โบรกเกอร์สาว สุดต๊าซ! ปลูกเมล่อนญี่ปุ่น สร้างจุดขายทำการตลาด เป็นเกษตรกรหญิงก็สวยได้

ในระยะนี้การทำเกษตรค่อนข้างได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยมีผู้ที่ทำอาชีพอื่นมาสนใจทำอาชีพทางการเกษตรมากขึ้น พร้อมปรับเปลี่ยนการทำให้ดูทันสมัย พร้อมทั้งมีการทำการตลาดที่สอดคล้องต่อความต้องการของลูกค้า จึงทำให้สามารถทำการตลาดชนิดที่ว่าแม้ขายออนไลน์ก็มีการจัดส่งอย่างเป็นระบบสินค้าไม่เสียหาย จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยส่งเสริมการขายในเวลานี้ได้เป็นอย่างดีทีเดียว

คุณอรัญญา บุญมีมาพาสุข โบรกเกอร์สาวคนเก่ง ได้มีการปรับเปลี่ยนจากสาวออฟฟิศหันมาทำการเกษตรอย่างจริงจัง ชนิดที่ว่าทำแล้วต้องไม่มีตกเทรนด์ ต้องไม่ลำบาก ให้ทุกคนได้เห็นว่าการทำเกษตรนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แม้ไม่ได้เรียนเกษตรแต่ก็สามารถประสบผลสำเร็จได้เช่นกัน โดยเธอได้ทดลองปลูกเมล่อน และนำมาสร้างเป็นอาชีพในเวลาต่อมาชนิดที่ว่าขายดิบขายดีกันเลยทีเดียว

คุณอรัญญา บุญมีมาพาสุข

คุณอรัญญา เล่าให้ฟังว่า เดิมทีครอบครัวทำเกี่ยวกับการเกษตรมาก่อนแล้ว แต่ต่อเมื่อมีโอกาสจึงได้นึกถึงการปลูกพืชแบบแนวใหม่ เพื่อที่จะช่วยให้ทุกคนได้เห็นว่าการทำเกษตรนั้นไม่ได้ยากแบบสมัยก่อน จึงได้เลือกศึกษาการปลูกเมล่อนญี่ปุ่น เพราะเป็นสินค้าที่ตลาดต้องการ จึงทำให้ได้ไปศึกษาการปลูกอย่างเป็นระบบ และนำมาปฏิบัติจริงอยู่สักพัก จากนั้นจึงมาลงทุนทำโรงเรือนและสร้างป็นสินค้าที่ขายดีในเวลานี้

การปลูกลงวัสดุปลูก

“ช่วงที่เราศึกษาเราจะเห็นว่า เมล่อนญี่ปุ่นเป็นอะไรที่ยังขายได้ เพราะว่ารสชาติดี และช่วงที่เรามาศึกษาช่วงโควิด-19 เราจะเห็นว่าเขาเน้นขายออนไลน์กัน และตลาดออนไลน์ก็น่าจะไปได้ เพราะเมล่อนสามารถขายตลาดออนไลน์ได้ดี โดยเราจะเน้นสายพันธุ์ญี่ปุ่นเป็นหลัก โดยเราจะเน้นการขายด้วยการวาดลวดลายเป็น เพื่อที่จะทำให้มีความน่าสนใจ และลูกค้าสามารถมาสั่งเพื่อมอบเป็นสินค้า มอบให้กันในช่วงวันพิเศษต่างๆ ได้” คุณอรัญญา บอก

สำหรับการปลูกเมล่อนให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ คุณอรัญญา บอกว่า จะนำเมล็ดมาแช่น้ำอย่างน้อย 1 คืน จากนั้นนำมาเพาะลงในถาดปลูก ประมาณ 7 วัน ก็จะได้เป็นต้นกล้าเล็กๆ เมื่อเห็นมีใบแท้ขึ้นมีประมาณ 3 ใบ จึงย้ายลงไปปลูกในวัสดุปลูกที่อยู่ภายในโรงเรือน ซึ่งภายในโรงเรือนนั้นมีการทำโรงเรือนอย่างเป็นระบบ ทั้งตาข่ายป้องกันแมลงและพลาสติกใสกรองแสงที่ช่วยให้เมล่อนเจริญเติบโตได้ดี

