รีสอร์ต ที่ไทรโยค ปลูกผักอินทรีย์ ทำเมนูอาหารปลอดภัย ซื้อกลับบ้านได้

การผลิตผักอินทรีย์ไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้ที่ยึดอาชีพอยู่ในภาคเกษตรกรรมเท่านั้น สมัยนี้ภาคธุรกิจขนาดใหญ่ หน่วยงานเอกชน หรือคนธรรมดาทั่วไปก็สามารถปลูกผักอินทรีย์ไว้ตามที่ต้องการได้ ขอเพียงอย่างเดียวคือ ต้องไม่ใช้สารเคมี

อย่างธุรกิจรีสอร์ตที่เมืองกาญจน์ได้จัดแบ่งพื้นที่ภายในสำหรับทำเป็นแปลงปลูกผักอินทรีย์หลายชนิด เพื่อนำไปใช้ประกอบอาหาร ด้วยความตั้งใจต้องการให้ลูกค้าที่มาพักได้บริโภคอาหารที่ปลอดภัยมีประโยชน์ต่อสุขภาพ หรือแปรรูปเป็นน้ำสมุนไพร แถมยังเปิดโอกาสให้ซื้อติดมือกลับบ้านได้อีก

คุณสุเทพ เดชอนันตชาติ กับใบมัน ผักอินทรีย์ดาวเด่นของรีสอร์ต

คุณสุเทพ เดชอนันตชาติ กรรมการผู้จัดการ เล่าว่า คุณพ่อ คือ คุณอนันต์ เดชอนันตชาติ มาซื้อที่ดินแปลงนี้ไว้เมื่อ 30 กว่าปีก่อน โดยตั้งใจจะสร้างเป็นบ้านพักส่วนตัวเพื่อพักผ่อน ครั้นมาเห็นถึงความเป็นธรรมชาติที่รายล้อมด้วยป่าและแม่น้ำของอำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี จึงผุดไอเดียเพื่อสร้างเป็นธุรกิจรีสอร์ตที่ชื่อ โยโกะ ริเวอร์แคว รีสอร์ต (Yoko Riverkwai Resort)

สำหรับเรื่องปลูกผัก กรรมการผู้จัดการ บอกว่า เกิดจากความที่คุณพ่อเป็นคนใส่ใจในเรื่องสุขภาพ จึงนำผักมาปลูกเป็นแปลงเล็กๆ ในแบบอินทรีย์ล้วน เพื่อไว้ทำอาหารรับประทานเอง แต่พอนานไปด้วยสภาพของพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์จากดิน น้ำ และอากาศ จึงมีผลทำให้ผักเหล่านั้นเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์เพิ่มจำนวนมาก ไม่สามารถเก็บมาบริโภคได้ทัน จึงตัดสินใจนำมาเซ็ตเป็นเมนู พร้อมกับใช้ปรุงอาหารในรีสอร์ต หรือหากบางช่วงฤดูมีผักมากเกินไปก็จะนำไปขายด้วย

บังเอิญในเวลานั้นเป็นช่วงที่ผู้คนกำลังให้ความสนใจบริโภคผักปลอดสารกันอย่างกว้างขวาง ขณะที่ภายในรีสอร์ตมีพื้นที่บริเวณติดกับแม่น้ำแควน้อย ก็เลยถากถางเพื่อปรับปรุงเป็นแปลงปลูกผักปลอดสารนานาชนิดเพิ่มขึ้นอีก เพราะต้องการนำผักที่ปลูกอย่างปลอดภัยไร้สารเคมีมาทำเมนูอาหารให้แขกที่มาพัก เพื่อจะได้บริโภคอาหารที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ

แปลงปลูกใบมันผัดใส่น้ำมันอร่อยมาก

ความที่ไม่มีความรู้ด้านเกษตร จึงทำให้คุณสุเทพค้นคว้าหาข้อมูลด้วยตัวเอง พร้อมกับได้ไปขอคำปรึกษาจากทางเกษตรอำเภอเพื่อหาแนวทางที่ถูกต้อง แล้วได้เริ่มปลูกผักหวานเป็นชนิดแรก เนื่องจากเห็นว่าควรจะปลูกพืชผักที่ดูแลง่ายก่อน แล้วใช้ปุ๋ยคอกเป็นขี้วัวใส่เท่านั้น

ในเวลาต่อมาจึงเพิ่มประเภทผักที่ปลูกอีก ได้แก่ ถั่วฝักยาว แตงกวา แตงร้าน ใบมัน รวมทั้งผักสวนครัวหลายชนิด นอกจากนั้น ยังปลูกผักตามฤดูกาลอย่าง คะน้า กะหล่ำ ผักสลัด

