ที่มา | เทคโนโลยีเกษตร |
---|---|
ผู้เขียน | กัลยดา ชุ่มอินทรจักร |
เผยแพร่ |
ไวท์ ซาโปเต้ หรือ ละมุดขาว เป็นพืชใหม่สำหรับเมืองไทย แต่เป็นผลไม้เขตร้อน เป็นผลไม้อีกหนึ่งอย่างที่กำลังมาแรงในตลาดอย่างรวดเร็ว ด้วยมีคุณลักษณะที่นิ่มเหมือนคัสตาร์ด กินง่าย อ่อนนุ่ม รสชาติหวาน ปลูกเป็นไม้กระถางได้ ตอนนี้ถ้าใครนำไปเพาะพันธุ์ต่อยอดจะทำให้ตลาดต้นไม้มีของเพิ่มมาอีก ประดับบ้านก็สวยงาม ตัดแต่งให้เป็นพุ่มเตี้ยได้ ต้นพันธุ์เสียบยอดจากการเพาะเมล็ดของเขาเอง นำมาเสียบยอดอีกขั้นหนึ่งทำให้มีรากแก้ว ทำให้หาอาหารได้ดี

คุณสุพัตรา นิรังกุล ผู้ที่ชอบทดลองปลูกพืชใหม่ๆ ที่ได้รสชาติดี จะคัดเลือกไม้ผลจากต่างถิ่นมาพัฒนาและต่อยอดการตลาดในเมืองไทย โดยก่อนที่คุณสุพัตราจะนำมาเผยแพร่ต้องได้รับการทดลองปลูกจนประสบความสำเร็จ และการปลูกที่ไม่ยุ่งยาก เจริญเติบโตได้ดีในเมืองไทย หรือเขตร้อนอย่างบ้านเรา เช่น ต้นละมุดขาว หรือ ไวท์ ซาโปเต้ ก็จะปลูกจนได้ผลผลิตออกมา และจะเผยแพร่ด้วยการออกงานเกี่ยวกับสินค้าเกษตร งานเกษตรต่างๆ ของทางราชการจัดบ้าง หรือทั่วไปบ้าง ต้นละมุดขาวได้ผลสำเร็จดีมาก เป็นที่ยอมรับ คิดว่าเป็นไม้ผลที่สามารถทำการตลาดได้ และผู้ที่ต้องการมองหาอาชีพค้าขายต้นไม้หรือนำไปจัดสวน ผลที่ออกมาทั้งสวยและกินได้
คุณสุพัตราถือว่าเป็นผู้คร่ำหวอดอยู่กับต้นไม้ประดับกินได้ เป็นผู้ปลูก ไวท์ ซาโปเต้ หรือละมุดขาว ที่ประสบความสำเร็จ และขายผลทางออนไลน์ทั่วประเทศ พร้อมกับนำเมล็ดไปเพาะ เพื่อต่อยอดการตลาด ในการขยายต้นพันธุ์
“อยากจะแนะนำผู้ที่กำลังคิดจะเริ่มค้าขายเกี่ยวกับไม้ผล ไม้ประดับกินได้ ต้องมีต้นละมุดขาวด้วย เพราะเป็นพืชที่กำลังนิยม และการปลูกง่ายมาก เพียงแต่ท่านต้องห่อลูก ป้องกันแมลงวันทอง แต่ที่ปลูกอยู่ที่สวนดกมากจนห่อไม่ทัน และก็เก็บตอนลูกแก่จัดแต่ยังไม่นิ่ม ก็ไม่มีปัญหาเรื่องแมลงเจาะ เป็นต้นไม้ที่ดูแลง่ายมาก เพราะชอบอากาศร้อนอย่างบ้านเรา” คุณสุพัตรา กล่าว

ที่สวนสุพัตรา ขยายพันธุ์และเพาะพันธุ์ละมุดขาวที่นำเข้าต้นพันธุ์จากอเมริกาใต้ ใช้เวลาปลูกมา 7 ปี จนประสบความสำเร็จ ได้ผลดกมากมายและรสชาติที่นุ่มนวลละลายในปาก ที่เจ้าของพยายามพัฒนาต่อยอดต้นพันธุ์เขตร้อนทั่วทุกมุมโลก นำมาเพาะพันธุ์ และปรับปรุงเรื่องของการปรับตัว จนได้ต้นพันธุ์ที่เข้ากับสภาพดินฟ้าอากาศเมืองไทย แต่ต้องมีสายพันธุ์ที่อยู่ในเขตร้อนมาก่อนเท่านั้น
ราคาขายตอนนี้ก็ตั้งราคาส่งจากสวน กิโลกรัมละ 100 บาท ไม่รวมค่าขนส่ง เหมาะสำหรับเป็นส่วนหนึ่งของผลไม้ที่ควรจะมีอยู่ในกระเช้าของฝาก ถึงแม้เปลือกจะบาง แต่ก็อยู่ในวิถีของการขนส่งที่รวดเร็วในปัจจุบัน ที่ไม่เกิน 3 วัน อยู่ได้โดยไม่เสียหาย เป็นผลไม้ของฝากที่คนกินไม่ได้ซื้อ คนซื้อไม่ได้กิน

