สับปะรดบ้านไร่ สร้างงานทำเงินมานาน ราคาดีเกษตรกรขยายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

เส้นทางไปห้วยขาแข้ง จากกรุงเทพฯ ไปได้หลายทาง

              ที่นิยมกันไม่น้อย ไปจากกรุงเทพฯ ผ่านสุพรรณบุรี เฉียดอำเภอดอนเจดีย์ เข้าสู่ด่านช้าง จากนั้นถึงอำเภอบ้านไร่ อำเภอห้วยคต แล้วก็ลานสัก ตัวเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง อยู่ห่างจากอำเภอลานสักไปราว 30 กิโลเมตร

               จากอำเภอบ้านไร่ ผ่านอำเภอห้วยคต ถึงอำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ทิวทัศน์สองข้างทางแปลกตาดี มีภูเขา บางช่วงมีป้ายแนะนำน้ำตก ถ้ำ และธรรมชาติอย่างอื่น

                แต่ที่ติดใจคือ แปลงปลูกสับปะรดของชาวบ้าน นอกจากนี้ ยังมีแผงขายผลผลิตเป็นช่วงๆ

                สอบถามแล้วได้ความว่า พื้นที่สองอำเภอคือ บ้านไร่ และห้วยคต มีปลูกสับปะรดมากกว่าหมื่นไร่ เดิมมีมากกว่านี้ แต่เพราะยางพารามาแย่งพื้นที่ไป พื้นที่จึงลดลง

                สับปะรดที่ปลูกกันเป็นพันธุ์ปัตตาเวีย เขาปลูกเพื่อส่งโรงงานอุตสาหกรรม พื้นที่ 1 ไร่ ปลูกได้จำนวน 6,000 ต้น แต่หากดินดี จะปลูกได้มากถึง 7,000 ต้น ตั้งแต่ปลูกจนเก็บผลผลิตได้ ใช้เวลาราวปีครึ่ง

                การดูแลรักษาสับปะรดระหว่างปลูก หากใครมีน้ำรด ต้นก็เจริญเติบโตเร็ว ให้ผลผลิตมาก แต่หากไม่มีแหล่งน้ำก็ไม่เป็นไร เพราะสับปะรดทนทาน

                วิธีการปฏิบัติต่อสับปะรดให้มีผลผลิตไม่ใช่เรื่องลึกลับ โดยเฉพาะเมื่อต้นสมบูรณ์ อายุถึงวัยที่จะออกดอกติดผลได้ เขาฉีดพ่นสารเอทิฟอนให้ หลังฉีดก็จะออกดอกมาพร้อมกันเป็นชุด

                 สำหรับปุ๋ย หากเป็นสับปะรดที่ส่งโรงงาน เขาใส่ให้ไม่มากนัก เน้นให้ผลใหญ่ ตัวหน้าสูงเข้าไว้ แต่หากจะให้มีรสหวาน เน้นตัวหลังสูง อย่าง 0-0-60 เป็นต้น

                 กรณีที่ซื้อสับปะรดมากินที่บ้านแล้วปรากฏว่า ไม่ค่อยหวาน อาจจะเป็นเพราะเขาปลูกสับปะรดส่งโรงงาน ใส่ปุ๋ยตัวหน้าสูง แต่เห็นลู่ทางว่าสับปะรดผลสดราคาดี แทนที่จะส่งโรงงาน ก็นำมาวางขาย ซึ่งราคาดีกว่าส่งโรงงานหลายบาท

                  ผู้ปลูกสับปะรดบอกว่า หากดูแลพอประมาณ ผลผลิตสับปะรดที่ได้ 4-5 ตัน ต่อไร่ แต่หากปัจจัยการผลิตพร้อม โดยเฉพาะดินดี น้ำดี เก็บผลผลิตได้มากถึง 10 ตัน

                   เมื่อหลายปีก่อน ราคาสับปะรดส่งโรงงาน ขายได้กิโลกรัมละ 1.50-2 บาท เกษตรกรส่วนใหญ่ไถต้นทิ้ง ปลูกอย่างอื่นแทน ปัจจุบัน (2559) ราคาสับปะรดส่งโรงงาน กิโลกรัมละ 9 บาท สับปะรดกินผลสด 12 บาท ด้วยเหตุนี้ เกษตรกรจึงมีรายได้ดีพอสมควร ขั้นต่ำเกษตรกรปลูกสับปะรดได้ 5,000 กิโลกรัม ต่อไร่ ขายกิโลกรัมละ 9 บาท จะได้ผลตอบแทน 45,000 บาท ต่อไร่ แต่เรื่องราคาเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน

              สับปะรดที่ปลูกลงดิน อยู่ได้ถึง 4 ปี นั่นหมายถึงเก็บผลผลิตได้ 4 ครั้ง จึงไถแล้วปลูกใหม่ เช่นเดียวกับอ้อย ต่างจากมันสำปะหลัง ที่ต้องเสียเงินไถปลูกใหม่ทุกปี

               ใช้เส้นทางบ้านไร่-ลานสัก แวะอุดหนุนเกษตรกรเขาบ้าง ผลผลิตมีทั้งปี ส่วนรสชาติ ผู้ขายบอกว่า ช่วงฝนอร่อยที่สุด

 

                ซื้อผลผลิตแล้ว ได้รสชาติหวานถือว่าโชคดีไป หากไม่หวาน ถือว่ากินเอาคุณค่าทางอาหารก็แล้วกัน ที่สำคัญที่สุด เป็นการช่วยเหลือเกษตรกร