จบ ป.โท รักอาชีพเกษตร สร้างฐานะด้วย “ทุเรียนหมอนทอง”

ไม่บ่อยนักที่จะมีโอกาสได้พบหรือสนทนากับเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จในอาชีพนี้ จนถึงขึ้นเรียกได้ว่าเป็นเศรษฐี  เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าเกษตรกรบ้านเรา ส่วนใหญ่มีฐานะยากจนหรือไม่ก็พอมีพอกิน ไม่มีเหลือเก็บ  น้อยคนนักที่จะสามารถสร้างฐานะมั่งคั่งขึ้นมาได้จากการทำอาชีพหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดินนี้ได้

งานนี้กรมส่งเสริมการเกษตร ชักชวนให้ไปดูสวนทุเรียนของ”คุณฉัตรกมล มุ่งพยาบาล”  ที่ต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ  จ.ชุมพร  บนพื้นที่ 45 ไร่  และยังมีสวนทุเรียนอีก 15 ไร่ ที่อำเภอทุ่งตะโก จังหวัดชุมพร

img_5248-728x546

ปีหนึ่งมีรายได้หลายล้าน

เกษตรกรหนุ่มผู้นี้ที่มีดีกรีถึงปริญญาโท โดยจบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้และปริญญาโทที่สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ หรือนิด้า  ซึ่งในสวนของเขาปลูกผลไม้หลายอย่างและพืชอื่นๆด้วยอย่างเช่น ปาล์มน้ำมัน กล้วยน้ำหว้า  ไผ่ตง ส้มโชกุน และทุเรียนหลายพันธุ์  แต่หลักๆคือ”หมอนทอง” ซึ่งเป็นพันธุ์ส่งออกที่ด้ราคาดี โดยในปีหนึ่งๆเขามีรายได้จากการขายทุเรียนส่งนอกหลายล้านบาท ประเทศนำเข้าเป็นอันดับหนึ่งคือ จีน 

  ด้วยความรู้ความสามารถและยังอุทิศตนให้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ โดยเฉพาะในวงการเกษตร ทำให้เขาได้รับรางวัลจากหน่วยงานต่างๆมากมาย อาทิ เกษตรกรทำสวนดีเด่นของจังหวัดชุมพร ปี 2557 และได้รับคัดเลือกเกษตรกรดีเด่นรองชนะเลิศระดับประเทศ สาขาอาชีพการทำสวน ในฐานะสมาร์ทฟาร์มเมอร์ของกรมส่งเสริมการเกษตร   ได้นั่งเก้าอี้เลขาธิการสมาคมชาวสวนไม้ผลจังหวัดชุมพร และเป็นประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มไม้ผลคุณภาพบ้านห้วยเหมือง รวมถึงมีตำแหน่งต่างๆอีกมาก และสวนของเขายังเป็นศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการจัดการคุณภาพทุเรียน และศูนย์การเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร การผลิตทุเรียนคุณภาพเพื่อการส่งออก

    เรียกว่า เป็นเกษตรกรตัวอย่างที่มีคุณภาพคับแก้วจริงๆ ที่สำคัญเขายังนำความรู้ความสามารถและประสบการณ์ต่างๆถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้อย่างไม่เหน็ดเนื่อย

img_5187-728x971

สาเหตุที่เขาทำสวนผลไม้จนสามารถสร้างฐานะได้อย่างมั่นคงนั้น มีหลายปัจจัยด้วยกัน ส่วนหนึ่งเพราะเรียนจบทางด้านเกษตรมา และเมื่อจบก็ทำงานกับบริษัทขายปุ๋ยเคมีอยู่หลายปี กระทั่งตัดสินใจมาทำยึดอาชีพเกษตรเต็มตัวในปี2540  จนถึงปัจจุบัน  โดยเป็นแปลงผลิตทุเรียนที่ตรงตามหลักเกษตรดีที่เหมาะสม (GAP) เป็นต้นแบบของการส่งออก

นอกจากนี้ยังใช้ระบบการบริหารจัดการที่ดี อาทิ ทำระบบQR Code เพื่อให้สามารถตรวจสอบคุณภาพย้อนกลับถึงแหล่งผลิตได้   ผลิตทุเรียนนอกฤดู  รวมถึงเน้นการรวมกลุ่มเกษตรเพื่อให้มีอำนาจต่อรองในการส่งออก  ซึ่งทำให้เขาและสมาชิกสามารถขายทุเรียนได้ถึงกิโลกรัมละ 120 บาท

ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง

 “หลักยึดในการทำอาชีพเกษตรของผมคือ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม พร้อมใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง และปรัชญาขอซูนวูที่ว่า รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ที่สำคัญจะต้องเป็นคนที่รักอาชีพเกษตร ชอบจะเรียนรู้ ซึ่งจะทำให้เราพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง”

  คุณฉัตรกมลเล่าว่า สาเหตุที่ทุเรียนในสวนลูกใหญ่และมีคุณภาพดี(ทุเรียนหนามเขียว)นั้น เป็นเพราะได้เรียนรู้ประสบการณ์ด้วยตัวเองมาหลายปี และเอาใจใส่ในทุกขั้นตอน ซึ่งยังใช้ปุ๋ยเคมีอยู่บ้าง แต่เป็นเกษตรแบบปลอดภัยโดยในการปรับปรุงบำรุงดินจะเลือกใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยหมัก ร่วมกับปุ๋ยอนินทรีย์  และเพิ่มคุณภาพผลผลิต เช่น  ช่วงหลังเก็บเกี่ยว  ใส่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์ในการเพิ่มความพรุน เพิ่ม O2 ให้ดิน จุลินทรีย์จะได้เพิ่มมากขึ้น

img_5184-728x546

ช่วงเพิ่มผลผลิต  จะต้องมีการ ปรับปรุงคุณภาพเพิ่มขนาดความหวาน  โดยใส่ปุ๋ยเคมี ตามความเหมาะของต้น  เพิ่มผลผลิตการให้แต่ละต้น  ทั้งนี้ใช้การตัดหญ้ามากกว่า การใช้สารกำจัดวัชพืช  เพื่อรักษาความชุ่มชื้น อุดมสมบูรณ์ของดิน  ในการลดการชะล้างหน้าดิน

ส่วนการป้องกันกำจัดศัตรูพืช โดยวิธีผสมผสาน เช่น ช่วงแล้ง  มีการระบาดของแมลง ปากดูด ก็ใช้น้ำสปริงเกอร์มากหน่อย ก็จะลดปัญหาโรคแมลง  ปากดูดไปได้

ช่วงฤดูฝน  เกิดโรคใบไหม้  เนื่องจากการกดทับดิน เหยียบย้ำหน้าดิน  ห้ามเข้าแปลงช่วงหน้าฝนถ้าไม่จำเป็น   ถ้าเป็นช่วงฤดูแล้ง  ปลายพุ่มน้ำไปไม่ถึงผลทำให้ใบไหม้  สำรวจแก้ไข  ต่อน้ำให้ทั่วถึง จะลดปัญหาปลายใบไหม้

 สำหรับการจัดการสวนใช้ระบบการจัดการแบบเกษตรดีที่เหมาะสม   นั้นคุณฉัตรกมล เน้นปลูกไม้ยืนต้นรอบสวนเพื่อเพิ่ม O2 ลดภาวะโลกร้อน และเป็นไม้ใช้สอย ในอนาคตได้  โดยไม่ทำลายป่าไม้  เพราะว่ามีการปลูกไม้ทดแทน  เช่นปลูกกล้วยน้ำหว้ารอบสวน

  “กล้วยน้ำหว้า  เป็นแหล่งเก็บความชื้น  กั้นพังทลายของดิน  ลดการสร้างหน้าดิน ได้ระดับหนึ่งในสวน  ยังเพิ่มรายได้เสริมให้กับสวนด้วย  และปาล์มน้ำมันที่ปลูกรอบสวนนั้น  เพื่อดูดซับธาตุหลักและรองของพืช  ที่ไหลลงมาช่วงฝนตก  ซับหน้าดิน ส่วนการปลูกปาล์มน้ำมัน  ช่วยจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์  ช่วยคนไทยช่วยชาวโลก  ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก “

 แนะตัดแต่งทุเรียนทรงปิระมิด

  สมาร์ทฟาร์มเมอร์รายนี้ยังบอกอีกว่า การทำให้ทุเรียนมีคุณภาพดีอีกอย่าง คือการตัดแต่งทรงพุ่มแบบปิระมิด  ซึ่งจะช่วยการไร้ตำแหน่งของกิ่งตั้งฉากกับลำต้นได้อย่างเหมาะสม ส่งผลถึงการติดผลการแขวนผลได้ในปริมาณเหมาะสมกับขนาดของลำต้น  และยังช่วยลดปัญหาโรคและแมลงได้อย่างดียิ่ง

