ผู้เขียน | ธาวิดา ศิริสัมพันธ์ |
---|---|
เผยแพร่ |
ตำรวจเชียงใหม่ ปลูกมะละกอ ด.ต. ศศิวัฒน์ ทรัพย์วรธนา (ดาบวอน) ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ตำรวจภูธร จังหวัดเชียงใหม่ ที่อยู่ 496/2 ตำบลท่าศาลา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
ด.ต. ศศิวัฒน์ ทรัพย์วรธนา (ดาบวอน) ผู้หลงรักในการทำเกษตร มองดูแล้วอาจห่างไกลกับอาชีพรับราชการตำรวจอยู่มาก แต่ด้วยความที่ใจรักและมีพื้นเพพ่อแม่ทำสวนทำไร่ตั้งแต่เด็ก จึงมีแนวคิดที่จะทำสวนเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ และอีกเหตุผลที่ทำคือ ลำพังเงินเดือนตำรวจน้อยนิด ไม่สามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวให้สบายได้ ต้องเป็นหนี้สหกรณ์ นำเงินมาใช้จ่ายหลายส่วน จึงอยากหาอาชีพเสริม ด้วยความที่พอมีความรู้ด้านการเกษตรติดตัว ประกอบกับมีผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกมะละกอให้คำแนะนำ จึงตัดสินใจใช้พื้นที่ที่เคยซื้อไว้เมื่อ 10 ปีก่อน ปลูกมะละกอพันธุ์เรดมาลาดอร์ จำนวน 5 ไร่ ปัจจุบันปลูกได้ผลดี ผลผลิตไม่พอขาย ลูกค้าต้องต่อคิวซื้อ ด้วยความที่มีรสชาติหวาน หอม อร่อย ทำเงินดี คิดง่ายๆ มะละกอ 3 วัน เก็บขายทีละ 2-3 เข่ง ก็ได้เงินหลายพันบาทแล้ว
ดาบวอน ตำรวจหนุ่มผู้ขยันขันแข็ง เดิมมีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดนครสวรรค์ แต่ต้องมารับราชการตำรวจที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเวลากว่า 20 ปี หลังออกเวรดาบวอนจะช่วยภรรยาขายก๋วยเตี๋ยวที่หอพักในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีลูก 1 คน เงินเดือนตำรวจไม่พอเลี้ยง 3 ชีวิต จึงตัดสินใจปลูกมะละกอเป็นอาชีพเสริมอีกทาง “ลำบากไม่กลัว กลัวอด” ซึ่งการทำสวนมะละกอกำลังไปได้ดี ไปดูกันว่าดาบวอนมีเทคนิคการปลูกอย่างไร ที่ทำให้มะละกอขายดิบขายดี ลูกค้าต้องต่อคิวซื้อ ทั้งๆ ที่ก็สามารถหาซื้อกินได้ทั่วไป
ปลูกมะละกอ ให้หวานอร่อย ลูกค้าติด
ดาบวอน ปลูกมะละกอพันธุ์เรดมาลาดอร์ จำนวน 5 ไร่ เริ่มปลูกได้ 3 ปีแล้ว แรกๆ ปลูกทิ้งไว้เฉยๆ ไม่ได้ดูแลอะไรมาก ถึงเวลาผลผลิตออก ลองเก็บไปขาย ปรากฏว่าลูกค้าติด จึงเริ่มหันมาปลูกจริงจัง ดาบวอน บอกว่า ตนโชคดีตรงพื้นที่ปลูกดินดี ค่า pH ของดินเหมาะสมกับพืชชนิดนี้ การดูแล ใส่ปุ๋ยให้น้ำสม่ำเสมอ รสชาติถึงจะได้กลมกล่อม ลูกค้าจะชอบขนาดลูกละ 1 กิโลกรัม การดูแลผิวอยู่ที่การพ่นยา ถ้าพ่นสม่ำเสมอลูกจะไม่มีเชื้อรา ลูกจะเนียนสวย
