พลิกวิกฤตจากนาข้าว เป็น สวนฝรั่งกิมจูบ้านไผ่ ขอนแก่น

ในภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ในช่วงวิกฤตเช่นนี้ต้องมีการปรับเปลี่ยนและคิดนอกกรอบ…

เหมือนอย่าง คุณรัตนา ลิ้มวงศ์วิรัช หรือ คุณรัตน์ ผู้ช่วยเจ้าพนักงานการเงินและบัญชี องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านไผ่ อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น มีมรดกที่นาอยู่ 5 ไร่ กับ 2 งาน ตกทอดมาจากปู่ย่าตายาย ที่ทำนาเลี้ยงดูลูกหลานมาจนเติบใหญ่

คุณรัตนา ลิ้มวงศ์วิรัช กับร่องน้ำล้อมรอบสวนฝรั่ง

แต่มาถึงยุคสมัยปัจจุบันในช่วงวิกฤต อีกทั้งสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนไป การจะทำนาเพื่อหวังผลผลิตเหมือนอย่างที่คิด ไม่สามารถทำได้อีกต่อไป บางปีทำนาจนหน้าดำแต่กลับไม่ได้ข้าวอย่างที่ตั้งใจ บางปีแล้งหนักจนข้าวยืนต้นตายเพราะขาดน้ำ

คุณรัตนา ลิ้มวงศ์วิรัช กับแถวฝรั่งที่ลงปลูกใหม่ๆ

จะทำอย่างไรกับที่ดินและผืนนาแปลงนี้ ความคิดของลุงที่ย้ายถิ่นฐานไปอยู่บ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร มาประจวบเหมาะกับญาติกันได้ทำสวนฝรั่งกิมจูและสวนมะนาวอยู่ที่บ้านแพ้ว ทุกครั้งที่ลุงมาเยี่ยมญาติที่บ้านเกิด ตำบลบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ก็เอากิ่งพันธุ์ฝรั่งในสวนบ้านแพ้วมาฝากอยู่เสมอ จึงได้ช่วยค่ารถ ค่าน้ำมัน ให้ลุง…คุณรัตนา ว่าอย่างนั้น

อีกมุมคุณรัตนา ลิ้มวงศ์วิรัช กำลังเก็บผลผลิตฝรั่งที่แก่ได้ที่

จากที่นา 5 ไร่ กับอีก 2 งาน จึงกลายมาเป็นสวนฝรั่งกิมจูเต็มพื้นที่ 3 ไร่ ส่วนที่เหลือยังคงรักษาไว้เพื่อใช้ทำนาต่อไป เพื่ออาศัยได้มีข้าวไว้กิน…

สามีผู้ช่วย คุณรัตนา กำลังเพลินอยู่กับการห่อฝรั่ง

ปัจจุบัน ฝรั่ง 600 ต้น ก็เต็มพื้นที่นา 3 ไร่ โดยเป็นการลงปลูกฝรั่งพันธุ์กิมจู ครั้งแรกนำร่องไปก่อน 300-400 ต้น เพื่อไว้กินไว้ขาย จากนั้นก็ทยอยปลูกพันธุ์อื่นๆ ตามมา และขยายกิ่งพันธุ์ต่อเนื่อง ซึ่งประกอบไปด้วย ฝรั่งพันธุ์แตงโม พันธุ์สายน้ำผึ้ง พันธุ์หงส์เป่าสือ พันธุ์ชมพูพันธุ์ทิพย์ และเจินจู เป็นต้น และคุณรัตนายังปลูกสะสมฝรั่งสายพันธุ์แปลกๆ เพิ่มเติมอีกมากมาย

ฝรั่งที่ห่อและห่อคลุมด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์อีกชั้น

