หากใครมีพื้นที่ว่างไม่ได้ใช้ประโยชน์ ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกปลูกพืชอะไรดี ขอแนะนำให้ลองปลูกผักบุ้งไทยหรือผักบุ้งแก้ว เป็นพืชทางเลือกทำเงิน เนื่องจากผักบุ้งไทยเป็นพืชผักที่ปลูกดูแลง่าย ลงทุนครั้งเดียว มีอายุเก็บเกี่ยวนานถึง 4 เดือน สร้างรายได้และผลกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ

ก่อนอื่นมาทำความรู้จัก ผักบุ้งแก้วก็สักหน่อย ผักบุ้งแก้วนั้นเป็นสายพันธุ์ธรรมชาติที่สามารถเกิดขึ้นเองได้กับทุกสภาพพื้นที่ทั้งในแหล่งน้ำลำคลองหรือ พื้นดินทั่วไป จุดเด่นลำต้นสีเขียวเข้ม อวบอบอ้วน แบ่งปล้องแข็งแรง ไปเรียวคล้ายหัวลูกศรปลายเว้าเป็นรูปหัวใจ และมียาง สามารถเจริญเติบโตได้ไว อายุยืนสามารถเก็บแล้วเกิดขึ้นใหม่ได้ในเวลาอันรวดเร็ว

ผักบุ้งเป็นพืชที่ให้คุณค่าทางอาหารสูง อุดมไปด้วยวิตามินเอ เกลือแร่ โปรตีน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้งต้ม ยำ ทำแกง ไม่ว่าจะเป็นแกงเทโพ แกงส้ม หรือก๋วยเตี๋ยวก็อร่อยทุกเมนู  เป็นผักที่ขายดีตลอดทั้งปี ราคาของผักบุ้งจะสูงขึ้นในช่วงหน้าหนาวหรือช่วงที่ในตลาดมีผลผลิตน้อย

คุณทิพพาพร  สุวรรณเกิด หรือคุณเร เกษตรกรรุ่นใหม่ ในพื้นที่ตำบลวัดสำโรง อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เป็นหนึ่งในเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จในเส้นทางอาชีพการปลูกผักบุ้งไทย หรือผักบุ้งแก้ว คุณเร เริ่มต้นทำนาผักบุ้งตั้งแต่เมื่อ 6 ปีก่อน หลังได้ผลผลิตคุณภาพดี เป็นที่ยอมรับของตลาดและมีฐานลูกค้าประจำ ซึ่งไม่ใช่พ่อค้าคนกลาง จึงขายผลผลิตได้ราคาดี และมีการขยายพื้นที่เพาะปลูกอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกผักบุ้งกว่า 70 ไร่ สร้างรายได้ทะลุหลักแสนบาทต่อเดือน

คุณเร เป็นอดีตมนุษย์เงินเดือนที่สนใจปลูกผักบุ้งเพราะให้ผลผลิตดี  ยิ่งตัดก็ยิ่งแตกยอด จึงเริ่มต้นจากทดลองปลูกผักบุ้งก่อนจำนวน 1 แปลง จากนั้นเริ่มทดลองหาตลาด จนได้ลูกค้าขาประจำ จึงค่อยๆ ขยายการลงทุนปลูกนาผักบุ้งมากถึง 75 ไร่ สร้างอาชีพและรายได้ที่มั่นคงสำหรับเลี้ยงดูแลครอบครัว ปัจจุบันสามารถเก็บผักบุ้งส่งขายตลาดได้ทุกวัน ไม่ต่ำกว่าวันละหนึ่งตัน

ภาพบรรยากาศการปลูกผักบุ้งแบบปักดำ

การลงทุนทำนาผักบุ้งหนึ่งรอบ จะมีอายุการเก็บเกี่ยวนาน 4 เดือน เมื่อต้นผักบุ้งแก่ ก็จะรื้อแปลงเก่าเพื่อทำนาผักบุ้งรอบใหม่   ส่วนพันธุ์ผักบุ้งจะคัดเลือกจาก ผักบุ้งแก่ อายุ 4 เดือนที่มีลำต้นเหนียว กดอย่างไรก็ไม่มีเสียงจะถูกนำมาใช้เป็นต้นพันธุ์ปลูกลงแปลงรอบใหม่ โดยต้องตัดยอดทิ้งก่อน จึงค่อยนำมาปลูกลงแปลง จะทำให้ต้นพันธุ์ที่นำมาปลูกใหม่ เติบโตงอกงาม ลำต้นสวย

โดยทั่วไป การทำนาผักบุ้งคล้ายกับการทำนาข้าว เป็นการปลูกแบบปักดำ  ขั้นตอนการเตรียมดินเริ่มจากตีดิน  ไถพรวนก่อน เวลาปลูกก็จะมีการวัดเชือกด้วยเพื่อปลูกเป็นแถวเป็นแนวสวยงาม และสามารถเก็บเกี่ยวได้ง่าย  ขณะเดียวกันต้องมีการเฉาะร่องน้ำในแปลงนาผักบุ้งด้วย เพื่อให้ช่วงเวลาฝนตกน้ำจะไหลไปตามร่องน้ำได้สะดวก หากไม่แหวกร่องน้ำ จะทำให้ผักบุ้งที่ปลูกใกล้ร่องน้ำเติบโตไม่สวยนั่นเอง

