ผู้เขียน | สาวบางแค 22 |
---|---|
เผยแพร่ |
ภาวะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วง 1-2 ปีนี้ ส่งผลกระทบด้านสุขภาพ อาชีพ รายได้ของคนไทยจำนวนมาก นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เล็งเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นและมีความตั้งใจช่วยเหลือสังคมไทยฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกันใน 2 รูปแบบ คือ โครงการ “ครัวปันอิ่ม” แจกอาหาร 2 ล้านกล่อง และโครงการปันปลูก ฟ้าทะลายโจร 100 ไร่ ผลิต 30 ล้านแคปซูล แจกฟรีแก่คนไทยเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงยาสมุนไพร เสริมภูมิคุ้มกัน

แปลงปลูกฟ้าทะลายโจร เริ่มปลูกตั้งแต่ 12 สิงหาคม 2564 มีการควบคุมการผลิตมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) จากกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่การปลูก การเก็บเกี่ยว และการบริหารจัดการ ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ยาสมุนไพร อย่างเคร่งครัด โดยมีการขึ้นทะเบียนยาสมุนไพร กับสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อให้ได้ปริมาณสารสำคัญ คือ Andrographolide ในวัตถุดิบอย่างเคร่งครัด และใช้ห้องแล็บมาตรฐานที่ได้รับการรับรองคุณภาพยาสมุนไพร เพื่อให้สมุนไพรปันปลูก แต่ละ 1 แคปซูล 400 มิลลิกรัม มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ไม่ต่ำกว่า 4 มิลลิกรัม

ฟ้าทะลายโจรที่ผ่านการเก็บเกี่ยวป้อนเข้าสู่กระบวนการอบลดความชื้นด้วยโรงอบพลังงานแสงอาทิตย์ จากนั้นส่งมอบวัตถุดิบให้บริษัทพันธมิตร 4 แห่ง คือ บริษัท แสงสว่างตราค้างคาว บริษัท พนาพัฒน์ เฮลท์แคร์ จำกัด บมจ.โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) และบริษัท โชคชัยเฮิร์บ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตยาสมุนไพรที่ได้รับมาตรฐาน GMP PIC/S และผ่านการฉายรังสีแกมมาทุกแคปซูล เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรชื่อ “ปันปลูก” 1 กระปุก จำนวน 75 แคปซูล (ใช้ผงฟ้าทะลายโจร 30 กรัม) มีอายุเก็บได้ยาวนานขึ้น ก่อนส่งมอบให้กับพี่น้องประชาชน

ฟ้าทะลายโจรแปลงใหญ่
โครงการปันปลูก-ฟ้าทะลายโจร 100 ไร่ ใช้จังหวัดสระบุรีเป็นพื้นที่เพาะปลูก โดยแบ่งเป็น 2 โซน แปลงแรกเนื้อที่ 30 ไร่ ตั้งอยู่ที่ฟาร์มแสลงพัน บน และอีกแปลงเนื้อที่ 70 ไร่ อยู่ที่ฟาร์มคำพราน ทางซีพีได้รวบรวมต้นกล้าฟ้าทะลายโจร จำนวน 1 ล้านต้น มาจาก 6 แหล่ง ได้แก่ จังหวัดพิจิตร จังหวัดนครปฐม (กำแพงแสน) จังหวัดปราจีนบุรี (บ้านดงบัง) จังหวัดสุโขทัย (สวรรคโลก) จังหวัดกาญจนบุรี (ไทรโยค) และจังหวัดอุบลราชธานี

“ทางเครือซีพีได้รวบรวมสายพันธุ์ฟ้าทะลายโจรจาก 6 แหล่งทั่วประเทศแล้ว ยังมีฟ้าทะลายโจรสายพันธุ์ดีของกรมวิชาการเกษตร คือ สายพันธุ์พิจิตร 4-4 และพันธุ์พิษณุโลก 5-4 ซึ่งมีปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์สูงมาปลูกในโครงการนี้ด้วย นอกจากนี้ เครือซีพี ได้ยื่นขออนุญาตจากกรมวิชาการเกษตร นำเข้าพันธุ์ฟ้าทะลายโจรจากประเทศอินเดียเข้ามาปลูกเปรียบเทียบกับสายพันธุ์ไทยเพื่อค้นหาฟ้าทะลายโจรที่ให้ปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์สูงที่สุด สำหรับกระจายให้แก่ประชาชนในอนาคต” ดร.ศฎาวุฒิ กุลมณี รองกรรมการผู้จัดการบริหาร กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร กล่าว

กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร เครือซีพี ผู้ดำเนินโครงการปันปลูก ฟ้าทะลายโจร 100 ไร่ ตั้งใจศึกษาวิจัยเรื่องสายพันธุ์ฟ้าทะลายโจร และใช้เทคโนโลยีการให้น้ำที่มีประสิทธิภาพ ใช้ข้อมูลความชื้นในดิน ร่วมกับสถานีวัดปริมาณน้ำฝน เพื่อให้พืชได้น้ำในปริมาณที่เหมาะสม การปลูกแบบแถวยกร่อง มีทั้งแบบร่องเดี่ยวและร่องคู่ ได้ผลผลิตประมาณ 2 ตันต่อไร่
“ฟ้าทะลายโจรเป็นพืชสมุนไพรที่ sensitive ต่อสภาพแวดล้อมและการดูแลรักษาอย่างมาก ดังนั้น จึงต้องมีเทคโนโลยีการปลูกดูแลที่เหมาะสม ตั้งแต่การเลือกดินปลูก ปริมาณน้ำที่พืชต้องการ ขั้นตอนการเพาะปลูกที่เหมาะสม วิธีการจัดการแปลง อายุการเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ปริมาณสารสำคัญสูง การปลูกฟ้าทะลายโจรในปี 2564 ถือเป็นผลผลิตรุ่นแรก ยังไม่ได้ข้อมูลที่ชัดเจน จึงต้องวางแผนปลูกฟ้าทะลายโจรอย่างต่อเนื่อง ในปี 2565 เพื่อให้ได้ผลสรุปที่ชัดเจนก่อนถ่ายทอดองค์ความรู้เหล่านี้สู่เกษตรกรที่สนใจต่อไป” ดร.ศฎาวุฒิ กล่าว

การปลูกดูแล
การเตรียมดิน เริ่มไถพรวนให้ดินร่วน หากวัชพืชมีมากให้ไถพรวน 2 ครั้ง คือไถเปิดหน้าดิน และตากดินไว้ประมาณ 2 สัปดาห์ แล้วไถพรวนดินให้ร่วน ปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์
การปลูก โดยใช้วิธีการเพาะกล้าและย้ายปลูก (อายุกล้าประมาณ 40-50 วัน) ขุดหลุมกว้างประมาณ 15 เซนติเมตร ลึกประมาณ 8-12 เซนติเมตร ปลูกเป็นแถว ระยะห่างระหว่างต้น 20-30 เซนติเมตร และระหว่างแถว 70-75 เซนติเมตร 1 ไร่ ปลูกต้นฟ้าทะลายโจรเฉลี่ย 9,000-10,000 ต้น

การให้น้ำ หากแดดจัดให้น้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น หลังจาก 2 เดือน ให้น้ำตามความเหมาะสม ที่นี่ใช้ระบบชลประทานขนาดใหญ่ คือ ระบบ Center piyot irrigation ระบบ Linear inigation และระบบน้ำพุ่ง
การกำจัดวัชพืช ใช้แรงงานคนเป็นหลัก ส่วนการใส่ปุ๋ย รองพื้นด้วยปุ๋ยอินทรีย์ 500 กิโลกรัมต่อไร่ หลังปลูก 30 วัน ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ 500 กิโลกรัมต่อไร่ หรือปุ๋ยอินทรีย์เคมี

การเก็บเกี่ยว สามารถเก็บเกี่ยวอายุ 60 วัน หลังปลูกกล้า สามารถเก็บเกี่ยวได้ 2 รอบต่อปี ใช้วิธีตัดต้นและการเก็บเมล็ด สำหรับการเก็บเกี่ยวระยะเริ่มออกดอก-ระยะดอกบาน 50% วิธีเก็บเกี่ยวคือ ตัดทั้งต้นเหนือดิน ประมาณ 5-10 เซนติเมตร จะได้ผลผลิตต้นสด 2,000 กิโลกรัมต่อไร่
การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว นำไปคัดแยกสิ่งปนปลอม เช่น วัชพืชที่ปะปนมา และล้างน้ำให้สะอาด ตัดต้นฟ้าทะลายโจรเป็นท่อน ยาว 3-5 เซนติเมตร ก่อนนำไปอบลดความชื้นในโรงอบพลังงานแสงอาทิตย์ และอบแห้งแบบลมร้อนที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส ใน 8 ชั่วโมงแรก และลดอุณหภูมิเหลือ 40-45 องศาเซลเซียส อบต่อจนแห้งสนิท

เน้นการเกษตรปลอดภัย ที่นี่ดูแลจัดการแปลงปลูกฟ้าทะลายโจร โดยยึดหลักการทำเกษตรปลอดภัย ไม่มีการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืชและวัชพืช ดูแลการผลิตให้ได้มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices : GAP) ดูแลควบคุมคุณภาพน้ำ ดูแลตรวจสอบไม่มีสารพิษหรือโลหะหนักในพื้นที่แปลงเพาะปลูก มีการจดบันทึกข้อมูลการปลูกดูแลทุกขั้นตอน เพื่อการตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดกระบวนการผลิต

“คาดว่า เชื้อไวรัสโควิดจะยังอยู่กับโลกใบนี้ตลอดไป นอกจากใช้ฟ้าทะลายโจรในการดูแลรักษาสุขภาพแล้ว เครือซีพียังมองเห็นความสำคัญและคุณประโยชน์ของพืชสมุนไพรสำหรับดูแลสุขภาพคนไทย เช่น กระชายขาว กระชายดำ บัวบก ขิง ฯลฯ จึงมุ่งศึกษาวิจัยพืชสมุนไพรต่างๆ เพิ่มขึ้นในอนาคต” ดร.ศฎาวุฒิ กล่าวในที่สุด