ทำไม ถึงหันมาปลูกละมุดขาว
“เห็นว่า ละมุดขาว เป็นผลไม้ที่ขายกันทั่วไปในอเมริกาและแอฟริกาใต้ บราซิล คอสตาริกา เป็นที่นิยม เพราะว่าเป็นผลไม้ที่นุ่มเหมือนคัสตาร์ด ต่างประเทศมักจะเขียนป้ายบอกว่า white sapote หรือ custard fruit ด้วยรสชาติที่ให้ใครชิมก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า…ชอบ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว และหวานนิ่มนวล ต่างประเทศมักจะนำมาปั่นเป็นมิลค์เชค คล้ายกับน้ำปั่น อะโวกาโด คิดว่าถ้าตลาดไปกว้างกว่านี้ก็จะมีเมนูน้ำปั่น ไวท์ ซาโปเต้ หรือละมุดขาวในเมนูบ้านเรา” เจ้าของบอก
คุณสุพัตรา บอกว่า ที่สวนได้ปลูกมานานกว่า 7 ปีแล้ว และเห็นผลแล้วว่า รสชาติอร่อยมาก น่าจะเป็นที่ถูกปากของคนไทย ที่สำคัญคือ ปลูกง่าย เหมาะสำหรับทำเป็นธุรกิจไม้ประดับกินได้ เป็นทั้งผลไม้และไม้ประดับ พุ่มขนาดกลาง แต่ถ้าปลูกลงดินจะมีพุ่มใหญ่คล้ายต้นมะม่วง ข้อดีคือ เป็นทั้งร่มเงาและสร้างรายได้ ราคาขายในต่างประเทศ อยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 9 ดอลลาร์ ถือว่าได้ราคาดีเลยทีเดียว

ชื่อวิทยาศาสตร์ และลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Casimiroa edulis ปลูกในอเมริกาใต้ (คอสตาริกา เอลซัลวาดอร์ กัวเตมาลา)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ …เป็นไม้ผลขนาดเล็ก ให้ร่มเงา ปลูกเป็นไม้กระถาง ไม้ประดับ ต้นไม้หลังบ้าน-หน้าบ้าน ความสูงประมาณ 4.6-18 เมตร เป็นไม้เติบโตช้า เปลือกของลำต้นหยาบ หนา กิ่งก้านไม้สม่ำเสมอ ค่อนข้างเปราะ ใบสีเขียวเข้ม ดอกมีขนาดเล็กสีเขียวซีดถึงสีครีม จะออกดอกเดือนมกราคมถึงเดือนกุมพาพันธ์

ลักษณะผล …เปลือกสีเขียวเข้มอมเหลือง เปลือกบาง เนื้อสีขาวและเรียบเนียน เมล็ดใหญ่และขาว ฤดูกาลให้ผลผลิตเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน นอกจากนั้นให้ผลผลิตน้อยลงแต่ให้ตลอดจนถึงเดือนพฤศจิกายน เป็นพืชทนแล้ง ต้องการแสงแดดเต็มที่
ลักษณะราก …ระบบรากตื้นและแข็ง ดินที่ปลูก ค่า pH หรือความเป็นกรด-ด่างของดิน อยู่ที่ 5.6-7.4
ลักษณะของดอก …ดอกไม้สีขาวครีม มักจะซ่อนอยู่ตามใบไม้ของต้นไม้ ดอกไม้สีขาวครีมจะออกเป็นช่อเหมือนช่อมะม่วง มีทั้งดอกตัวเมียและดอกตัวผู้ การติดผลก็จะคล้ายมะม่วง จะติดผลอ่อนในช่อที่แข็งแรง สายพันธุ์นี้จะติดผลง่าย โดยเฉพาะปลูกในบ้านเรา จะให้ดอกเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์

