ๋ยปีละ 2 ครั้ง ครั้งละ 3 กำมือ ต่อกอ เป็นปุ๋ยสูตรเสมอ 15-15-15 หรือ 16-16-16 รอบปีหนึ่งเว้นช่วงห่างการให้ 6 เดือน ต่อ 1 ครั้ง ปุ๋ยคอกหาไม่ยาก แต่คุณนาคบอกว่าไม่ได้ให้ปุ๋ยคอก เนื่องจากต้องใช้แรงงานมาก

การดูแลอย่างอื่น ควรกำจัดวัชพืช หากพบว่าสวนมีต้นไม้ขึ้นรก อาจจะใช้สารกำจัดวัชพืชบ้าง แต่เทคนิคอย่างหนึ่งที่ช่วยได้ดี คือการตัดใบวางไว้ที่โคนต้น ทำให้หญ้าขึ้นได้ยาก เทคนิคนี้ใช้ได้มาก

วิธีการไว้หน่อ เจ้าของสวนแนะนำว่า ให้ไว้หน่อที่ออกข้างๆ จะได้เครือขนาดใหญ่ หน่อกลางกอควรตัดทิ้งเพราะทำให้เครือมีขนาดเล็ก

กล้วยที่ปลูกเริ่มแรกมี 1 ต้น ต่อ 1 กอ ซึ่งก็คือ 400 ต้น ต่อไร่ เมื่อปลูกไปนาน 1 กอ มีอย่างน้อย 4 ต้น เท่ากับว่า 1 ไร่ มีกล้วยจำนวน 1,600 ต้น​ ซึ่งจะทำให้ได้เครือกล้วยขายได้มากขึ้นด้วย

“ที่สวนอื่นมักมีโรคตายพราย แต่สวนผมไม่มี ปลูกกล้วยสามารถทำได้ง่าย ใช้คนงานน้อย ขายได้ราคา กล้วยของผมนี่แม่ค้าติดใจ” คุณนาค ยืนยัน

รายได้อย่างต่ำ ตันละ 100 บาท

คุณนาค บอกว่า ตั้งแต่หน่อกล้วยงอกพ้นดิน จนเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ใช้ระยะเวลา 1 ปี โดยประมาณ

ทางสวนตัดกล้วยจำหน่าย อาทิตย์ละ 1 ครั้ง โดยมีผู้ค้ามารับซื้อถึงสวน ว่ากันหวีละ 15-20 บาท อาทิตย์หนึ่งทางสวนมีกล้วยจำหน่ายต่ำที่สุด อาทิตย์ละ 800 หวี ไปถึง 2,000 หวี

กล้วย 1 เครือ มีหวีอย่างต่ำ 6 หวี หากขายได้ราคาหวีละ 15 บาท เจ้าของจะมีรายได้ 90 บาท

บางเครือมี 10 หวี หากขายหวีละ 15 บาท เจ้าของจะมีรายได้ 150 บาท ต่อเครือ

“เฉลี่ย…แน่นอนเลย กล้วย 1 ต้น ต้องมีรายได้ 100 บาท ผมปลูกมะละกอแซม ทำให้มีรายได้เพิ่มอีก   ปลีกล้วยขายได้หัวละ 4-6 บาท ใบตองกล้วย กิโลกรัมละ 8 บาท แต่ไม่มีเวลาตัดใบขาย เพราะผมดูแลคนเดียว มีลูกจ้าง 1 คน ภรรยาไปดูแลแม่ยาย ลูกๆ ต่างก็มีงาน” คุณนาค กล่าว

คุณนาค ยืนยันว่าจะปลูกกล้วยน้ำว้าต่อเนื่องไปเรื่อยๆ หากต้นโทรมมากก็ไถทิ้งแล้วปลูกใหม่ แต่ก็ไม่ทราบว่าเมื่อไร เพราะผ่านมา 5 ปีแล้วผลผลิตก็ยังดีอยู่

 

เผยแพร่ในระบบออนไลน์เป็นครั้งแรก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564