เกษตรกรร้อยเอ็ด พลิกชีวิต ใช้บัญชีเป็น “วัคซีน” แก้ความจน ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ คว้ารางวัลเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ สาขาบัญชีฟาร์ม ปี 64

คุณโอภาส ทองยงค์ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินการคัดเลือก “เกษตรกรดีเด่นสาขาบัญชีฟาร์มระดับประเทศ” เป็นประจำทุกปี เพื่อค้นหาเกษตรกรที่มีผลงานทางการเกษตรดีเด่นและได้นำ “บัญชี” มาปรับเปลี่ยนชีวิตตนเองและชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์

ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจยกย่องเชิดชูประกาศเกียรติคุณของเกษตรกรดีเด่น กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้พิจารณาคัดเลือกเกษตรกรดีเด่น สาขาบัญชีฟาร์มระดับประเทศ ประจำปี 2564 ได้แก่ คุณสำรวย บางสร้อย เกษตรกรจากจังหวัดร้อยเอ็ด อายุ 53 ปี ปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 12 บ้านสวนปอ ตำบลหนองแคน อำเภอปทุมรัตต์ จังหวัดร้อยเอ็ด อาชีพทำไร่นาสวนผสม โดยประสบความสำเร็จจากการจดบันทึกบัญชีอย่างต่อเนื่องและนำข้อมูลทางบัญชี มาวิเคราะห์เพื่อวางแผนการผลิตทางการเกษตรอย่างเป็นระบบ จนสามารถสร้างรายได้และลดต้นทุน รวมถึงสามารถชดใช้หนี้สินให้น้อยลงและมีฐานะที่มั่นคงมากขึ้น พร้อมทั้งสร้างเครือข่ายคนทำบัญชีและการเกษตรในชุมชน เพื่อเป็นการต่อยอดองค์ความรู้ด้านการจดบันทึกบัญชีและด้านการเกษตรให้แก่เกษตรกรในชุมชนนำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์และเห็นผลจริง

ทำบัญชีครัวเรือน ลดรายจ่าย
เพิ่มรายได้ ปลดหนี้เงินล้าน

สำหรับความเป็นมาของคุณสำรวย บางสร้อย ก่อนจะหันมาทำบัญชีในการประกอบอาชีพจนประสบความสำเร็จในชีวิตในวันนี้ได้นั้น เป็นคนที่ประสบปัญหาหนี้สินเป็นหลักล้านบาท จากการนำมารักษาอาการเจ็บป่วยของตนเอง ซึ่งเคยมีปัญหาปลายประสาทตาอักเสบจนตาบอดเป็นเวลาหลายเดือน ทำให้ต้องทยอยขายสมบัติที่มีทั้งที่นา วัว และรถไถนา เพื่อนำเงินมารักษาตนเองจนหมดตัว จากวิกฤตชีวิต   ดังกล่าวเป็นจุดเริ่มต้นในการจุดประกายความคิดในการหันมาจดบันทึกทำบัญชี เนื่องจากเห็นว่าการทำบัญชีทำให้รู้รับ-รู้จ่ายและรู้ว่ามีหนี้สินเท่าไร และจะปรับลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนและต้นทุนในการทำนาให้ได้กำไรและมีเงินเหลือเก็บไว้ใช้หนี้ได้อย่างไร

.คุณสำรวย บางสร้อย

ภายหลังจากการรักษาอาการเจ็บป่วยแล้ว ในปี 2560 จึงได้เข้าร่วมโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และได้ศึกษาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวทางของในหลวงรัชกาลที่ 9 อย่างจริงจัง พร้อมน้อมนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ประกอบกับได้รับการสอนแนะการจัดทำบัญชีจากสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ร้อยเอ็ด กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จนสามารถจดบันทึกบัญชีและนำข้อมูลทางบัญชีมาวิเคราะห์เพื่อวางแผนการผลิตทางการเกษตรได้และมาเป็นครูบัญชีในปี 2561

ต่อมาในปี 2562 ได้นำความรู้จากการถอดบทเรียนของตนเองมาถ่ายทอดให้แก่ชุมชนและเกษตรกรที่เข้ารับการอบรม พร้อมสอนแนะการใช้นวัตกรรมการจดบันทึกบัญชีผ่าน Application SmartMe ของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ โดยได้เรียนรู้และนำไปทดลองใช้ด้วยตนเองจนเห็นผลเพื่อเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรและประชาชนสนใจเรียนรู้และมองเห็นความสำคัญของการจดบันทึกบัญชี