คุณสุเทพ ชี้ว่าผักทุกชนิดเน้นการปลูกและการดูแลในแบบอินทรีย์ ดังนั้น จึงมักพบปัญหาโรค/แมลง บ่อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีพื้นที่ใกล้เคียงของชาวบ้านที่ปลูกพืชด้วยการใช้สารเคมี จึงทำให้แมลงศัตรูหลบมากินผักที่ปลูกไว้ในรีสอร์ต แต่ทางรีสอร์ตก็ได้ปรึกษากับนักวิชาการและกูรูหลายท่าน พร้อมกับตั้งรับด้วยการใช้แนวทางธรรมชาติป้องกันและสกัดไว้ด้วยการใช้ยาสูบมาละลายน้ำฉีดพ่น หรือใช้น้ำหมักชีวภาพที่นำเอาพืชผักผลไม้ที่เหลือทิ้งในแต่ละวันมาหมัก เพื่อใช้ฉีดเข้าช่วย

แปลงตะไคร้ใช้ทำอาหารและแปรรูปน้ำสมุนไพร

กรรมการผู้จัดการ บอกว่า ปลูกพืชผักหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นผักใบ สมุนไพร ไผ่กิมซุ้ง รวมถึงไม้ผลอย่าง แก้วมังกร และกล้วยน้ำว้า โดยใช้พื้นที่รวมทั้งหมด 5 ไร่ ปริมาณผักชนิดต่างๆ ที่ปลูกไว้สามารถนำมาใช้กับครัวอาหารได้อย่างดีมาก ช่วยลดต้นทุนการซื้อผักบางชนิดได้เกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ แถมยังมีแม่ค้ามารับซื้อไปขายที่ตลาดด้วย เพราะรู้ว่าปลูกผักอินทรีย์อย่างแท้จริง

สวนมะนาว

พืชผักบางอย่างไม่เพียงนำมาใช้คู่กับการปรุงอาหาร แต่ยังสามารถนำไปแปรรูปเป็นเครื่องดื่มสุขภาพไว้บริการเสิร์ฟลูกค้าที่เข้ามาพัก ไม่ว่าจะเป็น ตะไคร้ ใบเตย หรือแม้แต่มะนาว ดังนั้น พืชเหล่านี้จึงจำเป็นต้องปลูกให้มากกว่าชนิดอื่น

อีกทั้งเห็นว่ายังพอมีพื้นที่ว่างอีก รวมถึงได้เปรียบในเชิงกายภาพ เพราะมีความสมบูรณ์ของดินและน้ำ ก็เลยจะจัดวางผังการปลูกไม้ชนิดต่างๆ โดยแยกเป็นไม้ล้มลุกอายุสั้นที่จะปลูกสลับหมุนเวียนกันไป หรือไม้อายุยืน แล้วยังมีแนวคิดต่อไปอีกว่าจะเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่มาพักในรีสอร์ตได้เข้ามาเดินช็อปเพื่อเลือกผักที่ต้องการซื้อกลับบ้านด้วย

ด้วยความที่เป็นรีสอร์ตที่ใส่ใจกับการปลูกผักอินทรีย์คุณภาพเพื่อให้ลูกค้าได้บริโภคผักที่ปลอดภัย ดังนั้น เวลานำเสนอประชาสัมพันธ์จึงใช้คอนเซ็ปต์ “สวนผักปลอดสาร” ชูไว้ เพื่อดึงลูกค้าให้เข้ามาพัก จึงถือเป็นจุดขายของรีสอร์ต แล้วยังจัดเป็นกิจกรรมที่สร้างความสนใจให้แก่ลูกค้าในกลุ่มสุขภาพด้วย

“ตั้งใจทำธุรกิจรีสอร์ตเพราะต้องการให้ลูกค้าที่มาเที่ยวมีที่พักสบายในบรรยากาศธรรมชาติ แล้วยังตั้งใจจะปรุงอาหารจากพืชผักที่ปลอดภัยเพื่อสุขภาพของลูกค้าด้วย” คุณสุเทพ กล่าว

สุดสัปดาห์นี้ ถ้ายังไม่มีโปรแกรมท่องเที่ยวที่โดนใจ ลองหาเวลาเดินทางไปเที่ยวที่อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อไปพักผ่อนแบบสบายๆ ใกล้กรุงเทพฯ แล้วหากยังไม่มีที่พัก ลองสอบถามห้องพักไปที่ โยโกะ ริเวอร์แคว รีสอร์ต (Yoko Riverkwai Resort) เพราะไม่เพียงท่านได้สัมผัสกับความเป็นธรรมชาติอย่างใกล้ชิด แต่ยังได้มีโอกาสรับประทานผักปลอดภัยที่ดีต่อสุขภาพไปพร้อมกันด้วย

สอบถามเส้นทางได้ที่ โทรศัพท์ (034) 591-414-15, (081) 208-3277 www.yokoresort.com