ข้าวโพดอินทรี 2 ที่กลางดง งานวิจัยที่สร้างเศรษฐกิจชุมชนปีละ 1,000 ล้านบาท

ฝักข้าวโพดต้มอินทรี 2

ผู้ใช้เส้นทางจากนครราชสีมา มุ่งสู่กรุงเทพฯ ส่วนใหญ่คงมีโอกาสแวะชิมข้าวโพดหวานที่ไร่สุวรรณ ซึ่งมีชื่อเต็มๆว่า ศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

               ข้าวโพดอร่อยที่ได้ลิ้มรสกัน เป็นผลงานวิจัยของ ดร.โชคชัย เอกทัศนาวรรณ นักวิชาการเกษตรเชี่ยวชาญพิเศษ ส่วนตำแหน่งบริหาร คือผู้อำนวยการศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ

คนแวะเวียนซื้อกันมาก
คนแวะเวียนซื้อกันมาก

               สถานที่แห่งนี้ ตั้งอยู่ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เมื่อก่อนมีชื่อเสียงมากทางด้านพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ คือพันธุ์สุวรรณ 1 สุวรรณ 2

               ตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นมา ข้าวโพดหวานอินทรี 2 เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง

น้ำนมข้าวโพดหวานอินทรี 2
น้ำนมข้าวโพดหวานอินทรี 2

               ดร.โชคชัย ใช้เวลาวิจัยข้าวโพดสายพันธุ์นี้อยู่ 6 ปี จึงได้ข้าวโพดหวานอินทรี 2 ซึ่งเป็นลูกผสมระหว่างสายพันธุ์แท้SSWI 114 กับ KSei 14004 ผลที่ออกมานั้น ข้าวโพดหวานอินทรี 2 ให้น้ำหนักฝักสดทั้งเปลือก 2,430 กิโลกรัมต่อไร่ น้ำหนักฝัดสดที่ปอกเปลือกแล้ว 1,371 กิโลกรัมต่อไร่ ความหวาน 15 บริกซ์

               หลังเปิดตัว ข้าวโพดหวานอินทรี 2 ได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง ทางศูนย์ฯได้เพิ่มพื้นที่การจำหน่าย ซึ่งมีจำหน่ายฝักดิบ ฝักที่ต้มสุกแล้ว น้ำนมข้าวโพด รวมทั้งเมล็ดพันธุ์

                ดร.โชคชัยบอกว่า ทางศูนย์ฯได้วางแผนการผลิต โดยส่งเสริมให้เกษตรกรปลูก จึงมีผลผลิตจำหน่ายทุกวัน

                นอกจากนี้ มีผู้ค้าอยู่ริมถนนบริเวณใกล้เคียง ตั้งแผงขายซึ่งก็สร้างรายได้ให้ดีมาก รวมๆแล้วปีหนึ่งข้าวโพดหวานสร้างรายได้ให้กับชุมชนไม่น้อยกว่าปีละ 1,000 ล้านบาท

                 ข้าวโพดของศูนย์แห่งนี้ มีรสหวาน มีกลิ่นหอมมาก เนื่องจากเขาตัดจากแปลงปลูกที่อยู่ไกลไม่เกิน 40 กิโลเมตร แล้วรีบนำมาต้มหรือแปรรูป การขนผลผลิตจากแปลงปลูกที่อยู่ใกล้ ทำให้ความหวานและกลิ่นหอมยังคงอยู่

                  ในกรณีที่ตัดข้าวโพดมาแล้ว แต่ปล่อยทิ้งไว้ 1-2 วัน ความหวานจะลดลง อย่างน้อย 1-2 บริกซ์ เวลาผ่านไป ความหวานก็ลดลงเรื่อยๆ

                  นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน เคยจัดเสวนาเกษตรสัญจรไปดูงานที่นี่ ซึ่งต้องจองผลผลิตให้ผู้ร่วมเดินทางไว้ชิมไว้ซื้อ หากไม่จองอดแน่ เนื่องจากคนแวะกันมาก โดยเฉพาะเสาร์และอาทิตย์ คนแน่น แทบไม่มีที่จอดรถ

              เมื่อปี 2554 ดร.โชคชัย ผู้วิจัย ได้รับรางวัล “ผลงานวิจัยสร้างผลกระทบ”  และรางวัลอื่นๆอีกนับไม่ถ้วน

              ได้ชิมข้าวโพดและเห็นคนแวะเวียนไปซื้อกันแล้ว ต้องยกนิ้วให้ งานวิจัยชิ้นนี้ เผ็นผลงานยอดเยี่ยมและสร้างผลกระทบในเชิงบวกอย่างมาก

              ที่ศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างมีเบอร์ 044-361770-2 เมล็ดพันธุ์ข้าวโพดกิโลกรัมละ 500 บาท ถือว่าไม่แพง ส่วนข้าวโพดต้มและน้ำนมข้าวโพด ไปสอบถามราคาที่ศูนย์ฯได้เลย