บัณฑิตแม่โจ้ หันหลังให้งานบริษัท มาปลูกองุ่นไร้เมล็ด เป็นงานสร้างรายได้ ทำการตลาดง่ายๆ แต่โดนใจผู้ซื้อ ราคาจับต้องได้

ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่า อาชีพทางการเกษตรไม่ได้เป็นงานที่สนใจเฉพาะผู้อยู่ในวัยเกษียณหรือผู้ที่เข้าสู่วัยกลางคน แต่ยังเป็นอาชีพที่คนหนุ่มสาวในยุคปัจจุบันให้ความสนใจมากขึ้น โดยบางท่านเมื่อเรียนจบการศึกษาแล้ว เมื่อได้ไปทดลองทำงานในบริษัทได้สักระยะ รู้สึกว่ายังไม่ตอบโจทย์กับความต้องการของชีวิต จึงลาออกจากงานนั้นมาประกอบอาชีพที่เกี่ยวกับการเกษตรก็มี เพราะได้ทำในสิ่งที่รักและที่สำคัญยังมีเวลาอยู่กับครอบครัวโดยที่ไม่ต้องจากบ้านไปไหนไกล

คุณบุญทวี ประดิษฐ อยู่บ้านเลขที่ 21/3 หมู่ที่ 4 ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่มีความสนใจที่อยากจะมีอาชีพทางการเกษตร ซึ่งเขามีดีกรีเป็นบัณฑิตแม่โจ้ รุ่นที่ 76 สาขาการผลิตสุกร คณะสัตวศาสตร์และเทคโนโลยี จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งเขาได้มาปลูกองุ่นโดยใช้พื้นที่บริเวณบ้านให้เกิดประโยชน์ เรียกว่าการปลูกองุ่นแทบไม่ได้ตรงกับสายที่เขาเรียนมาเลยก็ว่าได้ แต่เขาสามารถดูแลองุ่นให้มีผลผลิตที่ทำรายได้ให้กับเขาได้เป็นอย่างดี

คุณบุญทวี ประดิษฐ

ชอบงานเกษตร มาตั้งแต่เด็ก

คุณบุญทวี เล่าให้ฟังว่า ได้จบการศึกษาระดับปริญญาตรี เมื่อประมาณ ปี 2558 จากนั้นได้ไปทำงานในบริษัทได้สักระยะ แต่รู้สึกว่ายังไม่ตอบโจทย์กับความต้องการของชีวิต จึงได้มีแนวความคิดที่อยากจะกลับมาอยู่บ้าน โดยนำความรู้ที่ได้ศึกษามาพัฒนาต่อยอดทำเกษตรของครอบครัวให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

“บ้านผมทำอาชีพเกี่ยวกับการเกษตร เรียกว่าตั้งแต่เด็กจนโตมา ก็เห็นคุณพ่อคุณแม่ทำอาชีพนี้อยู่แล้ว ตั้งแต่ผมเด็กๆ ช่วงที่ผมว่างหลังเลิกเรียน ก็จะมีเวลาว่างช่วงนั้น ก็จะช่วยงานที่บ้านตลอด จึงทำให้รู้สึกชอบทำการเกษตร ซึ่งช่วงที่ผมไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย ตอนนั้นจะเลือกเรียนเกี่ยวกับพืช แต่คุณแม่บอกว่าให้เลือกเรียนเกี่ยวกับสัตว์แทน เพราะคิดว่าเรื่องพืชทำมาเยอะแล้ว น่าจะเอาความรู้ทางด้านสัตว์มาปรับใช้ที่บ้านบ้าง แต่พอจบมาจริงๆ เกี่ยวกับสัตว์ที่เรียนมาก็ไม่ได้มาประกอบอาชีพ แต่กลับมาทำเกี่ยวกับพืชอยู่ดี” คุณบุญทวี เล่าถึงที่มาให้ฟังด้วยใบหน้าที่เปี่ยมสุขปนด้วยรอยยิ้ม

เมื่อได้จบการศึกษาเกี่ยวกับทางด้านสัตว์มาแล้ว คุณบุญทวี บอกว่า ก็ได้ไปทดลองทำงานเกี่ยวกับด้านนี้สักระยะ แต่ก็ยังไม่ตอบโจทย์กับความต้องการของชีวิต จึงได้กลับมาอยู่บ้านและทดลองปลูกองุ่นแทน เพราะเป็นพืชที่มีคนรู้จักมาแนะนำให้ปลูก จึงทำให้เขาเริ่มปลูกองุ่นเป็นรายได้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

 

