เยี่ยม “สวนศีล เกษตรอินทรีย์” ชมพืชผักผลไม้ ปลอดสารพิษ

นับตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา เชื่อแน่ว่าหลายคนที่อยู่ในวงการพืชปลอดสารพิษของจังหวัดชุมพร คงเคยได้ยินชื่อ “สวนศีล เกษตรอินทรีย์” ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านเขาเหลียง หมู่ที่ 11 ตำบลหาดพันไกร อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร

บรรดาสื่อมวลชนจึงใช้เวลาว่างในวันหยุด เดินทางไปเยี่ยมชมสวนเกษตรดังกล่าว โดยได้รับการเชื้อเชิญจากสองสามีภรรยา คือ คุณบุญส่ง วันเสือ หรือ “พี่ปื๊ด” หนุ่มใหญ่วัย 58 ปี และ คุณสุมนมาลย์ หนูพันขาว หรือ “น้องมน” วัย 44 ปี ที่ลงมือทำอาหารมื้อเที่ยงไว้เตรียมต้อนรับพวกเรา มีทั้งแกงส้มแตงโมอ่อนใส่เนื้อปลา แกงเลียงฟักกับฟักทองและข้าวโพด ต้มกะทิเนื้อหมู ผัดผักกวางตุ้งน้ำมันหอย และน้ำพริกลูกมะอึก ซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านที่สุดแสนอร่อย พร้อมทั้งฟังเพลงไพเราะ จาก “วงสวนศีล เกษตรอินทรีย์ ครู คลัง ช่าง หมอ” ที่สมาชิกล้วนเป็นญาติพี่น้องของสองสามีภรรยา นอกจากนั้น พี่ปื๊ดยังแสดงฝีมือในการดริปกาแฟสดๆ ที่บดและคั่วเองกับมือให้สื่อมวลชนได้ดื่มด้วย ท่ามกลางแมกไม้นานาชนิดในสวนที่มีเนื้อที่ประมาณ 80 ไร่

พี่ปื้ด เปิดเผยว่า พื้นที่สวนเกษตรของพวกตนเป็นของ คุณแม่เริ่ม หนูพันขาว อายุ 77 ปี มารดาของน้องมน ซึ่งเป็นแม่ยายของตนที่ทำสวนมาตั้งแต่ปี 2505 หรือเมื่อ 59 ปีที่แล้ว ตนและน้องมนได้เข้ามาดูแลประมาณ 10 ไร่ โดยได้ร่วมกันหันมาทำเกษตรปลอดสารพิษเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เพราะอยากให้ชาวชุมพรได้กินพืชผักผลไม้ที่ปลอดภัยไร้สารเคมี

ปาล์มน้ำมัน

ซึ่งสวนของแม่ยายและของตนสองคนมีลักษณะเป็นสวนเกษตรแบบผสมผสาน ปลูกพืชผักผลไม้หลายชนิด เช่น กาแฟพันธุ์โรบัสต้า ทุเรียนหมอนทอง มะยงชิด มะปราง ปาล์มน้ำมัน ยางพารา มะฮอกกานี กระถินณรงค์ ส้มจี๊ด ฯลฯ รายได้หลักของครอบครัวคือ การปลูกส้มจี๊ด ส่งให้ตลาดและเครือข่ายในจังหวัด ราคากิโลกรัมละ 20 บาท ซึ่งส้มจี๊ดสามารถนำไปทำเครื่องดื่ม ใช้แทนมะนาว และน้ำยาทำความสะอาดได้ ตนปลูกส้มจี๊ดอยู่ประมาณ 70 ต้น ขณะที่ความต้องการส้มจี๊ดในชุมพรมีมาก จึงผลิตส่งเกือบไม่ทัน

“สวนของเราไปสร้างเครือข่ายปลูกส้มจี๊ดป้อนตลาดไว้ที่ อำเภอทุ่งตะโก ที่เขาไชยราช อำเภอปะทิว และที่อำเภอท่าแซะ รวมประมาณ 30 กว่าครอบครัว ซึ่งทั้งหมดจะปลูกส้มจี๊ดแบบเกษตรอินทรีย์ ไม่ใช้ปุ๋ยเคมีแม้แต่รายเดียว” คุณบุญส่ง กล่าว

