เกษตรกรน่าน ทำเกษตรผสมผสาน ขายทั้งออฟไลน์-ออนไลน์ มีรายได้หลักแสนต่อปี

เกษตรผสมผสานเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เกษตรกรหลายท่านให้ความสนใจ เพราะในพื้นที่ที่ทำการเกษตรนั้น สามารถมีผลผลิตหลายชนิดออกขายสู่ตลาดได้ ตั้งแต่ผลผลิตที่เป็นพืชผักไม้ผลตลอดไปจนถึงในเรื่องของการเลี้ยงสัตว์ จึงทำให้เกษตรกรมีรายได้หลากหลาย ตั้งแต่รายวัน รายสัปดาห์ ตลอดไปจนถึงรายเดือน อย่างเช่น คุณสิทธิชัย บังเมฆ อยู่บ้านเลขที่ 26 หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านพี้ อำเภอบ้านหลวง จังหวัดน่าน เป็นอีกหนึ่งเกษตรกรที่สนใจในเรื่องของการทำเกษตรผสมผสาน โดยพื้นที่สวนของเขาเป็นศูนย์เรียนรู้ที่ให้กับผู้ที่สนใจอยากทำเกษตรเข้ามาศึกษา เพราะการทำเกษตรผสมผสานสามารถต่อยอดเป็นอาชีพที่สร้างรายได้อย่างยั่งยืน 

คุณสิทธิชัย บังเมฆ

ย้ายกลับมาอยู่บ้าน

และเลือกทำการเกษตร

คุณสิทธิชัย เล่าว่า สมัยก่อนเขาทำงานอยู่ที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งในระหว่างนั้นได้ดูรายการเกี่ยวกับการทำเกษตรตามสื่อต่างๆ เกี่ยวกับเกษตรผสมผสาน เมื่อมีโอกาสได้กลับมาอยู่ที่บ้าน จึงเกิดความสนใจและอยากจะมาทำอาชีพนี้อยู่ที่บ้าน พร้อมกับเข้ารับการอบรมเป็นอาสาสมัครเกี่ยวกับด้านเกษตรต่างๆ เพื่อที่จะนำวิชาความรู้มาต่อยอดในพื้นที่ของตนเอง

การตอนกิ่งพันธุ์ไม้ผลขาย

“ตอนนั้นผมก็สมัครเป็นอาสาสมัครหลายอย่าง มีตั้งแต่อาสาปศุสัตว์ อาสาประมง อาสาเกษตร เพราะการอบรมทักษะพวกนี้สามารถช่วยผมได้มาก หลังจากอบรมในสิ่งเหล่านี้จนครบถ้วนแล้ว ผมก็มาจัดการพื้นที่ของผมเอง ว่าต้องการที่จะทำอะไรบ้าง ซึ่งครอบครัวของเราเดิมทีทำการเกษตรอยู่แล้ว แต่ทำในวิถีเดิมๆ อาจจะไม่มีการปรับปรุงบำรุงดินให้มีความสมบูรณ์ พอผมได้กลับมาทำ จึงได้นำวิชาความรู้เหล่านั้นมาช่วย ใช้เวลาปรับปรุงบำรุงดินอยู่ประมาณ 2-3 ปี ดินในพื้นที่ก็มีความสมบูรณ์” คุณสิทธิชัย บอก

ปรับเปลี่ยนจากพืชเชิงเดี่ยว

มาทำเกษตรผสมผสาน

คุณสิทธิชัย เล่าถึงการทำเกษตรของครอบครัวในช่วงแรกว่า ส่วนใหญ่จะเน้นทำเกษตรเชิงเดี่ยวเป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อเขากลับมาสานต่ออย่างเต็มตัวก็มีการปรับเปลี่ยน โดยแบ่งพื้นที่ให้มีความชัดเจนแบบผสมผสาน ซึ่งพื้นที่มีทั้งหมด 60 ไร่ จึงค่อยๆ ปรับเปลี่ยนครั้งละ 10 ไร่ จนทำให้เวลานี้สามารถทำเกษตรผสมผสานได้ทั้งหมด

พื้นที่ปลูกผัก

หลักของการทำเกษตรกรผสมผสานสิ่งที่ขาดไม่ได้คือบ่อน้ำ เขาได้ทำการแบ่งโซนบ่อน้ำสำหรับไว้ใช้ภายในสวนประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ แบ่งพื้นที่อีก 10 เปอร์เซ็นต์ไว้สำหรับที่อยู่อาศัย ส่วนไม้ผลและพืชแบ่งออกเป็นอีก 30 เปอร์เซ็นต์ และสำหรับทำปศุสัตว์แบ่งพื้นที่อย่างละ 30 เปอร์เซ็นต์

“จากประสบการณ์ที่ผมได้ไปอบรมมา ผมก็นำความรู้ที่ได้มาดำเนินการ โดยเฉพาะตรวจหาค่าวิเคราะห์ดินถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าในพื้นที่ของเรานั้นขาดอะไรบ้าง เพื่อที่เวลาปลูกพืชชนิดไหน จะได้เติมธาตุอาหารที่ดินมีไม่เพียงพอเข้าไปให้กับพืช โดยพืชที่ผมปลูกมีไม้ผลหลายชนิด ตั้งแต่ฝรั่ง ส้ม มะขามหวาน และก็มีมะนาว โดยแต่ละชนิดก็จะปลูกอยู่ประมาณอย่างละ 200 ต้น” คุณสิทธิชัย บอก