วิธีการปลูก
มะละกอพันธุ์เรดมาลาดอร์ มีลักษณะลูกเรียว ผิวสวย เนื้อแน่น หวาน การปลูกไม่ยาก ถางหญ้าเตรียมแปลงให้สะอาด ไม่ต้องยกร่องใดๆ เพราะสภาพพื้นที่เป็นเนินไม่ต้องไถ วัดระยะให้ได้ 2.5 เมตร แล้วใช้ไม้ปัก ขุดหลุมลึก 30 เซนติเมตร กว้าง 30-40 เซนติเมตร ความห่างระหว่างต้น 2.5×2.5 เมตร
เจ้าของพรวนดินแล้วใส่ปุ๋ยคอก คือ ขี้หมู ขี้หมูจะเข้ากับมะละกอได้ดี ใส่แล้วมะละกอจะผิวสวย รสชาติอร่อย และใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 รองพื้น
หลังจากเตรียมดินใส่ปุ๋ยรองก้นหลุมเสร็จ นำต้นพันธุ์ที่เพาะไว้ลงหลุมปลูก ที่สวนดาบวอนใช้วิธีเพาะต้นในถุงดำ ใช้เวลา 45-60 วัน 1 หลุม ลงได้ 3 ต้น เพราะมะละกอจะมีเพศอยู่ คือ ตัวผู้ ตัวเมีย และสมบูรณ์เพศ (กะเทย) บางหลุมเป็นตัวเมียทั้ง 3 ต้น ต้องตัดทิ้งแล้วปลูกใหม่ คือเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าตอนปลูกเป็นเพศอะไร จะรู้เมื่อตอนออกดอก ใช้เวลา 3 เดือน นี่จึงเป็นเหตุผล ที่ 1 หลุม เราต้องปลูก 3 ต้น ดาบวอนจึงใช้วิธีถ้าหลุมไหนมีต้นกะเทย 2 ต้น ขึ้นไป จะตอนกิ่ง 2 ต้นนั้นไปปลูก วิธีนี้ชัวร์ 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องห่วงเรื่องกลายพันธุ์ มะละกอปลูกได้ทั้งปี
หลังปลูก 8 เดือน ให้ผลผลิต
การดูแลใส่ปุ๋ย
หลังจากปลูกเสร็จเรียบร้อย ใส่ปุ๋ยรดน้ำ พรวนดิน เพราะว่าจะทำให้รากขยายได้เร็ว ถ้าไม่พรวนดินรากจะชอนไชได้ยากกว่า และถ้าฝนตกมาดินชุ่มระบบรากก็ไม่มีปัญหา เพราะว่ามันกระจาย
ปุ๋ยทางใบ พ่นปุ๋ยฮอร์โมนทางใบเสริม ให้พืชดูดซึมอาหารทั้งทางรากและทางใบ
ปุ๋ยทางราก 15 วัน ใส่ 1 ครั้ง บางช่วงเว้นนาน 1 เดือน ใส่ครั้ง ไม่เน้นให้เยอะ เน้นให้พืชได้กินไปเรื่อยๆ
ระบบน้ำ หน้าฝนไม่ต้องรดน้ำ แต่ช่วงหน้าแล้งให้น้ำโดยระบบน้ำหยด ได้ผลดี ความถี่ในการรดน้ำ 4 วัน ต่อครั้ง เปิดนาน 2 ชั่วโมง ถือว่ากำลังดี มะละกอเป็นพืชที่ชอบอากาศที่ถ่ายเทได้ดี มีลมพัด ชอบดินที่ไม่อุ้มน้ำเกินไป คือ ดินร่วน ช่วงหน้าฝนจะไม่มีปัญหาเรื่องมะละกอเน่าตาย เพราะดินเราร่วน
ดูแล ป้องกันโรค
เน้นป้องกัน จะไม่ปล่อยให้เกิดปัญหาก่อนแล้วแก้ ถ้าทำอย่างนี้เมื่อโรคระบาดจะรักษาไม่ทัน
การป้องกัน ไม่มีอะไรมาก เพียงพ่นยาบำรุง แต่ด้วยความที่สวนของดาบวอนเป็นพื้นที่เนิน มีลมพัดตลอด จึงได้เปรียบเรื่องโรค โรคจะเกิดน้อย จะมีแต่เพลี้ยแป้ง หากมีก็พ่นยา ไม่ยาก ใช้อินทรีย์ชีวภาพจะมีสูตรของดาบวอนเอง ถือว่าได้ผลผลิตออกมาเป็นที่น่าพอใจ
