นักเทคนิคการแพทย์ แชร์ประสบการณ์ขอใบอนุญาต “ปลูกกัญชง” สำเร็จ เป็นที่แรกในหนองคาย

หลังจาก อย. เผย กฎกระทรวงฯ กัญชงฉบับใหม่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 29 มกราคม 2564 เป็นต้นไป เปิดให้ทุกภาคส่วนทั้งเกษตรกร ภาครัฐ เอกชน ประชาชน และบุคคลธรรมดาทั่วไปสามารถขออนุญาตและนำกัญชงไปใช้ได้ในทุกวัตถุประสงค์ สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน ทั้งกิ่ง ก้าน ใบ ราก ลำต้น และดอก ถือเป็นนิมิตหมายอันดีสำหรับเกษตรกรทั่วไปที่มองแห่งช่องทางการสร้างรายได้จากส่วนนี้

ทนพ.ปิยะวิทย์ สาสุข หรือ พี่เนป

ทนพ.ปิยะวิทย์ สาสุข หรือ พี่เนป เลขที่ 121 หมู่ที่ 3 บ้านลำภูพาน ตำบลผาตั้ง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย นักเทคนิคการแพทย์ ผันตัวเป็นเกษตรกรเจ้าของไร่สาสุข ที่เริ่มต้นมาจากการเลี้ยงไส้เดือน และทันทีที่มีการปลดล็อกให้ประชาชนทั่วไปสามารถปลูกกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจได้ นักเทคนิคการแพทย์ท่านนี้ก็ไม่รอช้าที่จะเตรียมตัวขออนุญาตเพื่อที่จะปลูกกัญชงอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยอาศัยความได้เปรียบจากอาชีพเดิมที่เคยทำมาประกอบจนสามารถขอใบอนุญาตการปลูกกัญชงมาได้สำเร็จ

แปลงปลูกกัญชงของไร่สาสุข

พี่เนป เล่าถึงที่มาของการเริ่มต้นปลูกกัญชงให้ฟังว่า เดิมทีไร่สาสุขจะปลูกข้าวเป็นหลัก แต่ด้วยสถานการณ์ราคาข้าวที่ต่ำลง ทำแล้วแทบไม่เห็นกำไร จึงมีความคิดมองหาพืชตัวใหม่มาปลูกแทน จนในช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้มีกฎหมายปลดล็อกให้ประชาชนทั่วไปสามารถปลูกกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจได้ ตนเองก็ได้เล็งเห็นว่ากัญชงเป็นอีกพืชที่น่าสนใจ เพราะลองมองตลาดดูแล้วราคาค่อนข้างสูง จึงตัดสินใจปลูก พร้อมทั้งหาตลาดรองรับไว้ล่วงหน้า เนื่องจากกัญชงจะต้องมีสัญญาการซื้อขายเพื่อนำมาประกอบในการขอใบอนุญาต โดยในขั้นตอนการขอใบอนุญาตสำหรับการปลูกกัญชงค่อนข้างต้องใช้เวลานาน

สภาพอุดมสมบูรณ์

โดยที่ไร่เริ่มทดลองปลูกกัญชงในปีแรกบนพื้นที่ 1 ไร่ 2 งาน เลือกปลูกสายพันธุ์รับรอง RPF3 จากสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง จังหวัดเชียงใหม่ จุดประสงค์เพื่อต้องการเมล็ดไปแปรรูปใช้ทำอาหารโดยเฉพาะ ซึ่งสายพันธุ์ RPF3 ตอบโจทย์ความต้องการตรงที่จะมี THC ไม่เกิน 1 เปอร์เซ็นต์ ตรงกับกฎข้อบังคับสำหรับสกัดแปรรูปนำไปทำอาหาร

จัดเตรียมสถานที่รักษาความปลอดภัย

เกษตรกรทั่วไปอยากปลูกกัญชง
ขอใบอนุญาตปลูกอย่างไร?

