บัณฑิตพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ใช้วิกฤตโควิด ทำเกษตรรอบบ้าน สร้างรายได้เสริม

ในช่วงสถานการณ์ โควิด-19 เช่นนี้ เป็นปัญหาอย่างมากในเรื่องของการเดินทางไปยังที่ต่างๆ เพราะทุกคนต้องมีการระมัดระวังตัวมากขึ้น ในเรื่องของการไม่ให้ตัวเองไปสัมผัสเชื้อโควิด-19 จึงทำให้การอยู่บ้านเพื่อหยุดเชื้อ เพื่อลดการกระจายเชื้อหรือสัมผัสเชื้อมีความสำคัญ หลายๆ ท่านจึงมีกิจกรรมที่ทำในช่วงนี้ที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการเลี้ยงสัตว์และการปลูกต้นไม้เพื่อเป็นกิจกรรมยามว่าง รวมไปถึงบางท่านเห็นประโยชน์ของการปลูกพืชที่ให้ผลผลิต ที่สามารถสร้างรายได้เสริมนำมาใช้จ่ายได้อีกด้วย

คุณศิรินันท์ บุญอิ่ม

คุณศิรินันท์ บุญอิ่ม อยู่บ้านเลขที่ 24/2 หมู่ที่ 6 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ตำบลพิมลราช อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เป็นผู้ที่เห็นความสำคัญของการมีพืชที่ให้ผลผลิตที่สามารถเสริมรายได้นอกเหนือจากงานประจำ จึงได้มีการปลูกพืชและไม้ผลต่างๆ รอบบริเวณบ้าน ในเนื้อที่ 1 ไร่เศษ โดยดูแลบำรุงเป็นอย่างดี ส่งผลให้มีผลผลิตตลอดทั้งปี

คุณศิรินันท์ เล่าให้ฟังว่า พื้นเพครอบครัวของเธอทำในเรื่องของการเกษตรมานานแล้ว เธอจึงได้มีแรงบันดาลใจศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี สาขาวิชาเอกพืชสวน คณะเทคโนโลยีการเกษตร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เมื่อจบการศึกษาได้เข้าทำงานเป็นลูกจ้างในหน่วยงานราชการทันที ทำให้ยังไม่ได้มีโอกาสมาทำงานทางด้านการเกษตร แต่เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด-19 จึงได้มีเวลาอยู่บ้านมากขึ้น เพราะที่ทำงานเริ่มมีการจัดระบบการทำงานแบบ Work From Home ส่งผลให้เกิดการหารายได้เสริม จากนั้นเธอจึงเริ่มดูแลพืชที่ปลูกและไม้ผลรอบบ้านให้สมบูรณ์มากขึ้น

พื้นที่ภายในสวน

“หลังจากเรียนจบมา เรียกได้ว่ายังไม่ได้ทำงานทางด้านการเกษตรโดยตรงเหมือนที่จบการศึกษามา เพราะเข้าไปทำงานประจำก่อน พอช่วงโควิด เมื่อปี 2563 เรามีโอกาสได้ทำงานอยู่ที่บ้านบ้าง เพราะสถานการณ์โควิด-19 พอมาทำเราก็เห็นว่าช่วงนั้นพ่อปลูกพืชอย่าง มะนาว ไว้รอบบ้านเลย พร้อมกับมีมะม่วง กล้วย เราก็เริ่มมาคิดว่า เราค่อนข้างมีความรู้จากสิ่งที่เรียนมา และผลผลิตที่พ่อปลูก ยังไม่ได้ให้ผลผลิตดีเท่าที่ควร เราเห็นว่าควรมีการสร้างรายได้เสริมจากจุดนี้ จึงค่อยๆ ปลูกพืชเพิ่ม และดูแลที่มีอยู่ให้สมบูรณ์มากขึ้น” คุณศิรินันท์ บอก

มะม่วงที่ออกตามฤดูกาล

ซึ่งเนื้อที่ดินประมาณ 1 ไร่เศษ คุณศิรินันท์ บอกว่า สามารถปลูกพืชได้หลายชนิดในระยะห่างระหว่างต้นที่ไม่ได้กำหนดตายตัว โดยยึดหลักที่ว่ามีพื้นที่ว่างตรงไหนก็ปลูกตรงนั้น ซึ่งในพื้นที่บริเวณรอบบ้านของเธอจะมีมะนาวกับมะม่วงที่ปลูกสลับกันส่วนใหญ่ จากนั้นเสริมด้วยกล้วยหอม กล้วยน้ำว้า ให้เต็มพื้นที่ เพื่อให้มีผลผลิตเก็บสลับกันจำหน่ายได้ตลอดทั้งปี