ผลไม้

ด้าน น้องมน ภรรยาคู่ชีวิตของพี่ปื๊ด ก็เปิดเผยว่า ตนมีงานหลักที่เป็นงานประจำคือ เป็นพยาบาลแผนก ไตเทียม อยู่ที่โรงพยาบาลวิรัชศิลป์ หลังจากเลิกงานและในช่วงวันหยุดก็จะเข้ามาทำงานในสวน และงานที่รับผิดชอบอยู่ก็คือการทำปุ๋ยหมักจากเศษใบไม้และมูลสัตว์ ซึ่งจะนำใบไม้แห้งและทะลายปาล์มมาผสมกับมูลสัตว์ พวกมูลวัว มูลสุกร ในอัตราส่วน 3 : 1 นั่นคือ ใบไม้แห้ง 3 ส่วน มูลสัตว์ 1 ส่วน เรียกว่า การทำปุ๋ยหมักแบบกองใหญ่รูปสามเหลี่ยมไม่พลิกกลับ และปุ๋ยหมักในตะกร้าหรือวงตาข่ายไม่ต้องพลิก ซึ่งทั้งสองแบบใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ก็จะได้ปุ๋ยอินทรีย์ปลอดสารพิษ เพื่อนำไปใช้กับพืชผักผลไม้ต่างๆ ภายในสวน

นอกจากการทำปุ๋ยหมักที่ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจาก อาจารย์ขจรรักษ์ พู่พัฒนศิลป์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้-ชุมพร ที่อำเภอละแมแล้ว ยังดูแลการเลี้ยงหมูป่า การเผาถ่านจากเศษไม้กาแฟ การทำน้ำส้มควันไม้เพื่อใช้ในการไล่แมลง และดูแลไม้ยืนต้นเนื้อแข็ง พวกต้นมะฮอกกานี ต้นกระถินณรงค์ ฯลฯ ด้วย ซึ่งที่ผ่านมามีผู้สนใจเข้ามาศึกษาและเรียนรู้การปลูกพืชแบบผสมผสาน รวมทั้งการทำปุ๋ยหมักให้มีคุณภาพในสวนของตนอยู่เสมอ ซึ่งตนและพี่ปื๊ดก็พร้อมที่จะถ่ายทอดความรู้ให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เพราะอยากให้ชาวชุมพรได้กินอาหารที่ปลอดสารพิษ จะได้ไม่ต้องนำเงินที่ได้จากการทำงานไปใช้ในการจ่ายค่ารักษาพยาบาล

ผักปลอดสารพิษ

พี่ปื๊ด กล่าวเสริมตอนท้ายว่า การทำงานด้านเกษตรนั้น พึงระลึกเอาไว้เสมอว่า ทำอย่างไรจะลดต้นทุนได้มากที่สุด เช่น การทำปุ๋ยหมักอินทรีย์ ใช้งบประมาณไม่เกิน 2,000 บาท จะเทียบเท่ากับการที่เราซื้อปุ๋ยเคมี ราคา 10,000 บาท  สามารถลดต้นทุนได้เกือบ 8,000 บาท ส่วนผลที่ได้ก็คือ เราได้กินพืชผักปลอดสารพิษที่ปลอดภัย และไม่ต้องเสียเงินให้หมอ พยาบาล เป็นค่ารักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ที่เกิดจากการกินอาหารที่มีสารเคมีปนเปื้อน ดินในสวนของตนส่วนใหญ่จะมีปุ๋ยหมักที่ตนและน้องมนทำเต็มไปหมด จึงทำให้พืชผักผลไม้ทุกชนิดในสวนเป็นพืชคุณภาพและปลอดภัย 

ผู้สนใจที่จะเข้าไปเยี่ยมชม สวนศีล เกษตรอินทรีย์ ของสองสามีภรรยา สามารถติดต่อล่วงหน้าได้ที่ โทร. 085-409-1762 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ “สวน ศีล เกษตรอินทรีย์ Saun Sil Organic Farming” ทั้งพี่ปื๊ด-บุญส่ง วันเสือ และ น้องมน-สุมนมาลย์ หนูพันขาว ยินดีให้การต้อนรับด้วยความเป็นกันเอง 

เลี้ยงหมู
อาหารเลิศรส
ปุ๋ยหมักจากใบไม้

…………..

เผยแพร่ในระบบออนไลน์เป็นครั้งแรกเมื่อวันเสาร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ.2564