“วีรชาต เกิดเอี่ยม” ชาวโป่งขาม เชียงราย ตั้งใจปลูกไผ่เพื่ออนุรักษ์

มีเหตุผลมากมายกับการนำไผ่มาใช้ประโยชน์ ไม่ว่าจะขายหน่อ ขายลำไผ่ และต้นพันธุ์ ทั้งยังนำไปแปรรูปในระดับอุตสาหกรรมหลายด้าน ครอบคลุมทุกปัจจัยในการดำรงชีพ

แต่สำหรับ คุณวีรชาต เกิดเอี่ยม ชาวเชียงราย ที่ไม่ได้เป็นนักวิชาการ ไม่ได้เป็นครูบาอาจารย์ ไม่ใช่พ่อค้า เขาเป็นคนธรรมดาที่มองไผ่มีคุณค่าควรอนุรักษ์เพื่อให้เป็นมรดกสืบต่อกันไป

ต้นกล้าไผ่บงหวาน ที่สร้างหน่อได้ในเวลา 6 เดือน
แหล่งปลูกไผ่บงหวาน ควรปลูกในพื้นที่มีน้ำสมบูรณ์ตลอดปี

คุณวีรชาต เคยมีอาชีพเป็นหัวหน้าเชฟอาหารที่โรงแรมในจังหวัดเชียงราย และเคยไปเป็นเชฟที่ต่างประเทศมาก่อน แต่หลังจากโควิด-19 ทำให้ต้องลาออก ความที่เป็นผู้ที่ชื่นชอบหลงใหลความสวยงามพันธุ์ไผ่ทุกชนิดในฐานะพืชมหัศจรรย์ที่มีคุณค่าก่อเกิดประโยชน์มากมาย ตั้งแต่ในครัวเรือนไปจนถึงระดับประเทศ จึงตั้งใจมุ่งมั่นทำไผ่ในแนวอนุรักษ์ โดยเฉพาะพันธุ์พื้นเมืองเชียงราย ขณะเดียวกันยังตระเวนไปทั่วทุกแห่งเพื่อตัดไผ่ขายส่งทั้งประเทศ เมื่อพบพันธุ์ไผ่แปลก น่าสนใจ หายาก ก็จะเก็บไว้เพื่อนำมาขยายพันธุ์เผยแพร่

การทุ่มเทเอาใจใส่กับงานอนุรักษ์พันธุ์ไผ่หลายชนิดทั้งในเชียงรายและที่อื่น ทำให้คุณวีรชาตเข้าสู่สังคมพบปะกับคนที่มีใจรักไผ่หลายกลุ่ม หลายองค์กร จนเป็นที่รู้จักแล้วเรียกขานเขาว่า “ลุงไทย ไผ่เชียงราย”

คุณวีรชาต หรือ ลุงไทย เข้าสู่วงการไผ่เชิงอนุรักษ์และพาณิชย์ มีความตั้งใจอนุรักษ์ไผ่ไว้หลายสายพันธุ์ พร้อมกับเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักให้แก่คนที่สนใจในสังคมท้องถิ่น ตัวอย่างพันธุ์ซางหม่นที่ได้บันทึกพันธุกรรมไว้อย่างละเอียด จึงปลูกคัดสายพันธุ์จาก จำนวน 300 กว่ากอ คัดไว้เหลือ 10 กว่ากอ แล้วกำลังปลูกขยายเพื่อขายต้นพันธุ์พร้อมกับแบ่งปัน ทั้งยังชี้ว่ามีความตั้งใจจะคัดสายพันธุ์ไผ่คุณภาพไว้เป็นของจังหวัดเชียงราย วางแผนเพาะขยายพันธุ์ให้ได้จำนวนมาก พร้อมจะแบ่งปันให้ชาวบ้านนำไปปลูกอย่างแพร่หลายเพื่อใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์

ต้นพันธุ์ไผ่ยักษ์มังกรจีน เตรียมเดินทางไปหาลูกค้า
ไผ่ซางไทย ขยายพันธุ์ง่าย เลือกไผ่ที่มีอายุพอดี รู้แหล่งที่มาชัดเจน

อย่างพันธุ์ที่ต้องการอนุรักษ์เป็นไผ่ท้องถิ่นเชียงราย ไม่ว่าจะเป็นไผ่โปก ที่มาจากสิบสองปันนา ไผ่ฮวกดำ ไผ่ซาง โดยไปตามเก็บเมล็ดพันธุ์มาเพาะ แล้วคัดสายพันธุ์ เลือกพันธุ์ที่ดีและสมบูรณ์ พร้อมจดบันทึกพันธุกรรมในแต่ละช่วงเวลาเพื่อเป็นข้อมูล