ผักบุ้งสามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี แต่ละฤดูจะมีวิธีการปลูกที่ต่างกัน สำหรับฤดูฝนเวลาปลูกก็จะฟาดลงไปและกดลงให้ปักดำลงดิน ส่วนการปลูกผักบุ้งในช่วงฤดูอื่น แค่วางแตะๆ ลงดิน ต้นผักบุ้งก็เติบโตได้ง่ายตามธรรมชาติ ใช้เวลาปลูกดูแลแค่ 1 เดือนก็เริ่มเก็บเกี่ยวผลออกขายได้

หลังจากผักบุ้งไทยอายุ 1 เดือน คุณเรจะขึ้นน้ำลงแปลงนาผักบุ้งประมาณ 70 เซนติเมตร หากน้ำสูงเกินไปอาจทำให้ต้นผักบุ้งรากลอย และตายได้  การดูแลจัดการที่เหมาะสม จะทำให้ผักบุ้งทอดยอดยาวได้เต็มที่ หลังจากนั้นจะเริ่มตัดส่งเข้าตลาด ผักบุ้งไทยที่ตัดรอบแรก หลังจากบำรุงอย่างเหมาะสม ปล่อยให้ต้นผักบุ้งเติบโตยาวเต็มที่ ตัดมาจะไม่ค่อยมีราก เป็นเบอร์ยอด ตัดขายได้สบาย

ทั้งนี้คุณเรลงทุนปลูกหนึ่งรอบจะสามารถเก็บยอดได้นานถึง  4  เดือน  โดยทั่วไป ผักบุ้งไทยสามารถปลูกได้ทั้งในดินและในน้ำ  ซึ่งข้อดีของการปลูกผักบุ้งในน้ำก็คือผักบุ้งมีความกรอบ  หากปลูกในดินจะทำให้ผักบุ้งมีความเหนียวและยอดจะไม่ใหญ่

การเก็บเกี่ยวผักบุ้งนั้นจะตัดยอดผักบุ้งให้มีความยาวประมาณ 60-70 เซนติเมตร เมื่อนำมาถึงบ้านจะต้องตัดแต่งบริเวนโคนก้านและ เด็ดใบเหลืองใบที่ไม่สวยสมบูรณ์ทิ้ง ก่อนนำมาชั่งน้ำหนักและใช้ก้านมะพร้าวมัดเป็นกำๆ ละ 6 ขีด ก่อนจะบรรจุใส่ถุงพร้อมจำหน่าย ซึ่งมีราคาขายโดยเฉลี่ยต่อถุงตั้งแต่ 60-200 บาท ขึ้นอยู่กับช่วงฤดูกาล โดยช่วงฤดูหนาวจะเป็นช่วงที่ราคาผักบุุุ้งแพงที่สุดในรอบปี

คุณเรเข้าใจธรรมชาติของผักบุุ้ง หลังตัดแล้วจะมีการคายน้ำตามธรรมชาติ ดังนั้นจึงชั่งน้ำหนักผักบุ้งต่อถุงให้เกินกว่าที่กำหนด คือ  5 กิโลกรัม 3 ขีด เพราะระหว่างการขนส่งผักบุ้งจากบ้านไปถึงมือลูกค้าที่ปลายทาง หลังผักบุ้งคายน้ำแล้ว จะได้น้ำหนักพอดีคือ  5 กิโลกรัมต่อถุงนั่นเอง  การดูแลใส่ใจการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวอย่างถูกต้องเหมาะสม ทำให้ได้รับความเชื่อถือจากลูกค้าขาประจำ มียอดสั่งซื้อสินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยผักบุ้งของคุณเรถูกส่งไปขายในพื้นที่ภาคใต้  ภาคเหนือและภาคอีสาน โดยมียอดขายโดยรวมแต่ละวันไม่ต่ำกว่า 200 ถุง

โดยปกติ พื้นที่ปลูกผักบุ้ง  1 ไร่จะสามารถเก็บผลผลิตได้ประมาณ 1,000 กิโลกรัม  หลังตัดยอดผักบุ้งมีดแรกแล้ว เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีส่งมอบให้ลูกค้า ก็จะเว้นระยะการตัดผลผลิตรอบใหม่ทุก ๆ  7 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้ยอดผักบุ้งงอกออกมาใหม่เติบโตได้เต็มที่

หลังการเก็บเกี่ยวจะใส่ปุ๋ยเม็ด บำรุงทางดิน สูตร 30-20-0  และใช้โดรนฉีดฮอร์โมนบำรุงผักบุ้ง  วิธีนี้จะช่วยให้ผักบุ้ง ลำต้นอวบใหญ่ ใบเขียวนวล ก้านอวบกรอบ  และให้ผลผลิตคุณภาพดีสม่ำเสมอ เพลี้ยและไรแดง คือ ศัตรูพืชที่สำคัญของการปลูกผักบุ้ง คุณเรจะใช้โดรนฉีดสารกำจัดศัตรูพืชเพื่อป้องกันแมลงศัตรูพืชเป็นระยะ ๆ   คุณเรยินดีแบ่งปันความรู้เรื่องการปลูกผักบุ้งสร้างอาชีพผ่านทาง FB: Thippapond Suwannakerd  หากใครสนใจเรื่องการปลูกผักบุ้ง ก็สามารถติดตามได้ทางช่องทางดังกล่าวได้ทุกวัน

…………………….

ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบข่าว จาก FB: Thippapond Suwannakerd