ซีพีพลิกโฉม ปลูกฟ้าทะลายโจร ระบบแปลงใหญ่ Smart Farming

ภาวะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วง 1-2 ปีนี้ ส่งผลกระทบด้านสุขภาพ อาชีพ รายได้ของคนไทยจำนวนมาก นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เล็งเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นและมีความตั้งใจช่วยเหลือสังคมไทยฝ่าวิกฤตนี้ไปด้วยกันใน 2 รูปแบบ คือ โครงการ “ครัวปันอิ่ม” แจกอาหาร 2 ล้านกล่อง และโครงการปันปลูก ฟ้าทะลายโจร 100 ไร่ ผลิต 30 ล้านแคปซูล แจกฟรีแก่คนไทยเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงยาสมุนไพร เสริมภูมิคุ้มกัน

เพาะกล้าก่อนลงแปลงปลูก

แปลงปลูกฟ้าทะลายโจร เริ่มปลูกตั้งแต่ 12 สิงหาคม 2564 มีการควบคุมการผลิตมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) จากกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่การปลูก การเก็บเกี่ยว และการบริหารจัดการ ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ยาสมุนไพร อย่างเคร่งครัด โดยมีการขึ้นทะเบียนยาสมุนไพร กับสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อให้ได้ปริมาณสารสำคัญ คือ Andrographolide ในวัตถุดิบอย่างเคร่งครัด และใช้ห้องแล็บมาตรฐานที่ได้รับการรับรองคุณภาพยาสมุนไพร เพื่อให้สมุนไพรปันปลูก แต่ละ 1 แคปซูล 400 มิลลิกรัม มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ไม่ต่ำกว่า 4 มิลลิกรัม

ปลูกเป็นแถว ระยะห่างระหว่างต้น 20-30 เซนติเมตร

ฟ้าทะลายโจรที่ผ่านการเก็บเกี่ยวป้อนเข้าสู่กระบวนการอบลดความชื้นด้วยโรงอบพลังงานแสงอาทิตย์ จากนั้นส่งมอบวัตถุดิบให้บริษัทพันธมิตร 4 แห่ง คือ บริษัท แสงสว่างตราค้างคาว บริษัท พนาพัฒน์ เฮลท์แคร์ จำกัด บมจ.โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) และบริษัท โชคชัยเฮิร์บ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตยาสมุนไพรที่ได้รับมาตรฐาน GMP PIC/S และผ่านการฉายรังสีแกมมาทุกแคปซูล เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรชื่อ “ปันปลูก” 1 กระปุก จำนวน 75 แคปซูล (ใช้ผงฟ้าทะลายโจร 30 กรัม) มีอายุเก็บได้ยาวนานขึ้น ก่อนส่งมอบให้กับพี่น้องประชาชน

ระบบชลประทานล้อสายพานลำเลียงติดสปริงเกลอร์เดินเป็นแนวระนาบ

ฟ้าทะลายโจรแปลงใหญ่

โครงการปันปลูก-ฟ้าทะลายโจร 100 ไร่ ใช้จังหวัดสระบุรีเป็นพื้นที่เพาะปลูก โดยแบ่งเป็น 2 โซน แปลงแรกเนื้อที่ 30 ไร่ ตั้งอยู่ที่ฟาร์มแสลงพัน บน และอีกแปลงเนื้อที่ 70 ไร่ อยู่ที่ฟาร์มคำพราน ทางซีพีได้รวบรวมต้นกล้าฟ้าทะลายโจร จำนวน 1 ล้านต้น มาจาก 6 แหล่ง ได้แก่ จังหวัดพิจิตร จังหวัดนครปฐม (กำแพงแสน) จังหวัดปราจีนบุรี (บ้านดงบัง) จังหวัดสุโขทัย (สวรรคโลก) จังหวัดกาญจนบุรี (ไทรโยค) และจังหวัดอุบลราชธานี

ใช้ระบบชลประทานขนาดใหญ่แบบวงกลม

“ทางเครือซีพีได้รวบรวมสายพันธุ์ฟ้าทะลายโจรจาก 6 แหล่งทั่วประเทศแล้ว ยังมีฟ้าทะลายโจรสายพันธุ์ดีของกรมวิชาการเกษตร คือ สายพันธุ์พิจิตร 4-4 และพันธุ์พิษณุโลก 5-4 ซึ่งมีปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์สูงมาปลูกในโครงการนี้ด้วย นอกจากนี้ เครือซีพี ได้ยื่นขออนุญาตจากกรมวิชาการเกษตร นำเข้าพันธุ์ฟ้าทะลายโจรจากประเทศอินเดียเข้ามาปลูกเปรียบเทียบกับสายพันธุ์ไทยเพื่อค้นหาฟ้าทะลายโจรที่ให้ปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์สูงที่สุด สำหรับกระจายให้แก่ประชาชนในอนาคต” ดร.ศฎาวุฒิ กุลมณี รองกรรมการผู้จัดการบริหาร กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร กล่าว

ใช้อุปกรณ์ให้น้ำแบบสปริงเกลอร์เพื่อควบคุมปริมาณน้ำในแต่ละครั้ง

กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร เครือซีพี ผู้ดำเนินโครงการปันปลูก ฟ้าทะลายโจร 100 ไร่ ตั้งใจศึกษาวิจัยเรื่องสายพันธุ์ฟ้าทะลายโจร และใช้เทคโนโลยีการให้น้ำที่มีประสิทธิภาพ ใช้ข้อมูลความชื้นในดิน ร่วมกับสถานีวัดปริมาณน้ำฝน เพื่อให้พืชได้น้ำในปริมาณที่เหมาะสม การปลูกแบบแถวยกร่อง มีทั้งแบบร่องเดี่ยวและร่องคู่ ได้ผลผลิตประมาณ 2 ตันต่อไร่