ลักษณะของผล …มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2-5 นิ้ว ผิวหนังมีสีตั้งแต่สีเขียวไปจนถึงสีเหลืองทอง มันบางและเรียบเนียน รสชาติที่ยังไม่แก่จัดของเปลือกจะมีรสขมเล็กน้อย เนื้อมีตั้งแต่สีขาวไปจนถึงสีขาวนวลและมักมีต่อมน้ำมันสีเหลืองประปราย เนื้อเนียนนุ่มชุ่มคัสตาร์ด รสชาติหอมหวาน จะมีเมล็ด 1-3 เมล็ด มีความยาวไม่เกิน 1 นิ้ว ซึ่งมีลักษณะคล้ายเมล็ดกระท้อน ลักษณะของผลมีความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นผลไม้ที่น่าสนใจมากชนิดหนึ่งที่รวมลักษณะรูปทรงของผลไม้หลากหลายชนิดมารวมกัน
หมายเหตุ …ผลจะมีรสชาติดีเยี่ยมเมื่อกินสุก บีบผลจะนิ่ม ใช้ช้อนตักกินได้ สายพันธุ์ที่ปลูกได้ดีในเมืองไทยตอนนี้เปลือกจะมีสีเขียว เนื้อในจะมีสีขาวครีม เรียกว่า ไวท์ ซาโปเต้ (white sapote) หรือละมุดขาว แต่มีหลากหลายสายพันธุ์มาก เช่น แบล็ค ซาโปเต้, เยลโล่ ซาโปเต้ เป็นต้น

วิธีการขยายพันธุ์
ต้นละมุดขาวขยายพันธุ์แบบง่ายๆ สามารถนำเมล็ดไปเพาะ ให้มีรากแก้ว เพาะง่ายมากเพียงแต่นำเมล็ดแต่ละเมล็ดเพาะในถุง…ทิ้งไว้ประมาณ 3 สัปดาห์ ก็จะเริ่มผลิใบอ่อนแล้ว ทิ้งไว้อีกประมาณ 1 ปีครึ่ง ก็นำไปเสียบยอดจากต้นพันธุ์เดิมเพื่อให้มีรากแก้ว
ข้อดีก็คือ สามารถปลูกในกระถางได้ เพราะต้นเสียบยอดจะไม่ค่อยสูง ใช้เวลา 2 ปีครึ่ง ก็เริ่มแตกดอกแล้ว แต่ถ้าปลูกโดยใช้เมล็ดก็จะประมาณ 3-4 ปี ถึงจะแตกดอก แต่ก็จะมีความสูงกว่า ต้นเสียบยอด ก็เหมาะสำหรับปลูกลงดิน เมล็ดที่เหมาะสำหรับการนำไปเพาะควรจะเก็บไว้ไม่เกิน 2 เดือน ถึงจะมีเปอร์เซ็นต์งอกสูง หรือต้องการเร็วกว่านั้นก็จะเป็นกิ่งตอน แต่อาจจะต้องปลูกชิดกัน ประมาณ 4×4 เมตร รองรับการแตกพุ่มข้าง เพื่อป้องกันลมและป้องกันต้นล้ม

การตัดแต่งกิ่ง
ต้นไม้ที่เพิ่งปลูกใหม่ การตัดยอดที่เริ่มยาวออก เพื่อกระตุ้นให้เกิดการแตกกิ่งต่ำ แนะนำให้ตัดแต่งกิ่งแบบเบาๆ เป็นประจำทุกปี เพื่อให้ได้ผลด้านข้างมากขึ้นและมีใบปกคลุมภายในเพื่อป้องกันผลไม้จากการถูกแดดเผาโคนต้น หรืออีกวิธีหนึ่งควรตัดขั้วของต้นอ่อนออกเมื่อสูง 3 นิ้ว เพื่อส่งเสริมการแตกกิ่งด้านข้าง เมื่อด้านข้างใหม่มีความยาวเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า และแตกขยายเพิ่มขึ้นอีก
หลังจากปลูกเมื่อการเจริญเติบโตใหม่เริ่มต้นให้ใส่ปุ๋ยต้นอ่อน ด้วยปุ๋ยคอกหรือชีวภาพ หลังจากการตัดแต่งกิ่งและแตกยอด ก็กระตุ้นด้วยปุ๋ย สูตรเสมอ 16-16-16 เมื่อต้นไม้โตขึ้นและเริ่มแตกใบมากขึ้นให้บำรุงใบ ใช้สเปรย์ทางใบ 2-3 ครั้ง ต่อปี