สำหรับเกษตรกรทั่วไป รวมถึงบุคคลธรรมดาที่สนใจอยากเริ่มต้นปลูกกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจนั้นต้องทำอย่างไร พี่เนป อธิบายจากประสบการณ์ของตนเองที่ผ่านมาว่า ขั้นตอนแรกเริ่มต้นจากการขอใบอนุญาต นับเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนานพอสมควร อย่างที่ไร่สาสุขของตนเอง ใช้ระยะเวลากว่า 5 เดือนในการขอใบอณุญาต โดยจะแบ่งออกเป็นขั้นตอนดังนี้

  1. ติดต่อ สสจ. (เอกสาร+หนังสือคำขอ) อันดับแรกต้องไปที่ สสจ. เพื่อไปพูดคุยรายละเอียดการปลูก และปรึกษากระบวนการขออนุญาตปลูกกับทาง สสจ. พร้อมทั้งขอเอกสารและแบบฟอร์มประกอบการอนุญาต
  2. ขอประวัติอาชญากรรม ต่อจากขั้นตอนที่ 1 เมื่อได้หนังสือคำขอจาก สสจ. แล้วจึงนำไปใช้ประกอบการยื่นขอประวัติอาชญากรรม ที่พิสูจน์หลักฐาน ซึ่งการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมจะใช้เวลาตรวจสอบ 1-2 สัปดาห์ ถ้าประวัติไม่มีปัญหาเพียงแค่สัปดาห์เดียวก็ดำเนินการเสร็จ แล้วทางพิสูจน์หลักฐานจะติดต่อให้มารับเอกสาร
  3. ขอหนังสือบุคคลล้มละลายและใบรับรองแพทย์ ทั้งหนังสือรับรองว่าไม่เป็นบุคคลล้มละลายและใบรับรองแพทย์ จะใช้เพียงแค่บัตรประชาชนใบเดียวเท่านั้น โดยรอเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็จะได้ใบรับรองมาแล้ว
  4. ติดต่อเมล็ดพันธุ์ แหล่งรับซื้อ การติดต่อแหล่งขายเมล็ดพันธุ์ และแหล่งรับซื้อผลผลิตนั้น เป็นหัวใจสำคัญหลักอีกข้อที่จะต้องระบุแหล่งที่มาของเมล็ดพันธุ์ให้ชัดเจน และจะปลูกเพื่อเอาไปขายที่ไหน ขายอย่างไร เพราะถ้าให้ข้อมูลในสองข้อนี้ไม่ชัดเจน จะส่งผลให้การขออนุญาตอาจจะไม่ผ่าน (ส่วนนี้ให้ข้อมูลในกรณีของเกษตรกรทั่วไปที่ปลูกกัญชงเพื่อประโยชน์ในเชิงพาณิชย์หรืออุตสาหกรรม)
  5. จัดเตรียมเอกสาร ขั้นตอนการเตรียมเอกสารถือเป็นขั้นตอนที่ยากสำหรับท่านที่ไม่ถนัด โดยเอกสารที่ต้องเตรียมมีดังนี้ 1.  แบบกัญชง 1 2. แผนการผลิต (ปลูก) 3. มาตรการรักษาความปลอดภัย 4. หนังสือให้ความยินยอมจากผู้ให้เช่า 5. รูปถ่ายผู้ดำเนินการ ขนาด 1 นิ้ว 2 รูป 6. สำเนาบัตรประชาชน 7. สำเนาทะเบียนบ้าน 8. ใบรับรองแพทย์ 9. หนังสือรับรองว่าไม่เป็นบุคคลล้มละลาย 10. ประวัติอาชญากรรม 11. เอกสารประกอบอื่นๆ และนอกจากเอกสารที่ อย. กำหนดแล้ว ทั้งสัญญาที่กล่าวอ้างในแบบฟอร์ม กัญชง 1 ควรจะมีหลักฐานมาประกอบ
  6. จัดเตรียมสถานที่ การจัดเตรียมสถานที่หลักๆ จะเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งจำเป็นจะต้องมีภาพถ่ายเพื่อใช้ประกอบการขออนุญาตปลูก โดยมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เขียนในแบบฟอร์มจะต้องมีหลักฐานยืนยันเป็นภาพถ่าย เช่น รั้วรอบแปลงปลูก ความสูงของรั้ว ประตูเข้าแปลงปลูก สถานที่เก็บผลผลิตกัญชง และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรูปแบบการปลูกกัญชงแต่ละแบบจะมีมาตรฐานที่ต่างกันออกไป หากปลูกเพื่อเอาเส้นใยก็จะมีมาตรฐานความปลอดภัยอีกแบบหนึ่ง การปลูกเพื่อเอาช่อดอกและการปลูกเพื่อเก็บเกี่ยวเมล็ดก็จะต้องมีมาตรฐานความปลอดภัยที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การปลูก
  7. ยื่นเอกสาร เมื่อจัดเตรียมเอกสารและสถานที่เสร็จเรียบร้อยก็สามารถนำเอกสารมายื่นที่ สสจ. ได้เลย โดยหลังจากการยื่นเอกสาร ทาง สสจ. จะตรวจสอบเอกสาร ถ้ามีรายละเอียดส่วนไหนที่ผิด หรือต้องปรับแก้ สสจ. จะให้นำเอกสารกลับไปปรับแก้ใหม่ ซึ่งในระหว่างที่รอทาง สสจ.ติดต่อกลับเพื่อนัดวันลงพื้นที่ตรวจแปลงกัญชง เกษตรกรไม่สามารถที่จะดำเนินการเกี่ยวกับการปลูกใดๆ ได้เลย จะต้องรอให้ได้รับอนุญาตปลูกก่อนเท่านั้น ถึงจะสามารถดำเนินการปลูกกัญชงได้
  8. เตรียมแปลงปลูกกัญชง การลงพื้นที่ตรวจแปลงปลูกกัญชง ทาง สสจ. จะติดต่อผู้ขออนุญาตปลูกเพื่อพูดคุยรายละเอียดการลงพื้นที่ตรวจ โดยหลักๆ จะเป็นการพูดคุยเกี่ยวกับการนำเสนอข้อมูลของผู้ขออนุญาตปลูกและข้อมูลการปลูก ให้กับคณะกรรมการฟัง