“ฟ้าทะลายโจรเป็นพืชสมุนไพรที่ sensitive ต่อสภาพแวดล้อมและการดูแลรักษาอย่างมาก ดังนั้น จึงต้องมีเทคโนโลยีการปลูกดูแลที่เหมาะสม ตั้งแต่การเลือกดินปลูก ปริมาณน้ำที่พืชต้องการ ขั้นตอนการเพาะปลูกที่เหมาะสม วิธีการจัดการแปลง อายุการเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ปริมาณสารสำคัญสูง การปลูกฟ้าทะลายโจรในปี 2564 ถือเป็นผลผลิตรุ่นแรก ยังไม่ได้ข้อมูลที่ชัดเจน จึงต้องวางแผนปลูกฟ้าทะลายโจรอย่างต่อเนื่อง ในปี 2565 เพื่อให้ได้ผลสรุปที่ชัดเจนก่อนถ่ายทอดองค์ความรู้เหล่านี้สู่เกษตรกรที่สนใจต่อไป” ดร.ศฎาวุฒิ กล่าว

ฟ้าทะลายโจรเป็นพืชชอบน้ำ แต่ไม่ชอบน้ำขัง ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ

การปลูกดูแล

การเตรียมดิน เริ่มไถพรวนให้ดินร่วน หากวัชพืชมีมากให้ไถพรวน 2 ครั้ง คือไถเปิดหน้าดิน และตากดินไว้ประมาณ 2 สัปดาห์ แล้วไถพรวนดินให้ร่วน ปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยอินทรีย์

การปลูก โดยใช้วิธีการเพาะกล้าและย้ายปลูก (อายุกล้าประมาณ 40-50 วัน) ขุดหลุมกว้างประมาณ 15 เซนติเมตร ลึกประมาณ 8-12 เซนติเมตร ปลูกเป็นแถว ระยะห่างระหว่างต้น 20-30 เซนติเมตร และระหว่างแถว 70-75 เซนติเมตร 1 ไร่ ปลูกต้นฟ้าทะลายโจรเฉลี่ย 9,000-10,000 ต้น

ใช้แรงงานคนกำจัดวัชพืชและเก็บเกี่ยว

การให้น้ำ หากแดดจัดให้น้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น หลังจาก 2 เดือน ให้น้ำตามความเหมาะสม ที่นี่ใช้ระบบชลประทานขนาดใหญ่ คือ ระบบ Center piyot irrigation ระบบ  Linear inigation และระบบน้ำพุ่ง

การกำจัดวัชพืช ใช้แรงงานคนเป็นหลัก ส่วนการใส่ปุ๋ย รองพื้นด้วยปุ๋ยอินทรีย์ 500 กิโลกรัมต่อไร่ หลังปลูก 30 วัน ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ 500 กิโลกรัมต่อไร่ หรือปุ๋ยอินทรีย์เคมี

เก็บเกี่ยวช่วงระยะเริ่มออกดอก-ดอกบาน ประมาณ 20-30%

การเก็บเกี่ยว สามารถเก็บเกี่ยวอายุ 60 วัน หลังปลูกกล้า สามารถเก็บเกี่ยวได้ 2 รอบต่อปี ใช้วิธีตัดต้นและการเก็บเมล็ด สำหรับการเก็บเกี่ยวระยะเริ่มออกดอก-ระยะดอกบาน 50% วิธีเก็บเกี่ยวคือ ตัดทั้งต้นเหนือดิน ประมาณ 5-10 เซนติเมตร จะได้ผลผลิตต้นสด 2,000 กิโลกรัมต่อไร่

การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว นำไปคัดแยกสิ่งปนปลอม เช่น วัชพืชที่ปะปนมา และล้างน้ำให้สะอาด ตัดต้นฟ้าทะลายโจรเป็นท่อน ยาว 3-5 เซนติเมตร ก่อนนำไปอบลดความชื้นในโรงอบพลังงานแสงอาทิตย์ และอบแห้งแบบลมร้อนที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียส ใน 8 ชั่วโมงแรก และลดอุณหภูมิเหลือ 40-45 องศาเซลเซียส อบต่อจนแห้งสนิท

1 ไร่ เก็บเกี่ยวต้นและใบสดได้เฉลี่ย 2,000 กิโลกรัม

เน้นการเกษตรปลอดภัย ที่นี่ดูแลจัดการแปลงปลูกฟ้าทะลายโจร โดยยึดหลักการทำเกษตรปลอดภัย ไม่มีการใช้สารเคมีในการกำจัดศัตรูพืชและวัชพืช ดูแลการผลิตให้ได้มาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices : GAP) ดูแลควบคุมคุณภาพน้ำ ดูแลตรวจสอบไม่มีสารพิษหรือโลหะหนักในพื้นที่แปลงเพาะปลูก มีการจดบันทึกข้อมูลการปลูกดูแลทุกขั้นตอน เพื่อการตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดกระบวนการผลิต

ผลผลิตที่ได้แปรรูปเป็นยาสมุนไพร “ปันปลูก” แจกฟรีแก่ชุมชน

“คาดว่า เชื้อไวรัสโควิดจะยังอยู่กับโลกใบนี้ตลอดไป นอกจากใช้ฟ้าทะลายโจรในการดูแลรักษาสุขภาพแล้ว เครือซีพียังมองเห็นความสำคัญและคุณประโยชน์ของพืชสมุนไพรสำหรับดูแลสุขภาพคนไทย เช่น กระชายขาว กระชายดำ บัวบก ขิง ฯลฯ จึงมุ่งศึกษาวิจัยพืชสมุนไพรต่างๆ เพิ่มขึ้นในอนาคต” ดร.ศฎาวุฒิ กล่าวในที่สุด