เป็นความสำเร็จจากการเปลี่ยนที่นามาทำสวนฝรั่งกิมจู เข้าสู่ปีที่ 6 ผ่านไป และมีรายได้จากสวนฝรั่งมาอย่างต่อเนื่องทุกๆ ปี ที่สามารถเก็บผลผลิตขายได้ตลอดทั้งปี 3-4 ครั้ง

กิมจูลูกดกๆ บนต้นที่ได้รับความนิยม

สิ่งสำคัญ ฝรั่งกิมจูของคุณรัตนาที่ว่านี้เป็นที่นิยมในตำบลบ้านไผ่ ลูกค้าติดอกติดใจในรสชาติความหวานกรอบอร่อย ขนาดผลก็ใหญ่กำลังดี เป็นที่ชื่นชอบของคนในท้องถิ่นบ้านไผ่ เรียกว่า เก็บมาได้เท่าไหร่ก็ไม่พอขาย

ชมพูพันธุ์ทิพย์ เนื้อสีชมพูผ่าลูกให้เห็นไกลๆ

หลายๆ ครั้ง เคยมีพ่อค้ามาติดต่อขอรับซื้อเหมาสวน ให้ราคาดีซะด้วย…!

และให้ราคาแพงกว่าที่ขายอยู่เป็นเท่าตัว แต่ก็ไม่ได้ตกลง เพราะมีลูกค้าประจำคนในชุมชนหมู่บ้าน หลายรายสั่งจองกันล่วงหน้า ซึ่งขายยืนพื้นอยู่หน้าสวนที่ 3 กิโลร้อย หรือกิโลกรัมละ 35 บาท ไม่ขึ้น ไม่ลง ผลผลิตที่เก็บมาได้แต่ละครั้ง ราวๆ 200-300 กิโลกรัม แต่ก็ยังไม่พอขายอยู่ดี สำหรับฝรั่งพันธุ์กิมจู ลูกกลมๆ เนื้อสีขาว ขนาดเท่ากำปั้น 4-5 ลูกต่อกิโล

ชมพูพันธุ์ทิพย์ ผ่าให้เห็นเนื้อสีชมพูเปรียบเทียบ

พันธุ์หลากหลาย

ส่วนพันธุ์อื่นๆ ก็มีปลูกไว้อย่างละเล็กละน้อยเช่นเดียวกัน ประกอบไปด้วย

ฝรั่งพันธุ์สายน้ำผึ้ง มีปลูกไว้ 20 ต้น เป็นพันธุ์ไต้หวัน เนื้อสีขาว ลูกใหญ่สวยและอร่อยกว่ากิมจู ราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 80 บาท ที่หน้าสวน

อีกมุมชมพูพันธุ์ทิพย์ ลูกกลมๆ ดกๆ คาต้น

ฝรั่งพันธุ์แตงโม มีปลูกไว้ 50 ต้น เป็นพันธุ์ไต้หวัน มีชื่อเรียกว่า “ซีกัวตาล่า” ลักษณะลูกยาวๆ เนื้อสีแดงเหมือนแตงโม ผลโตสุด 7-8 ขีด มีน้ำหนักมาก 2 ลูกต่อกิโลกรัมกว่าๆ ด้านความอร่อยหวานกรอบ จะแตกต่างจากกิมจูและสายน้ำผึ้ง

ฝรั่งพันธุ์สายน้ำผึ้ง รสชาติจะหวานเหมือนตามชื่อ ลักษณะผลจะเป็นคลื่น

ฝรั่งพันธุ์หงส์เป่าสือ มีปลูกไว้ 60 ต้น เป็นพันธุ์ไต้หวัน เนื้อสีแดง ผลกลมๆ เหมือนกิมจู เมื่อแก่จัดผลจะออกสีเหลืองนวลๆ ทอง รสชาติออกเปรี้ยวหวาน อร่อยกว่าฝรั่งเนื้อสีแดงในทุกๆ พันธุ์ แต่ก็ยังสู้ฝรั่งเนื้อขาวไม่ได้