แนวเขตพื้นที่ปลูกที่เห็นได้ชัด (ที่มาภาพ จาก : สำนักงานสาธารณสุขตาก)

ซึ่งผู้ที่จะนำเสนอเป็นเจ้าหน้าที่ ของทาง สสจ. จัดทำการนำเสนอเอง ส่วนผู้ขออนุญาตปลูกจะต้องตัดเตรียมข้อมูลภาพถ่ายส่งให้กับเจ้าหน้าที่ของทาง สสจ. เพื่อไปใช้ประกอบการนำเสนอ โดยหลักๆ จะเป็นไฟล์ภาพถ่ายสถานที่ของแปลงปลูก และภาพถ่ายมาตรการรักษาความปลอดภัย หรือพูดง่ายๆ คือ เป็นภาพถ่ายชุดเดียวกับที่ใช้ประกอบในเอกสารขออนุญาตปลูกนั่นเอง

ตรวจแปลงปลูกกัญชง

และหลังจากการลงพื้นที่ตรวจแปลงเสร็จ ในวันเดียวกันนั้นทางคณะกรรมการจะประเมินทันทีว่าผู้ขออนุญาตจะผ่านการพิจารณาการขออนุญาตหรือไม่ ถ้าไม่ผ่านกรรมการจะแจ้งกับเกษตรกรโดยตรง และให้มีการปรับแก้ไข แต่ถ้าไม่มีปัญหาอะไร การขออนุญาตผ่านการประเมินทางคณะกรรมการก็จะแจ้งผลกับเกษตรกรโดยตรงเช่นเดียวกัน แล้วหลังจากนั้นทาง สสจ. ดำเนินการเอง เพื่อให้ได้เอกสารยืนยันว่าเราขออนุญาตปลูกผ่านเรียบร้อยแล้ว

เลี้ยงไส้เดือนควบคู่ไปด้วย

โดยในวันตรวจแปลงจริงจะมีคณะกรรมการมายังแปลงทั้งคณะกรรมการและผู้ติดตาม โดยสถานที่แรกจะเป็นโรงพยาบาล เมื่อประชุมเสร็จทางผู้ขออนุญาตจะเป็นผู้นำทางคณะกรรมการทั้งหมดมาที่แปลงปลูกด้วยตัวเอง โดยคณะกรรมการหลักๆ ที่ลงพื้นที่ตรวจ ได้แก่ นายอำเภอ, ผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจำอำเภอ, ผู้กำกับสถานีตำรวจประจำอำเภอ, สาธารณสุขอำเภอ, เกษตรอำเภอ, ตัวแทนจาก สสจ., และคณะกรรมการอื่นๆ ตามที่มีการแต่งตั้ง พี่เนป เผยถึงขั้นตอนการขอใบอนุญาต

ยื่นขออนุญาตปลูกได้ที่ไหน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่เบอร์โทร. 091-831-6248 หรือติดต่อได้ช่องทางเฟซบุ๊ก : ไร่ สาสุข Rai Sasuk