เมื่อได้รับโอกาส จึงตัดสินใจลงมือทำ

คุณบุญทวี เล่าให้ฟังไปว่า เมื่อคนที่รู้จักได้บอกให้มาปลูกองุ่นสร้างรายได้ จึงได้ตัดสินใจทำและเรียนรู้เพิ่มเติมจากแหล่งต่างๆ โดยในการลงทุนช่วงแรกคนที่รู้จักที่ให้ปลูกได้เป็นผู้สนับสนุนกิ่งพันธุ์มาให้ รวมทั้งปุ๋ยและเคมีภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งเขาเองยังไม่ต้องจ่ายเงินลงทุน จะจ่ายให้ก็ต่อเมื่อสามารถเก็บผลผลิตจำหน่ายแล้วจึงค่อยให้เงินคืนในภายหลังได้

“ช่วงที่กลับมาอยู่บ้าน เราก็หมักไก่ไปย่างขายตามตลาดนัดก่อน เสร็จแล้วไปขายเรื่อยๆ คนรู้จักที่เขาทำสวนองุ่นอยู่ เขาเห็นว่าเราเรียนจบเกษตรมา ทำไมไม่เอาความรู้เรื่องนี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ บวกกับพื้นที่ที่บ้านผมยังมีบางส่วนที่ยังไม่ได้นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ แกก็เลยแนะนำให้ผมมาปลูกองุ่น โดยที่แกจะช่วยเรื่องกิ่งพันธุ์ให้เอามาปลูกก่อน โดยยังไม่คิดเงินเลย พอผมเห็นว่ามีโอกาส ก็เลยรับไว้และทดลองปลูกทันที” คุณบุญทวี บอก

เนื่องจากการปลูกองุ่นเป็นเรื่องที่ใหม่สำหรับคุณบุญทวี ในช่วงแรกนั้นก็มีสะดุดบ้าง จนต้นพันธุ์องุ่นเกือบตายยกแปลง แต่เมื่อได้เรียนรู้และศึกษาอย่างจริงจัง จึงทำให้เขาสามารถผ่านปัญหาที่ประสบพบเจอมาได้ จนทำให้การปลูกองุ่นเป็นเรื่องที่ถนัดและทำรายได้ให้กับเขาตั้งแต่นั้นมา

องุ่นดำไร้เมล็ด

พันธุ์องุ่นที่คุณบุญทวีได้มาปลูก เป็นพันธุ์องุ่นแดงและองุ่นดำ ที่ทั้ง 2 สายพันธุ์ เป็นแบบไร้เมล็ด โดยปลูกองุ่นให้มีความห่างระหว่างต้น ประมาณ 5×5 เมตร ส่วนคานสำหรับให้องุ่นเลื้อยเป็นโรงเรือนเก่าที่คุณแม่ใช้ปลูกดอกเบญจมาศ จึงทำให้ไม่ต้องลงทุนในเรื่องนี้ เมื่อองุ่นลงดินแล้วดูแลต่อไปอีกประมาณ 8 เดือน ขนาดของต้นก็จะเริ่มเจริญเติบโต พร้อมที่จะรับการแต่งกิ่งและให้ผลผลิตได้

ระยะติดผล

“1 ปี องุ่นสามารถให้ผลผลิตได้ 2 ครั้ง ซึ่งพอหลังจากที่เราตัดแต่งกิ่งแล้ว ซึ่งอายุตั้งแต่ออกดอกจนติดผล จนเก็บขายได้ จะใช้เวลาประมาณ 4 เดือน พอเราเริ่มเห็นดอกหลังตัดแต่งแล้ว จากนั้นเราก็จะรดน้ำทุกวัน และใส่ปุ๋ยอาทิตย์ละครั้ง ต้นละประมาณ 1 กำมือ ในเดือนแรกที่ติดดอกจะใส่ปุ๋ย สูตรเสมอ 15-15-15 พอเข้าสู่เดือนที่ 2 จะเปลี่ยนปุ๋ยเป็นสูตร 13-13-21 และเมื่อเข้าสู่เดือนที่ 3 ก็จะเปลี่ยนปุ๋ยเป็น สูตร 8-24-24 จากนั้นพอจะเข้าสู่เดือนที่ 4 ผลผลิตใกล้จะแก่จนเก็บขายได้ จะเปลี่ยนเป็นให้น้ำทุก 3 วันครั้ง จะไม่ให้บ่อยเหมือนช่วงแรกๆ ที่ออกดอก ซึ่งถ้าต้องการให้ผลสวยก็จะมีการห่อผลองุ่นด้วยก็จะเป็นการดี” คุณบุญทวี บอกถึงวิธีการดูแลองุ่น