ลูกค้าสั่งทุกครั้งที่มีผลผลิต

การดูแลพืชให้มีความสมบูรณ์และมีผลผลิตที่ดี หลังจากเก็บผลผลิตจำหน่ายจนหมดแล้ว จะเริ่มตัดแต่งกิ่งทันทีโดยเฉพาะมะม่วง จากนั้นนำปุ๋ยคอกและปุ๋ยเคมีเข้ามาใส่เสริมบ้าง รดน้ำตามความเหมาะสมก็จะช่วยให้ต้นมะม่วงมีความสมบูรณ์ ส่วนมะนาวก็จะมีการบังคับให้ออกผลนอกฤดูบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเน้นให้ออกในฤดูกาล เพราะทุกคนในครอบครัวมีงานประจำ จึงไม่ได้มีเวลาดูแลมากนัก

เมื่อผลผลิตอย่าง มะม่วง หมดช่วงการเก็บเกี่ยว คุณศิรินันท์ บอกว่า ก็จะมีมะนาวกับกล้วยที่ออกผลผลิตมาในช่วงถัดไป จึงทำให้มีรายได้อยู่ตลอดทั้งปี ยิ่งสถานการณ์โควิด-19 เช่นนี้ รายได้เสริมจากการจำหน่ายผลผลิตรอบบ้านจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะอย่างน้อยนำมาเสริมค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้ไม่น้อยทีเดียว

“พอเรามาเริ่มทำเกษตรแบบเสริมรายได้ มันรู้สึกสนุกมาก เพราะเราเริ่มเห็นความสำคัญของสิ่งที่มีมากขึ้น พอมองไปพื้นที่ที่อำเภอที่เราอยู่ บางคนตกงาน บางคนต้องกลับมาอยู่บ้านเวลานาน เพราะไม่สามารถทำงานได้ แต่เรามีพื้นที่รอบบ้านที่สามารถทำการเกษตรได้ อย่างน้อยเป็นรายได้เสริมในยามนี้ถือว่าดีมาก อีกอย่างพืชต่างๆ เราปลูกเอง เรื่องโรคและแมลงศัตรูพืช ก็ใช้วิธีทางธรรมชาติ จึงทำให้เรามั่นใจว่าไม่เกิดอันตรายแน่นอน คนซื้อก็มั่นใจผลผลิตของเรา” คุณศิรินันท์ บอก

กล้วย จำหน่ายผลผลิตได้ตลอดปี

สำหรับในเรื่องของการทำตลาดเพื่อจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรที่ปลูกรอบบ้านนั้น คุณศิรินันท์ บอกว่า จะติดต่อกับร้านค้าในพื้นที่ และบางส่วนจะมีเพื่อนบ้านที่ต้องการซื้อเพื่อนำไปจำหน่ายต่อเข้ามาติดต่ออยู่เป็นระยะ โดยเธอจะเน้นโพสต์ลงทางเฟซบุ๊กส่วนตัวอยู่เสมอว่า ช่วงนี้มีผลผลิตอะไรบ้างที่กำลังจะเก็บจำหน่ายได้ ก็จะมีเพื่อนติดต่อเข้ามาแจ้งความประสงค์ว่าต้องการซื้ออะไรบ้าง

อย่างเช่น ราคามะนาวบางช่วงที่ราคาดี สามารถจำหน่ายได้ ผลละ 2-3 บาท แต่ถ้าช่วงฤดูกาลปกติ ก็อยู่ที่ ผลละ 1 บาท ส่วนมะม่วงอยู่ที่ กิโลกรัมละ 20-40 บาท แล้วแต่สายพันธุ์ และที่สามารถจำหน่ายได้ตลอดทั้งปี ก็จะเป็นกล้วยสายพันธุ์ต่างๆ ที่มีลูกค้าเข้ามาตัดเองภายในสวน สามารถจำหน่ายแบบยกเครือ อยู่ที่เครือละ 100-200 บาท

“พอเรามาทำอย่างจริงใจ เราเริ่มรู้สึกสนุก เพราะตลอดทั้งปีมีอะไรให้เราได้ทำอยู่เสมอ อย่างมะนาวหมดรุ่นเก็บขายได้ เราก็มีมะม่วงให้ผลผลิตมาขายช่วงถัดมา เราได้เจอลูกค้าที่เขามารับซื้อ เราได้มีกิจกรรมทำอย่างต่อเนื่อง ไม่มีความเครียดจากสถานการณ์โควิด และมีรายได้เสริมเข้ามาช่วยค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ก็ถือว่าค่อนข้างมีความสุขที่ได้ทำเกษตรในช่วงนี้ และอยากให้ทุกคนได้ลองทำดู หากมีพื้นที่บริเวณบ้านเหลือที่จะปลูกพืชได้” คุณศิรินันท์ บอก

สำหรับท่านใดที่สนใจในเรื่องของการทำเกษตร ในพื้นที่น้อยรอบบริเวณบ้านในสถานการณ์โควิด-19 เช่นนี้ ต้องการแนวคิดหรือแรงบันดาลใจ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณศิรินันท์ บุญอิ่ม หมายเลขโทรศัพท์ 085-901-0086