โรงเรือนปลูก

เมื่อนำต้นอ่อนลงไปปลูกในโรงเรือนแล้ว จากนั้นจะให้น้ำผ่านทางระบบน้ำหยดที่มาพร้อมปุ๋ยเลย ให้ในช่วงเช้า กลางวัน และเย็น โดยระยะห่างระหว่างต้นอยู่ที่ 30 เซนติเมตร หลังจากปลูกไปได้ประมาณ 15 วัน ต้นเมล่อนก็จะเริ่มมีดอกออกมาให้ผสมเกสรได้ โดยเกสรตัวผู้จะออกมาก่อนเกสรตัวเมีย ซึ่งเวลาที่ผสมเกสรที่ดีที่สุดจะเป็นช่วงเช้า ประมาณ 05.00 น. เมื่อผสมติดเมล่อนก็จะเริ่มออกมาเห็นผลลูกเท่าไข่ไก่ ซึ่งในระยะนี้ต้องให้น้ำพร้อมปุ๋ยอย่างจริงจัง วันละ 6 ครั้ง ดูแลต่อไปอีกประมาณ 45 วัน หลังจากนั้นเมล่อนก็จะได้ขนาดผลที่พร้อมจะตัดขายได้

“เมล่อนเราจะไว้ 1 ต้น 1 ผล เพื่อให้ได้ลูกที่สมบูรณ์ที่สุด ส่วนในเรื่องของการป้องกันโรคแมลงนั้น เราก็จะป้องกันในเรื่องของเชื้อราเป็นหลัก เพราะช่วงที่เราให้น้ำ วัสดุปลูกอาจจะมีปัญหาได้ เพราะฉะนั้นในเรื่องของการป้องกันเชื้อรานั้นสำคัญ ส่วนในเรื่องของแมลงต่างๆ ไม่ค่อยเกิดปัญหา เพราะว่าเรามีตาข่ายป้องกัน จึงทำให้สามารถที่จะกันแมลงพวกนี้ได้ดี” คุณอรัญญา บอก

หลังผสมเกสรติด

สำหรับการทำตลาดเพื่อจำหน่ายเมล่อนภายในสวนนั้น คุณอรัญญา บอกว่า จะมีการถ่ายภาพอยู่เสมอลงในเพจของตัวเอง โดยมีการเล่าเรื่องราวของการขายอย่างเป็นลำดับเหตุการณ์ เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นถึงการเติบโตของเมล่อนในช่วงวัย และที่เป็นจุดเด่นของการนำเสนอนั้นก็คือตัวเธอเอง ที่มีการแต่งกายไปถ่ายรูปเพื่อโปรโมตสินค้า จึงทำให้คนที่พบเห็นสดุดตาและเกิดเป็นจุดขายใหม่ที่เธอมีส่วนร่วมในจุดนี้ด้วย

ผลสวย พร้อมส่งจำหน่าย

“เราเป็นคนชอบถ่ายรูป ก็เลยสร้างจุดขายให้ทุกคนเห็นว่าเกษตรกรก็สวยได้ เพราะเราเป็นเกษตรกรสมัยใหม่ เราสามารถที่จะสร้างจุดขายตรงนี้ให้ทุกคนได้เห็นว่า การเกษตรทำได้แบบสวยๆ ช่วงแรกก็มีคนถามว่าเรานี่ใช่เกษตรกรจริงเหรอ ทำเองจริงเหรอ แต่พอเขาได้มาสัมผัสก็เลยรู้ว่า เราทำจริง เราไม่ได้ทำเล่นๆ ก็จะยิ่งเป็นจุดขายทำให้เราเป็นแรงบันดาลใจให้กับหลายๆ คนได้ ว่าเราก็สวยได้แม้เราเป็นเกษตรกร” คุณอรัญญา บอก

โดยน้ำหนักเฉลี่ยของผลเมล่อนราคาจะอยู่ที่ 1-2 กิโลกรัม โดยการขนส่งหลักๆ จะเน้นส่งทางเคอรี่เป็นหลัก เพราะด้วยระบบการขนส่งปัจจุบันที่ค่อนข้างทันสมัยและสินค้าทางการเกษตรไม่เสียหาย จึงทำให้สามารถส่งให้ลูกค้าได้ง่ายและสะดวก

สำหรับท่านใดที่สนใจในเรื่องของการปลูกเมล่อน สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณ อรัญญา บุญมีมาพาสุข บ้านเลขที่ 359/48 หมู่บ้านประชาสุข บางมด ทุ่งครุ กทม. 10140 หมายเลขโทรศัพท์ 087-504-033