ดูแลอย่างใกล้ชิด

นอกจากจะมีการใส่ปุ๋ยบำรุงต้นในช่วงออกดอกแล้ว ช่วงที่องุ่นเริ่มติดผลเห็นมีลักษณะเท่าไข่ปลา ก็จะฉีดฮอร์โมนช่วยยืดบริเวณช่ออีกประมาณ 2 ครั้ง ก็จะช่วยให้พวงของผลองุ่นยาวขึ้นและมีผลผลิตที่ดี

เรื่องโรคที่น่ากลัวมากที่สุดขององุ่น คุณบุญทวี บอกว่า โรคราน้ำค้าง ที่เกิดจากสภาพอากาศร้อนสลับฝน ก็จะทำให้สภาพแวดล้อมเหมาะสมเกิดโรคได้ง่าย จึงต้องหมั่นดูแลและป้องกันอย่างใกล้ชิดยู่เสมอในช่วงที่องุ่นติดผล และเมื่อเก็บองุ่นจำหน่ายจนหมดทั้งต้นแล้ว ก็จะพักต้นไปอีกประมาณ 1-2 เดือน จึงจะตัดแต่งกิ่งใหม่เพื่อให้มีผลผลิตต่อไป

 

ทำแพ็กเกจจิ้งให้น่าซื้อ แต่เป็นราคาที่จับต้องได้

เมื่อองุ่นที่ปลูกสามารถให้ผลผลิตจนสามารถจำหน่ายได้แล้ว คุณบุญทวี บอกว่า จะนำไปฝากจำหน่ายกับร้านที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนร้านอาหารที่มีผู้คนเข้ามาใช้บริการ โดยเน้นให้ตัวสินค้าน่าซื้อในราคาย่อมเยา โดยที่ลูกค้าจับต้องได้ และที่สำคัญซื้อเป็นของฝากกลับบ้านติดไม้ติดมือไปได้อีกด้วย

“ช่วงแรกๆ การทำตลาดต้องบอกเลยว่า ยังไม่มีความชำนาญพอ จะเน้นขายแบบเป็นกิโลกรัม ซึ่งเมื่อลูกค้าเห็นก็จะมองว่ามันแพงไป ก็จะยังไม่ตัดสินใจซื้อ ทีนี้เราก็มาลองคิดใหม่ว่า จะทำยังไง ที่คนจะสามารถซื้อได้ง่ายๆ และเป็นของฝากได้ด้วย จึงได้ปรับเปลี่ยนทำเป็นแพ็กเกจจิ้งขนาดเล็กลงมา ให้ดูน่าซื้อมากยิ่งขึ้น โดยเปลี่ยนจากการขายเป็นกิโลกรัม มาเป็นกล่องเล็กๆ 100-200 กรัม ที่สามารถซื้อได้ทุกเพศทุกวัย และเป็นของฝากให้แก่กันได้” คุณบุญทวี บอกถึงเรื่องการตลาด

คุณบุญทวี ประดิษฐ

โดยราคาองุ่นดำไร้เมล็ด จำหน่ายอยู่ที่กิโลกรัมละ 180-240 บาท และองุ่นแดงไร้เมล็ด ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 260-300 บาท ความนิยมของลูกค้าที่ซื้อจะชอบองุ่นแดงมากกว่าองุ่นดำ ถึงแม้ว่าราคาจะสูงกว่ากันก็ตาม

คุณบุญทวี บอกว่า ขณะนี้กำลังเตรียมขยายพื้นที่ปลูกให้มีจำนวนมากขึ้น เพื่อให้ผลผลิตมีเพียงพอต่อความต้องการของตลาด ทั้งนี้สำหรับผู้ที่สนใจอยากทำการเกษตรเพื่อสร้างรายได้เขาแนะว่า

“งานเกษตรเมื่อเทียบกับงานอื่นๆ มันเป็นงานที่เร่งเวลาไม่ได้ แต่เมื่อทำไปได้สักระยะ เมื่อสิ่งที่เราทำลงตัว และเห็นผลผลิตออกมา เราก็จะมีกำลังใจที่จะทำต่อไป เพราะอะไรที่จะเพียบพร้อมทุกอย่างมันไม่มีในโลก มีแต่ตัวเราเองที่ต้องลงมือทำเอง หากเอาแต่คิด แต่ไม่ลงมือทำ ความสำเร็จมันก็เกิดขึ้นได้ยาก เพราะฉะนั้นค่อยๆ ทำ และให้ประสบการณ์เหล่านั้นเป็นครูให้เรา ผมเชื่อว่าทุกคนประสบผลสำเร็จอย่างแน่นอน”

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณบุญทวี ประดิษฐ หมายเลขโทรศัพท์ (086) 910-0630