ลงทุนหลักพันต่อไร่ เงินทุนน้อยสามารถทำได้
ดาบวอน บอกว่า มะละกอ เป็นพืชที่ปลูกและดูแลง่าย เพียง 8 เดือน ก็ให้ผลผลิต 3 วัน เก็บขาย 1 ครั้ง เก็บครั้งหนึ่ง 2-3 เข่ง สร้างรายได้เรื่อยๆ ครั้งละ 2,000-3,000 บาท ถือว่าเยอะกว่าเงินเดือนตำรวจ
1 ไร่ ลงทุนเพียง 3,000 บาท ซื้อเมล็ดพันธุ์ 1 กระป๋อง ราคาประมาณ 1,000 บาท สามารถปลูกได้ 3-4 ไร่ ค่าปุ๋ยสูตรประมาณ 1,500 บาท บวกค่าน้ำ ค่าไฟ นิดหน่อย ส่วนใหญ่ลงแรงมากกว่า ถ้าหน้าแล้งจะต้องมีเครื่องปั่นไฟเพื่อปั๊มน้ำขึ้นมา มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 1,000 บาท สรุปแล้วค่าลงทุนถือว่าน้อยมาก ค่ายารักษาโรคแทบไม่มี เพราะสวนยังไม่มีปัญหาไวรัส
เก็บแบบละเมียดละไม ลูกไม่ช้ำ ลูกค้าชอบ
วิธีเก็บมะละกอของดาบวอน จะใช้ไม้ไผ่ที่ประดิษฐ์ขึ้นมาเอง ทำเป็นง่ามที่เป็นซี่ตรงปลายแล้วถ่างให้มีขนาดกว้างพอดีกับลูกมะละกอ เอาผ้า 2-3 ชั้น สวม เก็บทีละลูก เก็บแบบนี้ไม่มีช้ำ ลูกค้าชอบ
การตลาด เปิดท้ายรถกระบะขายข้างทาง ลูกค้าต่อคิวซื้อ
ก่อนปลูกดาบวอนไม่ได้มีการหาตลาดมาก่อน ใช้วิธีคิดที่ว่ามะละกอเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพ รสชาติดี เป็นที่ต้องการของตลาดอีกมาก
“ผมคิดว่า ถ้าผมทำได้ วันหนึ่งจะทำเงินกี่หมื่นก็ได้ อีกอย่างบริเวณที่ผมทำสวน ชาวบ้านจะปลูกลำไยเป็นส่วนมาก ผมจึงถือโอกาสเปลี่ยนมาปลูกมะละกอ ตอนแรกปลูกไม่เยอะ เพราะคิดจะปลูกเล่นๆ แต่เผอิญว่ากลับได้ผลดี ขายลูกละ 20-30 บาท ถ้าส่ง กิโลกรัมละ 15 บาท ราคาขายถือว่าถูกกว่าในท้องตลาด อย่างปีที่แล้วลองตอนกิ่งแล้วเอามาขายข้างทาง ขายกิ่งละ 120-150 บาท ลูกค้าก็สั่งมาเยอะ ตอนนี้พูดง่ายๆ ว่าทั้งมะละกอผลสุกและกิ่งตอน ของไม่พอขาย สร้างรายได้อย่างต่ำเดือนละ 20,000-30,000 บาท ถ้าบำรุงดีกว่านี้ จะได้เยอะกว่านี้” ดาบวอน กล่าว
ฝากถึงคนที่มีฝัน ไม่ต้องรอถึงเกษียณก็ทำได้
“การทำเกษตร ผมถือว่าเป็นความสุข เราเป็นข้าราชการบางคนคิดว่าต้องรอเกษียณถึงจะออกมาทำ แต่ผมอายุ 43 ผมคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องรอถึงบั้นปลาย เรามีเวลา เราหาเวลาว่างมาทำ ทำไปทีละหน่อย แรกๆ อาจยังไม่เห็นผล ทำไปสักพักเราจะรู้ว่าพื้นที่ตรงนั้นมันเหมาะแก่การปลูกอะไร ตลาดต้องการอะไร เราก็ลงมือทำ พอทำแล้วก็ได้ผลชัดเจน อีกหน่อยปีหน้าคิดว่าจะลุยกว่านี้ ตอนนี้คิดว่ามาถูกทางแล้ว” ดาบวอน กล่าว
สอบถามข้อมูล หรือปรึกษาวิธีการปลูกมะละกอได้ที่ ด.ต. ศศิวัฒน์ ทรัพย์วรธนา (ดาบวอน) โทร. (098) 256-4597