“ไผ่โปกเป็นไผ่ตระกูลเป๊าะที่มีลำใหญ่ สันนิษฐานว่ามาจากชาวเขาที่อพยพมาจากมณฑลสิบสองปันนา ที่มาอยู่เชียงราย พื้นที่พบไผ่โปกมากคือ บริเวณ อำเภอแม่จัน/แม่สลอง ขึ้นไปจนถึงหมู่บ้านอาข่า ตอนนี้เริ่มทยอยออกขุยมากขึ้น เป็นไผ่ใช้ลำ กินหน่อที่ดีมากของเชียงราย”

ลุงไทย เล่าว่า พบไผ่ซางเชียงราย ไม้เมล็ด ปี 2561 ที่ผ่านการคัดแล้ว จากแปลงปลูก ทั้งสิ้น 300 กว่ากอ เนื้อไม้หนา หน่อดก ทนแล้ง จมูกใบไม่มีขนแมว ทรงกอสวย กำลังขยายเพิ่ม ไผ่ซางเชียงรายที่ผ่านการคัดแล้ว จะทราบอายุ บันทึกพันธุกรรมที่ชัดเจน ปลูกแล้วมีอายุอยู่ได้ 60-80 ปี หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับแต่ละสายพันธุ์

ไผ่บงหวานเพชรน้ำผึ้ง กินดิบได้ ทำได้หลายเมนู
ผสมหน้าดินกับปุ๋ยขี้ไก่เพื่อเป็นวัสดุปลูก

ลุงไทย หวังให้ชาวบ้านใช้ประโยชน์จากไผ่เหล่านี้ทั้งลำและหน่อ โดยให้พันธุ์ไผ่สามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งลำ กินหน่อ อีกทั้งกอไม่รกเมื่อต้นใหญ่ ซึ่งจะช่วยให้การบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ง่ายต่อการดูแล

ขณะเดียวกันคนเชียงรายไม่นิยมเพาะต้นกล้าขาย ดังนั้น ปีที่แล้วสามารถขายไผ่พันธุ์มังกร กับข้าวหลามกาบแดงได้ดี พันธุ์ข้าวหลามกาบแดง มีลักษณะเปลือกบาง ข้อยาว เหมาะกับทำข้าวหลาม มีอยู่ที่เชียงรายจำนวนมาก นอกจากนั้น ยังมีไผ่ซางที่ไม่ได้คัดพันธุ์ ไผ่บงใหญ่ ไผ่บงหวานเพชรน้ำผึ้ง

“ไผ่มังกร ไปเก็บเมล็ดพันธุ์มาจากมณฑลยูนนานของจีน นำเมล็ดมาเพาะเป็นต้นกล้า ขายต้นละ 500 บาท ปีที่แล้วเพาะไว้จำนวน 3,000 กว่าต้น ขายดีมาก เหลืออยู่ตอนนี้ 100 กว่าต้น”

ไผ่ซางไทยอันดับ 1 ตัวท๊อปที่คัดได้แล้ว กำลังปลูกขยายเพิ่ม

โดยทั่วไปชาวเชียงรายมักปลูกไผ่ซางหม่นเชียงรายกันมาก เพราะเป็นพันธุ์ดั้งเดิมของจังหวัด เป็นพันธุ์ที่มีขนาดลำใหญ่ ลักษณะสวย เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงนำเมล็ดมาเพาะปลูกคัดพันธุ์ ถ้าหากนิ่งเมื่อไรจะตั้งชื่อว่าไผ่ซางไทย

ทว่า การปลูกไผ่เพื่อต้องการอนุรักษ์จำเป็นต้องมีทุนรอนเพื่อใช้บริหารจัดการ ดังนั้น ลุงไทยจึงเพาะต้นกล้าไผ่สายพันธุ์ดีไว้ขาย พันธุ์ไผ่ที่ลุงไทยเพาะต้นกล้าขายมีทั้งพันธุ์แบบขายลำและขายหน่อ โดยเพาะสายพันธุ์สำคัญอย่าง ซางหม่น ด้วยวิธีตอน และชำ