ควรรดน้ำต้นละมุดขาวที่ปลูกใหม่ทุกวันในช่วงสัปดาห์แรกหรือประมาณนั้น สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ในช่วง 2-3 เดือนแรก ในช่วงที่แห้งแล้งเป็นเวลานาน (เช่น 5 วันขึ้นไป ที่มีฝนตกเล็กน้อยถึงไม่มีเลย) ควรรดน้ำ สัปดาห์ละครั้ง เมื่อถึงฤดูฝนความถี่ในการให้น้ำอาจลดลงหรือหยุดลง
เมื่อต้นละมุดขาวมีอายุ 4 ปีขึ้นไป การรดน้ำไม่จำเป็นต้องรดน้ำบ่อย การให้น้ำมากจนเกินไปต้องระวังเรื่องรากเน่า เพราะพืชชนิดนี้ไม่ชอบน้ำมาก ลักษณะทางชีวภาพคล้ายการปลูกมะม่วง การให้น้ำก็ต่อเมื่อกำลังออกผล ต้องหมั่นดูแลและจัดการระบบน้ำ ในระยะออกดอกฉีดพ่นด้วยชีวภาพแคลเซียม โบรอน เพื่อให้ขั้วเหนียว
การให้ผลผลิตและการเก็บเกี่ยว
ละมุดขาว จะให้ผลผลิตในบ้านเราเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน จะเป็นช่วงที่ให้ผลผลิตสูง และจะให้ผลผลิตแบบประปรายหลังจากเดือนมิถุนายนจนถึงเดือนสิงหาคม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศละมุดขาว อาจให้ผลผลิตถึง 5 เดือน โดยมีผลสุกไล่เลี่ยกัน ระยะตั้งแต่ออกดอกจนถึงเก็บเกี่ยวประมาณ 120 วันผลไม้ชนิดนี้มีสีเขียว แม้สุกก็ยังมีสีเขียว สังเกตดูว่าผลสุกจะมีลักษณะของผิวจะเรียบเนียน สีจะอ่อนลงเล็กน้อย ผลแก่จะยังมีความแข็งของผล
หลังเก็บเกี่ยวให้นำมาวางไว้ในที่ร่มสัก 2-3 วัน จับดูผลจะนิ่มก็จะกินได้ สีก็จะเปลี่ยนไปเล็กน้อย ผลไม้พร้อมกินเมื่อสัมผัสผลนุ่มเล็กน้อยก็กินได้ ผลที่สุกและจับดูว่าผลนิ่ม จะเก็บไว้ในตู้เย็นที่บ้านได้อย่างน้อย 2 สัปดาห์

ศัตรูพืช
ละมุดสีขาว มีศัตรูตามธรรมชาติเพียงเล็กน้อย ปลูกแบบธรรมชาติได้เลย เพียงแต่ระวังเรื่องแมลงวันทอง ถ้าห่อผลได้ก็จะดี แต่ก็ระวังเรื่อง เพลี้ยกระโดด แก้โดยฉีดพ่นน้ำส้มควันไม้ และดูเรื่องน้ำอย่าให้ขาดน้ำ
มีคุณค่าทางอาหาร และวิธีการกิน
วิธีการกิน กินผลสด เพราะว่าคุณค่าทางอาหาร ทำให้สดชื่น ด้วยความหวาน มีทั้งโปรตีนและวิตามิน หรือนำไปแช่เย็นด้วยความที่เนื้อเนียนเหมือนไอศกรีม ทำเป็นมิลค์เชคหรือเป็นแบบนมเย็นก็อร่อยมาก สีของเนื้อจะเหมือนน้อยหน่า แต่เนื้อของละมุดขาวจะละเอียดมาก คล้ายอะโวกาโด
สรรพคุณทางยา
เปลือก เมล็ด และใบของละมุดขาว มีกลูโคไซด์ ที่เรียกว่า คาซิมิโรซีน ซึ่งพิสูจน์แล้วว่ามีฤทธิ์ในการกล่อมประสาท ในบางภูมิภาคใช้เป็นยา เพื่อทำให้นอนหลับและยังใช้ยาต้มจากใบเพื่อรักษาโรคเบาหวาน ในขณะที่ในประเทศจีนนิยมใช้เพื่อลดความดันโลหิตสูง หรือนำใบอ่อนไปคั่วชงดื่มเป็นน้ำชา(อ้างอิง https://edis.ifas.ufl.edu)

ถ้าสนใจ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สวนสุพัตรา โดย คุณสุพัตรา นิรังกุล เลขที่ 199/7 หมู่ที่ 6 ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เบอร์โทร. 080-661-8899
………………
เผยแพร่ในระบบออนไลน์เป็นครั้งแรก เมื่อวันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ.2564
……………………………………………………….
สำหรับแฟนๆ นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน หากต้องการนิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้านรายปักษ์ ส่งตรงถึงบ้าน รวดเร็วทันใจอ่านได้ในทุกๆ 15 วัน สามารถสมัครสมาชิกได้ที่ คลิกลิงก์ https://shorturl.asia/0zJwQ – Line: @matichonbook หรือ สำนักพิมพ์มติชน เลขที่ 12 ถนนเทศบาลนฤมาล หมู่บ้านประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 ติดต่อฝ่ายขาย 02-589-0020 ต่อ 3354