“เลี้ยงไส้เดือน” อาชีพเสริมง่ายๆ ในฟาร์มเกษตร

“เศษขยะ” จากอาหารสด คือ “ขุมทรัพย์” อันล้ำค่า “ชารีย์ บุญญวินิจ” ศิษย์เก่าคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร อดีตเชฟที่สหรัฐอเมริกา ที่ปิ๊งไอเดียนำเศษอาหารไร้ค่ามาเลี้ยงไส้เดือน ผันชีวิตจากเด็กหนุ่มปกติ สู่วิถีชีวิตเกษตรกร จนได้รับฉายา ลุงรีย์ไส้เดือนเงินล้าน

หลังจบการศึกษาจากคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร คุณชารีย์มีโอกาสเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำงานเป็นผู้ช่วยพ่อครัว ณ ร้านอาหารแห่งหนึ่งนาน 4 เดือน ทุกๆ วันต้องพบเจอกับเศษอาหารที่เหลือทิ้งจำนวนมหาศาล แต่ขณะนั้นยังหาวิธีกำจัดเศษขยะเหล่านั้นไม่ได้ จนกระทั่งกลับมาเมืองไทย ไปบวชเป็นพระ ได้เจอกับพระนักพัฒนาที่มีทักษะการเกษตรสูงเรียนรู้เกี่ยวกับวิถีเกษตร จึงเกิดความคิดอยากทำเกษตรที่สามารถเลี้ยงชีพได้

หลังจากสึกพระออกมา คุณชารีย์ทำงานออฟฟิศด้านการออกแบบ กระทั่งปี 2553 เริ่มเลี้ยง “ไส้เดือน” เป็นอาชีพเสริม เพราะมองว่าไส้เดือนเป็นสัตว์ที่ไม่ต้องดูแลเอาใจใส่เยอะ ไม่มีโรค ไม่เจ็บ ไม่ป่วย ลงทุนครั้งเดียว ที่สำคัญไม่รบกวนงานประจำ

“ผมใช้ที่จอดรถ ประมาณ 6×3 เมตร เพื่อเลี้ยงไส้เดือน ลงทุนครั้งแรก 1,000 บาท เลี้ยงไส้เดือน 4 สายพันธุ์ วัตถุประสงค์ในการเลี้ยง ไว้เพื่อผลิตปุ๋ย เพราะไส้เดือนมีส่วนช่วยทำให้โครงสร้างดินดีขึ้น ทำให้ดินร่วนซุย ช่วยระบายน้ำและอากาศในดิน ไส้เดือนชอนไชลงใต้ดินได้ลึกกว่า 20 เมตร และสิ่งสำคัญที่สุดคือ ไส้เดือนเป็นผู้ย่อยสลายขยะอินทรีย์ได้ดีที่สุด”

อาหารที่ใช้เลี้ยงไส้เดือน แทบจะไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะส่วนใหญ่ได้มาฟรีจากคนแถวบ้าน เช่น กากถั่วเหลืองได้มาจากร้านขายน้ำเต้าหู้ ผักและเปลือกไข่ที่เหลือจากร้านหมูกระทะ และร้านปลาเผา

ด้านวิธีการเลี้ยง นำกะละมังเจาะรู ซ้อนกันเป็นชั้นๆ โรยแกลบ ใส่เศษผัก ใส่มูลวัว นำไส้เดือนใส่ลงไป ปิดด้วยตาข่าย ประหยัดพื้นที่ รดน้ำสัปดาห์ละครั้ง รักษาความชื้นไว้เสมอ ภายใน 1 เดือน ผลิตไส้เดือนได้ 2 ตัน ทำเป็นผลิตภัณฑ์ อาทิ ปุ๋ยมูลไส้เดือน น้ำหมักฉีดผัก ผลไม้ นำไปเป็นอาหารล่อเหยื่อตกปลา

สายพันธุ์ไส้เดือนที่เลี้ยง ได้แก่

  1. สายพันธุ์แอฟริกัน จำหน่ายราคากิโลกรัมละ 3,000 บาท ใช้ผลิตปุ๋ยปลูกผักสวนครัว

2. สายพันธุ์ลายเสือ จำหน่ายราคากิโลกรัมละ 1,000 บาท ใช้ขุนแม่พันธุ์สัตว์น้ำ

3. สายพันธุ์บลูเวิร์ม จำหน่ายราคากิโลกรัมละ 6,000 บาท ใช้บำรุงพืชให้มีรสชาติความหวานเพิ่มขึ้น

4. ไส้เดือนพันธุ์ไทย จำหน่ายราคากิโลกรัมละ 300 บาท ใช้เป็นเหยื่อตกปลา

ส่วนช่องทางหารายได้ มาจากจำหน่ายผลิตผล ปุ๋ย น้ำหมัก จำหน่ายสายพันธุ์-จัดกิจกรรมเรียนรู้คอร์สไส้เดือน จัดทุกเดือน คอร์สเลี้ยงกุ้งทางเลือก เดือนเว้นเดือน คอร์สปรุงดินปลูกผัก สองเดือนครั้ง คอร์สเพาะเห็ดมิวกี้ ปีละสองครั้ง

ปัจจุบัน “ฟาร์มไส้เดือนลุงรีย์” นอกจากเลี้ยงไส้เดือนครบวงจรแล้ว ยังเลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ ปลูกผักสวนครัว” และยังเป็นศูนย์การเรียนรู้ฟาร์มลุงรีย์เปิดให้เข้าชมอีกด้วย