ฝรั่งพันธุ์ชมพูพันธุ์ทิพย์ นำมาทดลองปลูก 7-8 ต้น เพื่อดูว่าจะแตกต่างกันอย่างไรกับแต่ละสายพันธุ์ ส่วนรสชาติจะออกหวานไม่มีเปรี้ยว เมื่อแก่จัดเนื้อจะออกไปในโทนสีชมพู

คุณรัตนา เล่าให้ฟังอีกว่า ฝรั่งเนื้อสีแดง ในสวนทุกสายพันธุ์จะตั้งราคาขายอยู่ที่ กิโลกรัมละ 80 บาท เพราะมีความโดดเด่นในเรื่องของสี และรสชาติที่หวาน กรอบ แล้วแต่ความชอบที่แตกต่างกันไป จะหวานน้อยหวานมาก เป็นต้น

ไม่เพียงฝรั่งที่เน้นปลูกขายและขยายพันธุ์ ยังมีฝรั่งสายพันธุ์แปลกๆ อีกมากมาย ที่คุณรัตนาสรรหามาปลูกเพื่อศึกษาทดลอง ทาบกิ่ง เสียบต้นตอ เพื่อขยายพันธุ์และจำหน่ายกิ่งพันธุ์ต่อไป

พันธุ์แตงโม ลูกจะเรียวยาว เนื่องสีแดงเหมือนแตงโม

การจัดการสวนฝรั่ง และบำรุงดูแล        

คราวนี้ก็มาถึงการจัดการสวนฝรั่ง ทำไมรสชาติถึงหวานกรอบอร่อย คุณรัตนา บอกว่า ไม่ได้บำรุงดูแลอะไรมากมายเป็นพิเศษ เพียงแค่ใส่ปุ๋ยคอก ขี้วัว กับน้ำ สำคัญคือ น้ำอย่าให้ขาดก็เท่านั้นเอง ส่วนรสชาติที่หวานกรอบอร่อยน่าจะเป็นที่ดินปลูกและสายพันธุ์ฝรั่งมากกว่า

พันธุ์หงส์เป่าสือ เมื่อผ่าเนื้อจะออกสีแดง

แต่การปลูกในช่วงที่เริ่มต้นใหม่ๆ ก็จะต้องมีการบำรุงดูแลเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการใช้ปุ๋ย สูตรเสมอ 15-15-15 เพื่อบำรุงต้นและให้น้ำทุกวันเช้า-เย็น แต่อย่าให้น้ำท่วมขัง เมื่อฝรั่งแข็งแรงตั้งต้นได้และออกลูกในเดือนที่ 8-9 ก็ไม่เคยใส่ปุ๋ยสูตร 15 อีกเลย จะใช้ก็เพียงปุ๋ยขี้วัว ที่เลี้ยงไว้ 2 ตัว เพื่อทำปุ๋ยมาตลอด โดยการโรยขี้วัวไปรอบๆ โคนต้น แล้วพรวนดินกลบด้วยฟางข้าวด้านบนอีกชั้น เพื่อคลุมห่มดินที่โคนต้นฝรั่ง

สิ่งสำคัญเป็นขั้นตอนสุดท้ายคือ การห่อผล เพื่อคุณภาพของฝรั่งที่สมบูรณ์ เมื่อฝรั่งออกผลเขียวๆ ขนาดเท่าไข่นกกระทา จากนั้นก็ห่อด้วยถุงพลาสติก แล้วใช้กรรไกรตัดก้นถุงเพื่อการระบายอากาศ แต่อย่าตัดให้เป็นรูโบ๋ เพราะแมลงจะเข้าไปวางไข่และเจาะกิน ทำให้ฝรั่งเสียหายได้ เมื่อห่อถุงพลาสติกแล้ว ก็ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์คลุมอีกชั้น เพื่อป้องกันแสงแดดเผาไหม้ ทำให้ผิวฝรั่งไม่สวย ข้อสำคัญแต่ละกิ่งอย่าให้ฝรั่งมีผลเกิน 2 ลูกต่อกิ่ง เพราะจะรับน้ำหนักไม่ไหว ให้เด็ดออก อย่าไปเสียดาย