ทั้งนี้การจัดการกิ่งทุเรียนในทรงพุ่มทำได้ตั้งแต่ทุเรียนอายุ 3 ปี เป็นต้นไป  โดยตัดแต่งกิ่งใบช่วงล่างของลำต้นให้มองเหมือนสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน  จะทำให้กิ่งสวนนี้ใหญ่ แขวนน้ำหนักได้ดี กิ่งใหญ่ คือ อ้วน การว่างตำแหน่งของทรงก็ดี ผลก็อยู่ใกล้ใบ ทำให้แหล่งอาหารของพืชติดผลดี  เลี้ยงลูกได้มาก ลูกใหญ่  น้ำหนักดี  ส่วนด้านบนเว้นไว้เป็นรูปปิระมิดต่อยอด  โดยไม่ต้องไปตัดแต่งกิ่ง ส่งผลให้ต้นไม้สูง  ทำให้เก็บเกี่ยวง่าย  การเจริญเติบโตด้านบนจะเป็นไปอย่างช้า ๆ ตามธรรมชาติ แต่จะทำให้กิ่งด้านล่างมีขนาดใหญ่

คุณฉัตรกมลแนะนำเกษตรกรรายอื่นๆด้วยว่า หากจะปลูกทุเรียนหรือพืชอื่นๆให้เป็นอาชีพที่มีรายได้ดีและยั่งยืนนั้น จะต้องประกอบด้วย  1ศึกษาพฤติกรรมของพืชและพันธุ์ทุเรียน  ตรงตามความต้องการของตลาด  2ศึกษาสารเคมี ฮอร์โมน  และปุ๋ย

3ศึกษาฤดูกาลของพืชในพื้นที่ทั้งในจังหวัด  ภาคใต้  ภาคตะวันออก  4ศึกษาฐานข้อมูลการผลิตและ  ปริมาณ 5ศึกษาภูมิศาสตร์ของพื้นที่ 6 มีกลุ่มเครือข่ายการผลิตอาชีพเดียวกัน

“ต้องเรียนรู้พฤติกรรมของพืชที่เราปลูกอย่างรู้ลึกรู้จริง ต้องมีฐานข้อมูลของการผลิต และการตลาดด้วย”

คุณฉัตรกมลยังอธิบาย ถึงการนำทฤษฎีรู้เขารู้เรามาใช้ว่า

จะต้องรู้ว่าทุเรียนมีพฤติกรรม  กล่าวคือ เรียนรู้จุดอ่อนของทุเรียนแล้วแก้ปัญหา เช่น ทุเรียนจะพ้นระยะปลอดภัยในการติดผล  หลังดอกบานเมื่ออายุ 2 เดือน  อันเกิดจากสาเหตุทุเรียนแตกใบอ่อน ผลลัพธ์คือ  ผลทุเรียนร่วง  หรือผลเบี้ยว

แนวทางแก้ไข  ทำให้ใบอ่อนที่แตกออกมาในระยะนี้แก่เร็ว เพื่อใช้คุมยอดโดยใช้สารเมฟิควอทครอไรท์ 25% EC หรือมีการใช้สารแพทโคลบิวทราโซล 10% หรือ 15% wp

รวมถึงการใช้ธาตุแมกนีเซียม ผสมกับปุ๋ยเกล็ด 0-52-34  หรือ 0-42-56 อีกทีเพื่อให้ใบอ่อนแก่เร็ว  จะช่วยลดปัญหาได้ เป็นต้น

ฟังคุณฉัตรกมลเล่าถึงผลผลิตและราคาต่อก.ก.ที่เคยขายได้ถึง 120 บาท ทำเอาหลายคนอยากไปเป็นชาวสวนทุเรียนกันบ้าง เพราะปีหนึ่งๆได้หลายล้านบาท

สนใจอยากเรียนรู้วิธีการปลูกทุเรียนหมอนทองส่งนอกให้ได้คุณภาพและราคาดี ติดต่อได้ที่ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการจัดการคุณภาพทุเรียน081 – 6074090