หน่อและลำไผ่โปกเชียงราย

จากนั้นนำไปแช่น้ำยาก่อนแล้วจึงนำไปอบในโอ่ง เมื่อมีรากแล้วจึงย้ายลงถุง ซึ่งคนที่สนใจซื้อมีทั้งนำไปขายต้นพันธุ์ กับปลูกเพื่อใช้ประโยชน์จากหน่อ ซางหม่นที่ปลูกมีขนาดลำประมาณ 6 นิ้ว ราคาขายเริ่มตั้งแต่ 50-500 บาท ขึ้นอยู่กับความยาก-ง่าย ของแต่ละชนิด หรือถ้าเป็นซางหม่นที่ยังไม่ได้คัดสายพันธุ์ ขายต้นละ150 บาท

ลุงไทย ได้อธิบายขั้นตอนการปลูกไผ่ว่า ควรปลูกก่อนเข้าหน้าฝน เพื่อจะได้น้ำตามธรรมชาติที่สมบูรณ์ อย่างวิธีปลูกไผ่ซางหม่น จะขุดหลุมขนาด 30×30 เซนติเมตร ผสมหน้าดินกับปุ๋ยขี้ไก่เพื่อเป็นวัสดุปลูก ควรปรับพื้นที่ปลูกให้มีลักษณะขนมครก ลุงไทยชี้ว่า โดยธรรมชาติไผ่จะหากินผิวดิน จากนั้นคลุมดินด้วยวัสดุตามธรรมชาติอย่างหญ้าแห้ง หรือฟางข้าวเพื่อรักษาความชื้น

หากต้องปลูกหน้าแล้ง แนะให้หั่นต้นกล้วยเป็นท่อนยาวสัก 20 เซนติเมตร จำนวน 3 ท่อน วางในหลุม 3 ด้าน เว้นตรงกลางเพื่อวางต้นกล้าไผ่ แล้วกลบดิน แล้วให้ผ่าต้นกล้วยเป็นชิ้นวางทับบนหลุมปลูกอีกครั้ง คุณสมบัติของกล้วยจะช่วยให้ดินมีความชุ่มชื้นเพื่อให้รากไผ่เจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพแข็งแรงสามารถแผ่ขยายออกไป ทั้งยังทำให้มีหน่อดก เพราะในกล้วยมีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อไผ่

หน่อไผ่ซางไทย
ลำใหญ่สุด เก็บมาทำเสากลางบ้าน

ในช่วงปีแรกจะประสบปัญหาหญ้าและวัชพืช ควรกำจัดออกให้หมดโดยเฉพาะบริเวณต้นไผ่และพื้นที่รอบ เมื่อรากไผ่เจริญเติบโตแผ่ขยายมากขึ้นในปีที่ 2 ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป

ลุงไทย พาไปดูแปลงปลูกไผ่บงหวานกินหน่อ เนื้อที่ 2 ไร่ พร้อมกับแนะว่า ไผ่พันธุ์นี้ควรปลูกในพื้นที่มีน้ำสมบูรณ์ตลอดปี ต้นกล้าที่สมบูรณ์ แข็งแรง ควรมีอายุไม่ต่ำกว่า 6 เดือน และถ้าเป็นกล้าที่มีหน่อแทงในถุงดำอยู่แล้วก็ยิ่งดีมาก

ไผ่โปกเชียงราย ไม้เมล็ด ไผ่ดีของเชียงราย พบเมื่อปี 2560
เมล็ดไผ่ซางเชียงราย มีความสมบูรณ์ ปี 2561

การวางผังปลูกไผ่บงหวานเพื่อให้มีประสิทธิภาพและสะดวกควรปลูกแบบยกร่อง ให้ปลูกสลับฟันปลา เติมน้ำใส่ร่องสัปดาห์ละครั้ง หน่อบงหวานที่สมบูรณ์จะเริ่มแทงในปีที่ 2-3 ดังนั้น ระหว่างนี้ควรปลูกกล้วยไข่แซมเพื่อสร้างรายได้ในระยะเวลาปีกว่า ขณะเดียวกันควรปลูกถั่วดิน เพื่อป้องกันวัชพืชหลายชนิด อีกทั้งคุณสมบัติของถั่วยังสร้างไนโตรเจนในดินเป็นปุ๋ยที่ดีด้วย

สนใจพันธุ์ไผ่ หรือต้องการพูดคุยสอบถามสาระความรู้เรื่องไผ่ คุยกับ ลุงไทย ได้ที่โทรศัพท์ 063-724-0277 หรือชมกิจกรรมเรื่องไผ่และไม้หลายชนิด ได้ที่ เฟซบุ๊ก ลุงไทย ไผ่เชียงราย