อบรมการทำบัญชีครัวเรือน

ทำไร่นาสวนผสม รายได้เพิ่มพูน

จากการจดบันทึกบัญชีอย่างต่อเนื่องและนำข้อมูลทางบัญชีมาวางแผนการผลิตทางการเกษตรอย่างเป็นระบบในแต่ละปี จึงสามารถวางแผนปรับเปลี่ยนการทำการเกษตร จากเดิมที่ทำนาหว่าน จำนวน 20 ไร่ หลังจากทำบัญชีทำให้ทราบต้นทุนการผลิตว่า มีต้นทุนสูงจากค่าปุ๋ยเคมีและได้ผลผลิตน้อย ไม่คุ้มกับการลงทุน จึงปรับเปลี่ยนจากการทำนาหว่านมาทำนาหยอดซึ่งได้ผลกำไรมากขึ้น

จนกระทั่งปรับเปลี่ยนอาชีพจากทำนาอย่างเดียวมาทำอาชีพเกษตรในลักษณะของการทำไร่นาสวนผสม โดยแบ่งพื้นที่จากการทำนาจำนวน 20 ไร่ เป็นการทำนาข้าว จำนวน 10 ไร่ ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น และพืชผัก จำนวน 6 ไร่ ทำประมง จำนวน 2 ไร่ เลี้ยงสัตว์ จำนวน 1 ไร่ และสร้างที่อยู่อาศัย จำนวน 1 ไร่ เช่น การปลูกแตงกวาน้ำหยด การปลูกขึ้นฉ่าย การเลี้ยงปลาดุกและปลาตะเพียน ฯลฯ

โดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ทดแทนปุ๋ยเคมี เพื่อลดต้นทุนและรักษาสิ่งแวดล้อม และขยายการปลูกพืชหลากหลายชนิดมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้มีรายได้หลายทาง ปัจจุบันคุณสำรวยสามารถชดใช้หนี้สินจนเหลือน้อยลง และสามารถบริหารจัดการทรัพย์สินได้ดียิ่งขึ้น

เยาวชนสนใจเรียนรู้การทำบัญชี

ภายหลังจากที่ประสบผลสำเร็จในการนำข้อมูลทางบัญชีมาวิเคราะห์เพื่อวางแผนการลดต้นทุนการทำนาและต้นทุนการทำไร่นาสวนผสมแล้ว ได้ขยายเครือข่ายด้านบัญชีให้ชุมชนด้วยการสร้างเครือข่ายในการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านบัญชีรับ-จ่ายในครัวเรือนและบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพให้แก่เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร เยาวชน และประชาชนทั่วไปอย่างต่อเนื่อง

โดยในปี 2561 ได้สอนแนะนำการจัดทำบัญชีครัวเรือนและต้นทุนประกอบอาชีพแก่เกษตรกรในโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ในพื้นที่อำเภอปทุมรัตต์ จำนวน 470 คน พร้อมทั้งได้ติดตามการจัดทำบัญชีของเกษตรกร โดยพบว่าเกษตรกรสามารถจดบันทึกบัญชีได้ จำนวน 385 คน ในจำนวนนี้มีเกษตรกรที่จดบันทึกบัญชีอย่างต่อเนื่อง จำนวน 40 คน

เป็นวิทยากรอบรมความรู้

ปัจจุบัน คุณสำรวยเป็นผู้นำในการส่งเสริมผลักดันให้มีการทำบัญชีและการใช้ข้อมูลบัญชีเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์การวางแผนงานต่างๆ ให้เกิดประโยชน์ในชุมชน โดยเป็นเจ้าของศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) เครือข่าย ประจำอำเภอปทุมรัตต์ จัดสรรพื้นที่ของตนเองเป็นแหล่งเรียนรู้การทำเกษตรแบบผสมผสานให้แก่เกษตรกรและประชาชนที่สนใจเข้าไปศึกษาและเรียนรู้ได้ตลอดเวลา มีหน่วยงานที่ให้ความสนใจมาศึกษาดูงานอย่างต่อเนื่องและสร้างเครือข่ายคนทำบัญชีและการเกษตรในหมู่บ้าน เพื่อเป็นการต่อยอดองค์ความรู้ด้านการจดบันทึกบัญชีและด้านการเกษตรให้แก่เกษตรกรในชุมชนนำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์เห็นผลจริง

………….

เผยแพร่ในระบบออนไลน์เป็นครั้งแรก เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2564