ผ่าพิสูจน์เปรียบเทียบเนื้อในฝรั่งแต่ละพันธุ์

เมื่อห่อแล้วผ่านไปเดือนกว่าๆ หรือเดือนครึ่ง ฝรั่งก็จะโตได้ขนาด สามารถเก็บผลผลิตพร้อมจำหน่ายได้เลย และเคยทดลองฝรั่งในลูกที่ไม่ได้ห่อจะโตช้าสุดๆ ส่วนฝรั่งที่ห่อจะโตเร็วมาก และก็เช่นเดียวกันในเรื่องของการให้น้ำ โดยมีน้ำสำรองที่ได้เจาะบาดาลไว้ในสวน แล้วสูบทิ้งไว้ตามร่องสวน เมื่อจะใช้น้ำก็สูบจากร่องสวนผ่านสปริงเกลอร์ ให้น้ำ 2-3 วันต่อครั้ง แต่อย่าให้ขาดน้ำ เมื่อฝรั่งแก่ได้ที่ก่อนเก็บผลผลิตควรงดการให้น้ำ 3-4 วัน แล้วจึงเก็บผลผลิตได้ ฝรั่งก็จะหวานกรอบเพิ่มมากขึ้น ไม่อมน้ำ ขณะที่เก็บผลผลิตก็ควรตัดยอดเล็มกิ่ง ฝรั่งก็จะออกดอกแตกยอดผลมาใหม่

อีกสายพันธุ์ฝรั่ง ชื่อ เจินจู ทรงเรียวยาว

อีกเคล็ดลับของคุณรัตนาคือ การทำสาวต้นฝรั่ง เมื่ออายุ 7-8 ปี โดยการตัดให้เหลือแต่ตอ แล้วมันก็จะแตกยอดออกดอกกิ่งก้านเป็นพุ่มขึ้นมาใหม่ใน 1-2 เดือน ในบางต้นไม่จำเป็นต้องรอให้ถึง 7-8 ปี ดูแล้วว่าต้นนั้นๆ ไม่เจริญเติบโต มีไม่ผลผลิต ก็ให้ตัดตอทำสาวใหม่ได้เลย แต่ข้อควรระวัง ห้ามใช้มีดตัดเด็ดขาด เพราะจะทำให้กระทบกระเทือนลำต้นและราก ควรใช้เลื่อยตัดเป็นการดีที่สุด

ผลฝรั่งขนาดประมาณนี้ก็เริ่มห่อได้แล้ว

คุณรัตนา ฝากทิ้งท้าย “ในสวนของเราเริ่มทำการทาบกิ่ง เสียบตอฝรั่ง และเพาะพันธุ์ขาย โดยใช้ต้นตอฝรั่งป่า ฝรั่งขี้นก ฝรั่งพื้นเมือง มาทำต้นตอ เพราะต้นตอพันธุ์เหล่านี้มันก็จะมีรากแก้ว หาอาหารได้เก่ง โตเร็ว รวมถึงการทาบกิ่งด้วย โดยจำหน่ายอยู่ที่ต้นละ 200 บาท”

กิ่งพันธุ์จากการเสียบยอดพร้อมขายติดผลแล้วด้วย

ผู้อ่านท่านใดสนใจก็ติดต่อไปได้ที่ “บ้านสวนฝรั่งรัตนา” เลขที่ 88 หมู่ที่ 11 บ้านกอบง ตำบลบ้านไผ่ อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น กริ๊งกร๊างหาได้เลยครับที่ โทร. 065-341-7528 หรือไปส่องมองหาได้ที่เฟซบุ๊ก FB รัตนา ลิ้มวงศ์วิรัช  

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกวันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2564