พื้นที่เลี้ยงไก่ไข่

ไม้ผลเหล่านี้ไม่ได้เก็บผลผลิตที่ออกตามฤดูกาลขายเพียงอย่างเดียว คุณสิทธิชัย บอกว่า ยังมีการตอนกิ่งของไม้แต่ละชนิดขายอีกด้วย ซึ่งการขายกิ่งพันธุ์เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่เพิ่มมูลค่าได้ ดีกว่าการที่จะตัดแต่งกิ่งทิ้งเป็นขยะไปเสียเปล่าๆ ทำให้ในแต่ละปีสามารถขายกิ่งพันธุ์ได้เงินพอสมควร

ส่วนพื้นที่ที่แบ่งทำปศุสัตว์จะเน้นมีสัตว์หลายชนิด แต่ที่เป็นจุดเด่นจะเป็นสุกร โดยผลิตลูกสุกรออกขายตั้งแต่อายุ 1 เดือน หรือจะเลี้ยงให้ได้อายุอยู่ที่ 4 เดือน น้ำหนักอยู่ที่ 95-110 กิโลกรัม ซึ่งการเลี้ยงต้องมีอาหารลดต้นทุนคือใช้วัตุดิบที่ได้จากในสวนมาช่วยผสมกับอาหารข้นให้สุกรกิน ก็จะช่วยให้ลดต้นทุนในการผลิตไปได้ค่อนข้างมาก

พื้นที่เลี้ยงแพะ

“ของเสียอย่างมูลสัตว์ที่เราเลี้ยง พวกนี้สามารถเป็นปุ๋ยได้ ถือว่าเป็นปุ๋ยชั้นดีให้กับเราเลย เพราะนอกจากผมเอาไว้ใช้เองภายในพื้นที่ปลูกพืชผักของผมแล้ว ที่เหลือสามารถขายให้กับเพื่อนเกษตรกรท่านอื่นๆ ก็ถือว่าปุ๋ยมูลสัตว์เหล่านี้ช่วยเราได้มาก เพราะเงินที่ได้จากการขาย สามารถนำมาหมุนเวียนเป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ ภายในฟาร์มได้” คุณสิทธิชัย บอก

ฝรั่งที่ปลูกขายทั้งผลและตอนกิ่งพันธุ์

ผลผลิตเกษตรผสมผสาน

ทำให้มีรายได้ตลอดเวลา

ในเรื่องของการทำตลาดเพื่อขายสินค้าภายในสวนนั้น คุณสิทธิชัย บอกว่า ตั้งแต่ทำเกษตรกรผสมผสานรายได้สามารถกำหนดได้ว่าในแต่ละวันจะขายอะไร เพราะเมื่อเทียบกับการทำพืชเชิงเดี่ยวแบบสมัยก่อนนั้น กว่าจะขายได้ใช้เวลาเป็นปีจนกว่าผลผลิตจะขายได้ เพราะฉะนั้นเกษตรผสมผสานจึงเป็นทางรอดในการสร้างรายได้ โดยสัตว์ที่เลี้ยงทั้งหมดอย่างไก่หรือสุกรจะมีปุ๋ยคอกออกมาให้ขายได้ทุกวัน ส่วนรายได้รายเดือนคือลูกสุกรและแพะก็สามารถทำเงินได้เช่นกัน

พื้นที่คอกหมู

การทำตลาดเพื่อขายสินค้าภายในสวนทั้งหมด ทำการตลาดแบบควบคู่กันไป มีตั้งแต่ออฟไลน์ไปจนถึงออนไลน์ ยิ่งเป็นยุคปัจจุบันด้วยแล้วจะมุ่งทำตลาดอย่างใดอย่างหนึ่งแบบเดียวไม่ได้ ต้องทำการตลาดทั้ง 2 แบบควบคู่กันไป จึงทำให้รู้ความต้องการของลูกค้าและนำความต้องการเหล่านั้นมาวางแผนการผลิตของสวนได้ ช่วยให้ในแต่ละปีมีสินค้าที่ตรงตามความต้องการของลูกค้า

กองปุ๋ยหมักที่ส่งขาย

“สำหรับราคาสินค้าอย่างกิ่งพันธุ์ไม้ผล ผมมีหลายราคาขายตั้งแต่กิ่งละ 60-300 บาท ส่วนลูกสุกรอายุ 1 เดือน มีราคาตั้งแต่ 2,000-2,500 บาท และถ้าสุกรอายุ 3-4 เดือนขึ้นไป จะได้อยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 83 บาท ซึ่งรายได้จากการทำเกษตรผสมผสานถือว่าดีไม่น้อย สำหรับผมเวลานี้ก็ถือว่า เกิดการยอมรับกับคนทั่วไปมากขึ้น ตอนนี้มีคนที่สนใจเข้ามาศึกษาดูงานอยู่เสมอ สำหรับคนที่สนใจและอยากมาทำการเกษตร การจะให้ประสบผลสำเร็จนั้น ต้องเริ่มที่ใจรักก่อนเลย จากนั้นศึกษาเรียนรู้ให้ชำนาญ สิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยทำให้เกิดรายได้ยั่งยืนได้ไม่ยาก” คุณสิทธิชัย บอก

พื้นที่เลี้ยงโค

สำหรับท่านใดที่สนใจในเรื่องของการทำเกษตรผสมผสาน หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ คุณสิทธิชัย บังเมฆ หมายเลขโทรศัพท์ 096-513-5433