“ บ๊วย ” ของดีดอยแม่สลอง

ช่วงปลายฤดูหนาว ประมาณเดือนมกราคม- กุมภาพันธ์ ดอกบ๊วยหรือดอกพลัม (plum blossom) หรือ ดอกเหมยในภาษาจีน จะเริ่มผลิบานสะสุดตานักท่องเที่ยวที่มาเยือนดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย ดอกบ๊วยมีขนาดเล็ก 1 – 3 ซ.ม.ลักษณะกลีบกลม มีกลีบดอก 5 กลีบ มีหลากสีตั้งแต่ขาว ชมพู แดง และเข้มเป็นสีแดงส

ต้นบ๊วย จัดอยู่ในตระกูลพรุน เช่นเดียวกับพลัม ลูกท้อ เชอร์รี่ อัลมอนด์ และนางพญาเสือโคร่ง ผลบ๊วยสุกพร้อมเก็บได้ในช่วงต้นฤดูร้อนประมาณเดือนเมษายน-พฤษภาคม ผลบ๊วยมีรูปร่างกลม มีร่องจากขั้วไปถึงก้น ผลดิบจะมีสีเขียว มีรสอมเปรี้ยว มีกลิ่นหอม หลังจากนั้นผลสุกจะเปลี่ยนจากสีเหลืองเป็นสีแดงเมื่อสุกเต็มที

พันธุ์บ๊วยที่ปลูกบนดอยแม่สลอง ถูกนำเข้ามาจากประเทศจีน ไม่ทราบชื่อพันธุ์ที่แน่นอน ชาวบ้านนิยมขยายพันธุ์บ๊วย ด้วยวิธีการติดตา โดยเลือกใช้ บ๊วยพันธุ์พื้นเมือง เป็นต้นตอขยายพันธุ์ เนื่องจากสามารถเจริญเติบโตได้เร็วกว่าต้นตอท้อ ทำการขยายพันธุ์ในช่วงที่ต้นพักตัว เมื่อผ่านระยะการพักตัวแล้ว ตาที่ติดไว้ก็จะแตกและเจริญเติบโตต่อไป โต้นที่ติดตาจะให้ผลใน 4-5 ปี

กลุ่มวิสาหกิจชุมชนก่อเสริมดอยแม่สลอง ได้นำบ๊วยและผลไม้เมืองหนาวที่ปลูกในท้องถิ่นนำมาแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม ในรูปแบบต่างๆ เช่น บ๊วยแดง บ๊วยอบน้ำผึ้ง บ๊วยทับทิม บ๊วยหยก บ๊วย 5 รส บ๊วยซากุระ สินค้าทุกรายการผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐานจากองค์การอาหารและยา (อย.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว สร้างรายได้เข้าสู่ชุมชนปีละ 20 ล้านบาท

ดอกบ๊วยหรือดอกพลัม (plum blossom) หรือ ดอกเหมยในภาษาจีน
ผลบ๊วยหรือลูกพลัม (plum )
คนงานกำลังตากผลบ๊วย
ผลบ๊วยที่ผ่านการแปรรูปแล้ว